วันที่3 ก.ย. 2564 จากสถานการณ์โควิด19ทำให้สำนักจุฬาราชมนตรีได้ออกประกาศงดใช้มัสยิดในการประกอบศาสนกิจชั่วคราวมาเกือบ2เดือนโดยให้ละหมาดที่บ้านแทนเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด19 ล่าสุดทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้ออกประกาศเมื่อวันที่2กันยายน ผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดได้แล้วทั้งละหมาดญะมาอะห์หรือละหมาดประจำวัน5เวลา และละหมาดวันศุกร์หรือละหมาดญุมอะห์ แต่ผ่อนให้เฉพาะมัสยิดที่ประชากรที่อยู่ในชุมชนมีอัตราการได้รับการฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ70 ของจำนวนประซากรที่มีอายุ 18ปี ขึ้นไป หรือในพื้นที่ที่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดได้พิจารณาร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วสามารถผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจ รวมทั้งคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดและผู้มาปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิด ทั้งละหมาดญะมาอะห์ และละหมาดวันศุกร์ ควรได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อย่างน้อย 1เข็ม ใช้เวลาในการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ ไม่เกิน 30 นาที และละหมาด วันศุกร์ เริ่มตั้งแต่อะซานจนกระทั่งเสร็จสิ้นการละหมาด ไม่เกิน 45 นาที และต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขและประกาศจุฬาราชมนตรีด้วยความเคร่งครัด ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมใส่หน้ากากผ้าหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างแถวการละหมาด1.5-2 เมตร การจัดจุดล้างมือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การอาบน้ำละหมาดจากที่บ้าน การนำผ้าปูละหมาดของตนเองมาด้วย และการลงทะเบียนทุกครั้งที่มาปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิด
โดยให้มัสยิดที่เข้าหลักเกณฑ์ให้คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดประสานแจ้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเพื่อจะได้ประสานหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด และสำหรับมัสยิดที่อยู่ในจังหวัดที่ไม่มีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ให้อิหม่ามประจำมัสยิดประสานหารือกับ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ที่ออกโดยภาครัฐและประกาศจุฬาราชมนตรีด้วยความเคร่งครัดและปฏิบัติตามมาตรการนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ หรือจนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
อย่างไรก็ตามจาการลงพื้นที่ติดตามบรรยากาศตามมัสยิดหลายแห่งในจ.สงขลา ยังคงขึ้นป้ายประกาศงดใช้มัสยิดชั่วคราวเนื่องจากมัสยิดแต่แห่งยังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีโดยเฉพาะการละหมาดญุมอะห์ในวันนี้ซึ่งมัสยิดส่วนใหญ่อาจจะยังไม่สามารถเปิดให้ละหมาดได้ เช่นที่มัสยิดบ้านควนลัง ซึ่งยังติดป้ายประกาศงดใช้มัสยิดชั่วคราวมาตั้งแต่วันที่10 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สงขลา