คณะกรรมการพิจารณาอภัยโทษในมาเลเซีย มีมติลดโทษให้อดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ลงครึ่งหนึ่ง จาก 12 ปี เหลือ 6 ปี และลดโทษปรับจาก 210 ล้านริงกิต (ประมาณ 1,576 ล้านบาท) ลงมาเหลือ 50 ล้านริงกิต (ประมาณ 375 ล้านบาท)
อดีตนายกฯนาจิบ เริ่มรับโทษจำคุก 12 ปี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 เมื่อได้รับการลดหย่อนโทษเหลือ 6 ปี ก็หมายความว่า เขาจะได้รับการปล่อยตัวภายใน สิงหาคม 2571 แต่ถ้าไม่จ่ายโทษปรับ 50 ล้านริงกิต กำหนดปล่อยตัวจะเลื่อนออกไป 1 ปีเป็น สิงหาคม 2572 ( โทษปรับเดิม 210 ล้านริงกิต ถ้าไม่จ่าย ให้ติดคุกแทนเพิ่มอีก 5 ปี)
นาจิบ วัย 70 ปี ต้องโทษจำคุก 12 ปีจากความผิดฐานทุจริต ใช้อำนาจโดยมิชอบ และฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับยักยอกเงิน 42 ล้านริงกิต จากบริษัทลูกของ วันเอ็มบีดี กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งถูกยุบไปแล้ว ทีมสอบสวนของสหรัฐและมาเลเซียประเมินว่า กองทุนนี้ถูกขโมยเงินออกไปสูงถึง 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้ กว่าพันล้านดอลลาร์ ถูกถ่ายเทเข้าบัญชีเกี่ยวข้องกับอดีตนายกฯ ปัจจุบัน นายนาจิบยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอีกหลายข้อหา เกี่ยวเนื่องกับการทุจริตกองทุนฉาว
หลังศาลสูงสุดมาเลเซียพิพากษายืนคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ นาจิบกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องเข้าคุกในประวัติศาสตร์มาเลเซีย และได้ขอพระราชทานอภัยโทษหลังจากเข้าคุกไม่กี่วัน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา เขายืนกรานไม่ได้ทำอะไรผิด อ้างว่าถูก โจ โลว์ นักลงทุนที่เป็นผู้ร้ายหนีคดี และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ของวันเอ็มบีดี ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับแหล่งที่มาของกองทุน โดยเขาเชื่อว่า เป็นเงินบริจาคจากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย
การลดโทษอดีตผู้นำในคดีทุจริตแบบมโหฬาร ทำให้อันวาร์ อิบราฮีม นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ถูกตั้งคำถามอีกรอบ ถึงความจริงใจในการล้างบางทุจริตและปฏิรูป อันวาร์ชูเรื่องปราบโกงในตอนเลือกตั้ง แต่ต้องจับมือกับพรรคอัมโนของนาจิบที่มีมลทินข้อหานี้ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2565 หลังมาเลเซียได้สภาแขวน มีการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อปีที่แล้ว บรรดาแกนนำอัมโนหลายคน ได้รับการยกฟ้องในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริต
คณะกรรมการพิจารณาอภัยโทษของมาเลเซีย มีสมเด็จพระราชาธิบดีเป็นประธาน กรรมการท่านอื่น ประกอบด้วยอัยการสูงสุด และเจ้าหน้าที่ที่มาจากการแต่งตั้ง 3 คน คำร้องของนาจิบเข้าสู่การพิจารณาเมื่อ 29 มกราคม ในรัชสมัยของอดีตสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ อาหมัด ชาห์ ที่เพิ่งครองราชย์ครบ 5 ปีเมื่อ 30 มกราคม จากนั้น สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่าน อิบราฮีม อิสกันดาร์ ขึ้นครองราชย์สืบต่อตามระบบหมุนเวียน 5 ปี
