อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีฟินแลนด์คนใหม่ มุ่งกระชับสัมพันธ์อียู สนับสนุนยูเครน พร้อมตัดขาดรัสเซีย
นายอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 13 ของฟินแลนด์อย่างหวุดหวิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ โดยเอาชนะนายเปกก้า ฮาวิสโต อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจากพรรคกรีน ไปด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 51.6 ขณะที่ฮาวิสโตได้คะแนนอยู่ที่ร้อยละ 48.4 สตับบ์มีนโยบายโปรสหภาพยุโรป และสนับสนุนยูเครน รวมถึงจุดยืนที่จะเพิ่มการต่อต้านรัสเซีย
ในการกล่าวปราศรัยที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ สตับบ์กล่าวว่า ชัยชนะครั้งนี้ เป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา ส่วนฮาวิสโตก็กล่าวยอมรับความพ่ายแพ้และแสดงความยินดีกับสตับบ์ พร้อมยอมรับว่า สตับบ์เป็นคนที่มีประสบการณ์ และมีความสามารถ เหมาะสมกับตำแหน่ง
การเลือกตั้งของฟินแลนด์มีการลงคะแนน 2 ครั้ง ซึ่งในรอบแรกเมื่อวันที่ 28 มกราคม สตับบ์ ก็จะชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 27.2 แซงหน้าฮาวิสโตที่ได้คะแนนเสียงร้อยละ 25.8 เช่นกัน
การเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นยุคใหม่ของฟินแลนด์ ซึ่งนโยบายที่ผ่านมาหลายสิบปีส่งเสริมการทูตใกล้ชิดกับรัสเซีย และเลือกที่จะไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต เพื่อบรรเทาความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและนาโต แต่หลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2565 ฟินแลนด์ได้เปลี่ยนนโยบายโดยทันที และเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโตเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว
ต่อจากนี้สตับบ์จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายของฟินแลนด์ต่อนาโต ขณะเดียวกันก็เป็นผู้นำด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง โดยเขาจะทำงานร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ในการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อเดือนที่แล้ว สตับบ์กล่าวว่า จะไม่มีการสานสัมพันธ์กับประธานาธิบดีรัสเซีย หรือผู้นำทางการเมืองของรัสเซีย จนกว่าพวกเขาจะยุติสงครามในยูเครน พร้อมประกาศสนับสนุนความร่วมมือเชิงลึกกับนาโต เช่น การอนุญาตให้มีการขนส่งอาวุธนิวเคลียร์ข้ามดินแดนฟินแลนด์ และการส่งกองทหารนาโตบางส่วนไปประจำการในฟินแลนด์อย่างถาวร อย่างไรก็ตาม เขาไม่สนับสนุนการจัดเก็บอาวุธนิวเคลียร์ในฟินแลนด์