No data was found

โจ๋เพชรบูรณ์ เย้ยกฎหมาย โพสต์ขายยาบ้า พร้อมโชว์รีวิวลูกค้ารับของจริงไม่บิด

กดติดตาม TOP NEWS

โจ๋เพชรบูรณ์ เย้ยกฎหมาย โพสต์ขายยาบ้า พร้อมโชว์รีวิวลูกค้ารับของจริงไม่บิด

วันที่ 22 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์ ได้โพสต์ภาพเฟซบุ๊กของชายรายหนึ่ง ที่โพสต์ขายยาเสพติดโจ๋งครึ่ม แบบไม่เกรงใจใคร โดยโพสต์เป็นซองบรรจุยาเสพติดแบ่งขาย พร้อมระบุว่า “หวัดดีวัยรุ่นเพชรบูรณ์ ใครสนใจตัวเล็ก-ตัวใหญ่ ในพื้นที่นัดรับได้ที่อำเภอเมือง งานชนงาน ของถึงมือแน่นอน กำลังแพ็คจัดส่งให้คืนนี้นะครับ ลูกค้าทุกคน #เสรี ไม่เกิน 5 เม็ด #ของแทร่”

พร้อมทั้งนำรูปภาพ ที่คาดว่าจะเป็น ยาบ้าที่ถูกแพคในซองจำนวนมาก วางคู่กับอุปกรณ์การเสพ และไฟแชค เพื่อรอการจำหน่าย ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีของคณะรัฐบาลประกาศไว้ คือ ครอบครองยาบ้า 5 เม็ดคือผู้เสพ ผู้เสพคือผู้หลงผิด

ซึ่งเบื้องต้นไม่รู้ว่าเป็นการโพสต์เพื่อเรียกความสนใจในโซเชียล หรือ เป็นการประกาศขายยาบ้าจริง ๆ กันแน่ ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก พร้อมถามว่า ทำได้ด้วยหรือ กล้ามาก เจ้าหน้าที่อยู่ไหนรีบไปจัดการด่วน บ้างก็แสดงความห่วงใยในฐานะของผู้ปกครองที่เป็นห่วงลูกหลานจะเข้าถึงยาเสพติดได้ง่าย เป็นต้น

 

เย้ยกฎหมาย โพสต์ขายยาบ้า

 

นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังได้เข้าไปตอบคอมเม้นท์ ว่าตนเองทำมานานแล้ว เพียงแต่ ครม.กำลังทำให้ถูกกฎหมายครับ แถมยังมีการโพสต์ภาพรีวิว เป็นรูปพระสงฆ์รูปหนึ่งกำลังนั่งเสพอยู่ พร้อมระบุข้อความว่า รีวิวจากหลวงพี่ วัดแถวป่าแดง ในเมือง ของจริง ส่งจริง งานชนงาน พร้อมติดแฮชแทค # ของแทร่

เย้ยกฎหมาย โพสต์ขายยาบ้า

 

เย้ยกฎหมาย โพสต์ขายยาบ้า

เย้ยกฎหมาย โพสต์ขายยาบ้า

 

ซึ่งจากนี้คงต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ให้เร่งดำเนินการติดตามผู้ค้ารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะข้อความที่นำมาโพสต์ กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจกับปัญหายาบ้า ที่กำลังเกลื่อนเมือง แถมยังไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายอีกด้วยซ้ำ

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งเรื่องนี้ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีดราม่าเรื่อง กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ผู้เสพ หรือผู้ครอบครองยาเสพติดไม่เกิน 5 เม็ด ไม่มีโทษอีกต่อไป โดยยืนยันว่า

ยังคงมีความผิดตามกฎหมาย และมีโทษทั้งจำทั้งปรับ โดย พ.ต.อ.อุเทพ นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เผยว่า ข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ได้ออกกฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ.2567 ลงวันที่ 31 มกราคม 2567 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น กฎกระทรวง ได้ประกาศออกมาตามความในมาตรา 24 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 และ มาตรา 107 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นข้อสันนิษฐานว่า การครอบครองยาเสพติดในปริมาณเล็กน้อยตามที่กำหนด ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ถือว่าผู้นั้นเป็นป่วย ต้องได้รับการการบำบัดรักษาเพื่อให้หายจากการติดยาเสพติดและกลับเข้าสู่สังคม

ดังนั้น การเสพยาเสพติดยังคงมีโทษอยู่ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 104 , 162 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากผู้เสพสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด และดำเนินการเข้ารับการบำบัดจนครบถ้วน ก็จะไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 113

ทั้งนี้ บทลงโทษทางกฎหมายยังคงมีอยู่ ซึ่งกฎหมายนี้มีเจตนารมย์ที่จะช่วยเหลือให้เข้ารับบำบัดโดยไม่เอาผิดทางอาญา หรือการลดการเป็นอาชญากรรมของผู้เสพ “มองผู้เสพ เป็นผู้ป่วย” ใช้กระบวนการทางสาธารณสุขและสุขภาพในการแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติด

ส่วนการครอบครองยาเสพติดในปริมาณเล็กน้อยไว้เพื่อเสพ เช่น ยาบ้า ไม่เกิน 5 เม็ด หรือยาไอซ์ ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือยาเค มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 ยังคงเป็นความผิดฐาน “ครอบครองเพื่อเสพ” ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 107 , 164 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

แต่หากผู้ครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพ สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา และดำเนินการเข้ารับการบำบัดจนครบถ้วน ก็จะไม่มีความผิด ตาม ม.113 เช่นกัน โดยการครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพ แบ่งเป็น 2 กรณี คือ

กรณีที่ 1 การครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพตามพฤติกรรมอันแท้จริง เช่น มียาบ้า 10 เม็ด แม้จะมีปริมาณเกินกว่าที่กฎกระทรวงกำหนด แต่หากข้อเท็จจริง พยานหลักฐานต่างๆ ยืนยันได้ว่า ยาบ้าจำนวน 10 เม็ดนั้น มีไว้เพื่อเสพจริง ไม่มีพฤติการณ์หรือประวัติในการจำหน่ายยาเสพติด มีผลตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ เช่นนี้ มีความผิดฐาน ครอบครองเพื่อเสพ

กรณีที่ 2 การครอบครองยาเสพติดไว้เพื่อเสพปริมาณเล็กน้อยไม่เกินที่กำหนด เช่น ยาบ้า ไม่เกิน 5 เม็ด หรือ ยาไอซ์ ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม หรือยาเค มีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม ตาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 หากไม่มีพฤติการณ์หรือประวัติในการจำหน่ายยาเสพติด เช่นนี้ มีความผิดฐาน ครอบครองเพื่อเสพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อคส." แจงดูแลกองข้าวค้างโกดังตามขั้นตอนปกติ ไร้สับเปลี่ยนข้าวสารจัดฉากกิน พร้อมฟ้องผิดไม่หยุดบิดเบือน
"ทนายอนันต์ชัย" ร้อง พม. เอาผิดพ่อ-แม่ "น้องไนซ์ เชื่อมจิต" พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
"รมว.ดีอี" แจ้งศาลอาญามีคำสั่งปิดแพลตฟอร์ม "ลอตเตอรี่ พลัส" แล้ว
"ศุภชัย-ณัฏฐ์ชนน" ยันจุดยืนภูมิใจไทย เดินหน้าหนุนกม.กัญชาเพื่อการแพทย์ ต่อยอดเศรษฐกิจ มั่นใจผ่านสภาฯ
“อนุทิน” มอบ “ศุภชัย” เข้าพบ จุฬาราชมนตรี หารือ อำนวยความสะดวก ชาวไทยมุสลิม 8 พันคน เดินทางประกอบพิธีฮัจญ์
ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ "พระธรรมวชิรมุนี-พระธรรมวัชรบัณฑิต" ขึ้นเป็นรองสมเด็จฯ
สาธุ "สามเณร 8 ขวบ" สอบผ่าน "ปาติโมกข์" ท่องจบภายใน 55 นาที
สามีทะเลาะภรรยา แม่ยายฉุนขาด คว้ามีดแทงลูกเขยดับสลด เจ้าตัวเล่าหมดเปลือกถึงเหตุลงมือ
อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นำ 4 ประกอบการรับกำจัดของเสียรายใหญ่ สำรวจกากสารเคมีในโกดังที่ถูกไฟไหม้ของโรงงานวินโพรเสส จ.ระยอง
ตม.ชลบุรี ปิดล้อมตรวจค้นแหล่งที่พักต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง หนีภัยสงคราม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น