เวลา 1.30 น. วันที่ (17 ม.ค.67 ) พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ บัวธารา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถกระบะ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนศุขประยูร ฝั่งขาเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา ใกล้เคียงจุดกลับรถ ปากซอยจูเจริญ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธโสธรและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปที่เกิดเหตุริมถนนซ้ายสุดพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กร 5486 ลพบุรี จอดอยู่ สภาพด้านท้ายฝั่งขวายุบ กรอบไฟแตก มีสิบโท ชลธี อินต๊ะรัตน์ สังกัดกองพันซ่อมบำรุง กรมสนับสนุนกองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า เป็นผู้ขับขี่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กจ 1410 พระนครศรีอยุธยา ลักษณะจอดตะแคงข้าง ด้านหลังมีกล่องใส่อาหาร ระบุค่าย ไลน์แมน
ภาพวงจรปิดเผยนาที ครูหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ แซงซ้ายรถเก๋งที่อยู่ด้านหน้า แต่จังหวะนั้นมีรถกระบะจอดชะลออยู่ ทำให้ครูหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถกระบะเข้าอย่างจัง ร่างลอยกระเด็นนอนเสียชีวิตกลางถนน ด้านสิบโทคนขับกระบะเผย ออกจากร้านซักผ้ากำลังจะกลับเข้าค่าย เห็นจุดกลับรถด้านหน้าห้ามกลับ จึงชะลอรถเข้าข้างทางก่อนเกิดอุบัติเหตุ
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยร่างผู้ขับขี่นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถ ทราบชื่อต่อมาคือ นาย วรัญญู วรสิงห์ หรือครูกาย อายุ 31 ปี ชาวตำบลหอรัตนไชย อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบบัตรข้าราชการของนายวรัญญู ผู้ตาย ระบุเป็นครูผู้ช่วยโรงเรียนอนุบาล (ร.ร.วัดเมือง) แพทย์ได้ทำการชันสูตรในเบื้องต้น ก่อนจะมอบร่างให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย นำไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลพุทธโสธร เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา สิบโท ชลธี คนขับรถกระบะ เปิดเผยว่า ตนเองออกมาจากร้านซักผ้า หยอดเหรียญ ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ กำลังจะกลับเข้าที่พัก ในค่าย พล.ร.11 เมื่อขับมาถึงใกล้จุดเกิดเหตุ จำได้ว่าจุดดังกล่าวไม่ให้ยูเทิรนกลับรถ จึงได้ชะลอรถเข้าด้านซ้าย สักพักมีรถเก๋งวิ่งตามหลังมาในเลนกลาง ก่อนจะมีรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ที่คาดว่าน่าจะแซงซ้าย พุ่งเข้ามาชนด้านท้ายรถของตนเข้าอย่างจัง ตนเองจึงลงมาดูพบว่าผู้ขับขี่เสียชีวิตแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว สิบโท ชลธี อินต๊ะรัตน์ คนขับรถยนต์กระบะ ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แน่ชัด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง