No data was found

“พิชัย” สวนหนัก “ธปท.-สภาพัฒน์” ชี้ภาวะศก.ไทยถดถอยแรง จี้แบงก์ชาติเยียวยาปชช.เดือดร้อนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

กดติดตาม TOP NEWS

"พิชัย" สวนหนัก "ธปท.-สภาพัฒน์" ชี้ภาวะศก.ไทยถดถอยแรง จี้แบงก์ชาติเยียวยาปชช.เดือดร้อนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

ยังคงเป็นประเด็นร้อนทางเศรษฐกิจ หลังจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดถึงนโยบายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยระบุว่า ธปท.ควรแสดงการสนับสนุนรัฐบาล ในการแก้ปัญหา 5 เรื่องสำคัญ ควบคู่ไปกับแนวทางปฏิบัติของธปท. ว่าด้วยการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน

1. อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจที่มีอัตราตัวเลขต่ำมาเป็นเวลานาน และยังมีแนวโน้มในปี 2567 จะขยายตัวต่ำอีก
2. หนี้ครัวเรือนที่สูงกว่า 16.5 ล้านล้านบาท หรือ กว่า 90% ของจีดีพี ธปท.
3. เงินเฟ้อที่ติดลบมาต่อเนื่อง 3 เดือน นับจากเดือน ตุลาคม 2566 และคาดหมายว่าเดือนมกราคมน่าจะติดลบอีก
4. การส่งออกที่ติดลบในปี 2566 และแนวโน้มการส่งออกที่จะขยายตัวต่ำอีกในปี 2567
5. สภาพคล่องในระบบการเงิน และ สภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลงอย่างมาก ธปท.

 

ล่าสุด นายพิชัย ได้แสดงความเห็นเพิ่มเติม ภายหลังกระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 อยู่ที่ 1.4% และจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปี 2566 อยู่ในระดับเพียง 1.8% ซึ่งนับว่าต่ำมาก ตรงกับที่ตนได้เคยเตือนไว้แล้วว่าเศรษฐกิจปี 2566 จะขยายได้ไม่ถึง 2.4-2.5% ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สภาพัฒน์ฯ คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน

 

ทั้งที่ทั้งสองหน่วยงานลดการคาดการณ์จากเดิมที่ 3.6% ลงมาแล้วแต่ก็ยังไม่ถึง ดังนั้นอยากให้ ธปท. และ สภาพัฒน์ฯ ได้คาดการณ์เศรษฐกิจตามความเป็นจริง เพราะที่ผ่านมาทุกปี การคาดการณ์ผิดพลาดอย่างมากมาโดยตลอด และ การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ ก็จะไม่ดีเช่นกันถ้าหากไม่เร่งช่วยกันแก้ไขปัญหา และช่วยสนับสนุนแนวทางใหม่ๆ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าต้องเกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น แต่เกี่ยวกับทุกแนวทางที่สามารถทำได้ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยพัฒนาไปมากกว่านี้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“การที่ผู้ว่าฯ ธปท. ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ (รอยเตอร์) ว่าเศรษฐกิจไทยไม่วิกฤตแต่ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ จึงอยากจะถามว่าถ้าขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ไว้มากเป็นเวลานาน 10 ปีติดต่อกัน เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ ถือเป็นวิกฤตในอีกรูปแบบหนึ่งใช่หรือไม่ และ ตั้งแต่ปี 2563 ที่ผู้ว่าธปท. เข้ารับตำแหน่งจนจะครบเทอมในปลายปีนี้ เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในแดนลบมาตลอดไม่ทราบว่าท่านผู้ว่า ธปท.ทราบหรือไม่

เพราะในปี 63 ที่ท่านผู้ว่า ธปท. เข้ารับตำแหน่ง เศรษฐกิจไทย ติดลบหนักที่ – 6.1% โดย 3 ปีต่อมา ปี 64 ( ขยาย +1.6%) ปี 65 (ขยาย +2.6%) ปี 66 ( ขยาย 1.8%) รวมกัน (1.6% +2.6%+1.8% = 6%) ซึ่งยังไม่ถึงที่ตกลงมาเลย เท่ากับประเทศไทยอยู่กับที่หลังจาก 4 ปีแล้ว ซึ่งหากตนเป็นผู้ว่าธปท. ตนจะต้องรู้สึกกังวล เดือดร้อน และ ผิดหวัง เพราะประเทศส่วนใหญ่ขยายตัวในปี 64 มากกว่าปี 63 ที่ตกลงมาแล้ว

และปัจจุบัน บางประเทศยังขยายตัวเพิ่มขึ้นไปอีกถึง 15-20% ด้วยซ้ำ เช่น ประเทศเวียดนามตั้งแต่ปี 63 เศรษฐกิจขยายตัวได้มากกว่า 20% แต่ไทยกลับยังอยู่กับที่ ถ้าหากท่านผู้ว่า ธปท. ไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา ท่านผู้ว่า ธปท. ก็น่าจะมีปัญหาในวิธีคิดแล้ว อีกทั้งจากการสำรวจของรายการเรื่องเล่าเช้านี้ พบว่า 93% ของประชาชนเห็นว่าเศรษฐกิจวิกฤต โดยมีผู้เข้าโหวตถึงกว่า 2.4 แสนคน ท่านผู้ว่าธปท. คงต้องไปอธิบายให้คน 93% เหล่านี้เข้าใจว่าทำไมถึงไม่วิกฤต”

รองประธานยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า “การที่ผู้ว่า ธปท. ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้มากขึ้นต้องปรับโครงสร้าง ตนก็อยากถามว่าท่านผู้ว่าฯธปท. ได้ทำอะไรเพื่อเป็นการสนับสนุนการปรับโครงสร้างบ้าง ถ้านึกไม่ออก ตนจะขอเสนอแนวทางการพิจารณาโดยเริ่มต้นจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารพาณิชย์ลง เพื่อให้ช่วงห่างระหว่างเงินกู้และเงินฝากลดลง เพื่อลดภาระของประชาชนและผู้ประกอบการ”

 

ทั้งนี้เข้าใจดีว่าดอกเบี้ยนโยบายอาจจะปรับลงยังไม่ได้ เพราะต้องคำนึงผลกระทบหลายทาง แต่การลดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ โดยลดช่วงห่างของเงินกู้เงินฝากลง ธปท. สามารถบังคับทำได้ทันทีและควรต้องเร่งทำ ทั้งนี้ อาจทำผ่านคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) อย่าปล่อยให้รายได้ จีดีพี ที่เพิ่มขึ้นไปตกอยู่กับธนาคารพาณิชย์เกือบทั้งหมด เพราะกำไรของธนาคารพาณิชย์กว่า 2.2 แสนล้านบาทนั้นมากกว่า 1% ของจีดีพีแล้ว และต้องให้ธนาคารพาณิชย์กระจายการปล่อยกู้ให้เข้าถึงรายย่อยและ SMEs ด้วย โดยเฉพาะการช่วยเหลือ SMEs ที่ขาดสภาพคล่องแต่ธุรกิจยังมีอนาคตที่จะไปรอดได้

 

นอกจากนี้ในปี 2567 นี้ คาดกันว่าสภาพคล่องในระบบการเงินและการธนาคารจะเป็นปัญหา ซึ่งจะฉุดให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่ำลง จึงอยากถามว่า ธปท. ได้เตรียมการเรื่องนี้ไว้อย่างไร อีกทั้ง พันธบัตรเงินกู้ ตราสารหนี้ และ หุ้นกู้ของหลายบริษัทกำลังจะมีปัญหาการชำระไถ่ถอน ธปท. เตรียมรับมืออย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือ อยากให้ ธปท. กลับไปทบทวนว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา การกำหนดนโยบายทางการเงิน การกำหนดอัตราดอกเบี้ย และ การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท. สนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยขนาดไหน และควรจะต้องปรับแก้อย่างไรเพื่อสนับสนุนให้เกิดการปรับโครงสร้างของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ เหมือนที่แบงก์ชาติของหลายประเทศที่มีความสามารถแข่งขันสูงทำกัน

 

“อยากให้ท่านผู้ว่า ธปท. ได้มีโอกาสสัมผัสปัญหาของประชาชนที่รายได้ไม่เพิ่ม แต่รายจ่ายเพิ่ม หนี้สินเพิ่ม อีกทั้งหลายคนต้องไปพึ่งหนี้นอกระบบที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมหาโหดที่รัฐบาลต้องโดดลงมาช่วยแก้ไขนี้ อย่าให้ประชาชนตำหนิได้ว่าท่านผู้ว่า ธปท. รับรายได้ถึงปีละกว่า 20 ล้านบาท จึงไม่รู้ว่าประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ผู้ใช้แรงงาน และ เกษตรกร มีความทุกข์ และความลำบากกันอย่างไร”

 

ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ท่านผู้ว่า ธปท. เร่งแก้ไข และ เลิกแก้ตัวได้แล้ว โดยพิสูจน์ให้เห็นว่าในเวลาที่เหลือในตำแหน่งนี้ ท่านผู้ว่า ธปท. จะช่วยให้ เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เท่าไหร่ เพราะจะเป็นประวัติศาสตร์การทำงานของท่านผู้ว่า ธปท. เองไปชั่วชีวิต ท่านผู้ว่า ธปท. คงไม่อยากให้มีประวัติการทำงานว่าบริหารนโยบายการเงินมาตลอด 4 ปี แต่กลับทำให้เศรษฐกิจไทยอยู่กับที่ ไม่ได้มีการเจริญเติบโตเลย จะเป็นเรื่องที่น่าละอายหรือไม่

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฝรั่งเศส คนร้ายโจมตีรถชิงผู้ต้องขัง จนท.ดับ 2 ราย
จอร์เจีย ฮือประท้วง –สภาฯผ่านกม.คุมเข้มองค์กรต่างชาติแล้ว
อียิปต์ โต้กลับอิสราเอล ชี้เป็นต้นเหตุปิดจุดผ่านแดนราฟาห์
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการร่วมโครงการตรวจเยี่ยม และรับฟังปัญหาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายกฯ เสียใจ “บุ้ง ทะลุวัง” เสียชีวิต ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขอฟังกรมราชทัณฑ์แถลงอย่างเป็นทางการ
รัฐบาลย้ำสพฐ. พร้อมเปิดเทอม 16 พ.ค. นี้ กำชับผู้บริหารโรงเรียน ดูแลเข้ม ให้สิทธิ์เลื่อน เหตุโควิด-ฝุ่น PM2.5
คืบหน้า เปิดใจสาวทอมไม่มีเจตนาฆ่าแมว ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ
“พายุ” ซัด “สุนัย” ฮิวแมนไรต์ฯ บิดเบือนโพสต์ทูตต่างประเทศปม "บุ้ง" เสียชีวิต
"ทนายด่าง" แจงเหตุต้องผ่าชันสูตรศพ คาใจ 2 ปม "บุ้ง" เสียชีวิต
นายกฯ เตรียมนำคณะนักธุรกิจไทย เยือน 3 ประเทศ ฝรั่งเศส-อิตาลี-ญี่ปุ่น 15-24 พ.ค.นี้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น