ดร.ยุทธพร ชี้ประเด็นศาลรธน.วินิจฉัย “เลขาธิการภูมิใจไทย” พ้นรมต. ไม่กระทบถึงขั้นเอาผิดยุบพรรค

ดร.ยุทธพร ชี้ประเด็นศาลรธน.วินิจฉัย "เลขาธิการภูมิใจไทย" พ้นรมต. ไม่กระทบถึงขั้นเอาผิดยุบพรรค

 

25 มกราคม 2567 รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้ความเห็นต่อโอกาสยุบพรรคภูมิใจไทย จากความผิดของเลขาธิการพรรคว่า

ในกรณีนี้ แม้ศาลจะให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ก็เป็นความผิดเฉพาะตัว ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค หรือคณะกรรมการบริหารพรรค ไปยื่นยุบพรรคไม่ได้ มันไม่ได้เป็นการกระทำทางการเมือง ที่จะไปยุบพรรคกัน

ส่วนเรื่องที่บริษัท ที่มีความสัมพันธ์กันเข้ามาบริจาคเงินให้พรรค ที่มีการบอกว่า นี่จะเป็นชนวนให้พรรคถูกยุบ ต้องขอเห็นต่าง เพราะจำได้ไหม เมื่อก่อน มีพรรคการเมืองหนึ่งจัดโต๊ะจีน แล้วมีการไปร้อง กกต.กัน สุดท้าย กกต.ยกคำร้อง เรื่องเงินบริจาค ถ้ามันไม่ได้มาจากการฟอกเงิน มันไม่มีปัญหาถึงยุบพรรค

อย่าลืมว่าการยุบพรรค ความผิดที่เกิดขึ้น มันต้องทำในนามพรรค กฎหมาย มันชัดเจนแล้ว เมื่อก่อน มีการจ้างพรรคเล็ก โดย นักการเมือง แล้วมันไปถึงยุบพรรค เพราะใช้กฎหมายเก่า แต่ทุกวันนี้ ต้องชัดว่าความผิดนั้น ผู้บริหารพรรค ต้องรู้เห็นด้วยอย่างพร้อมเพรียง ไม่ใช่ว่าทำผิดคนเดียว แล้วไปยุบกันหมด

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ส่วนการยุบพรรคอนาคตใหม่ ศาลท่านมองเรื่องนิติกรรมอำพราง และการบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท ซึ่งมันทำไม่ได้ แต่ศาล ไม่ได้สนใจเรื่องที่มาของเงินบริจาค ตอนนั้น สนใจวิธีการ และจำนวน สรุปคือ เชื่อว่า พรรคภูมิใจไทย จะไม่ถูกยุบ

 

 

โดยก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2566 ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัย ในคำร้องของ สส.พรรคก้าวไกล ได้ยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีการถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชัน ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบกับมาตรา 187 หรือไม่

 

คดีนี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง) ว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (ผู้ถูกร้อง) ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 147 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 17 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่

 

ทั้งนี้นายศักดิ์สยามได้หยุดปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศาลตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2566 โดยปัจจุบันไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดทางการเมือง เพียงแต่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

 

ก่อนพิจารณาคำร้องนี้ ประธานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า นายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลาป่วย ต่อจากนั้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้แถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติโดยครบองค์คณะของศาลรัฐธรรมนูญตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 52 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า องค์คณะของศาลในการพิจารณาคดีและในการทำคำวินิจฉัย ต้องประกอบด้วยตุลาการไม่น้อยกว่าเจ็ดคน

 

ผลการลงมติ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 1) วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง คือ วันที่ 3 มีนาคม 2566

 

โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อยจำนวน 1 คน คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม เห็นว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)

 

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยามได้ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ หมายเลข 366 สังกัดพรรคภูมิใจไทย นับตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.2567

 

และได้ยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลาออกจากตำแหน่ง เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นับตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.2567 เป็นต้นมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สภ.ท่าศาลา เดินหน้าปราบปรามรถแต่งซิ่งอย่างต่อเนื่อง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'น้ำตกเขาหลูซาน' ไหลหลั่งงดงามดั่งบทกวี
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เทียนจินดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยทรัพยากรทางวัฒนธรรม
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนอวดโฉมเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ในพิธีสวนสนาม
คนละครึ่งฟื้นเศรษฐกิจ
ค้นพบแหล่งโบราณคดี 2,000 ปี "ผาปางเปือย" บนยอดเขาภูขัด พิษณุโลก

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​