ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ทุกวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่แน่ใจว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะไว้ใจให้เป็นผู้บริหารต่อไปหรือไม่ ถึงขั้นต้องไลน์ถามพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า “ผมผิดอะไร” ถ้าอยากรู้ผิดอะไร ให้หาเวลาลงพื้นที่จะได้รู้ว่า ผิดอะไร จากนั้นนายพิจารณ์ได้อภิปรายร่ายยาวนานกว่า 70 นาที ถึงความไม่ชอบมาพากลเรื่องหลักเกณฑ์การสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารปีล่าสุด มีการประเมินเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบัน มีการตั้งคำถามแตกต่างจากปีที่ผ่าน ๆ มา มีการสอบสัมภาษณ์สอบถามผู้สมัครถึงความเห็นต่อม็อบสามนิ้ว ความเห็นต่อการทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยังมีแนวทางตั้งคำถามกีดกันผู้สมัครพวก LGBT และมีแนวคิดแบบ ไอ้เ-ี้ย ส้ม คำถามเหล่านี้คือการคัดเลือกคนที่จะมาเป็นตำรวจ ทหาร เพื่อคัดเฉพาะคนที่เห็นด้วยกับพล.อ.ประยุทธ์
นายพิจารณ์ ยังอภิปรายถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ อาทิ การจัดหารถบรรทุกขนาด 2.5ตัน ของกองทัพบก จำนวน 169 คัน วงเงิน 921 ล้านบาท ที่มีการเปลี่ยนแปลงงบจากจัดซื้อเปลี่ยนเป็นการซ่อมบำรุงรถ M 35 ขนาด 2.5 ตัน และรถ UNIMOG ขนาด 1.25 ตัน จำนวน 201คัน ที่เคยซื้อจากอินเดียคันละ 2.2 ล้านบาท แต่เปลี่ยนเป็นการจัดซ่อมรถ UNIMOG ที่มีอายุใช้งานมาแล้ว 40-50ปี ใช้งบซ่อมทั้งหมด 518ล้านบาท เฉลี่ยค่าซ่อมราคาคันละ 2 ล้านบาท เหตุผลเดียวคือ เรื่องต้องมีใครได้ประโยชน์แน่นอน นอกจากนี้กองทัพอากาศมีโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกหัดบินในขั้นต้น T-50 H จำนวน 14 ลำ ใช้งบประมาณปี2558-2564 แบ่งการจัดซื้อเป็น 3 ระยะ แต่การซื้อแต่ละระยะ ราคาแพงขึ้นทุกรอบ ทั้งที่14 ลำมีสเปคเหมือนกันทุกอย่าง ระยะที่ 1 วันที่ 17ก.ย.2558 ซื้อ 4 ลำๆละ 25.88 ล้านเหรียญสหรัฐ ระยะที่ 2 วันที่29 ก.ค.2560 ซื้อ 8 ลำ ๆ ละ 29.54 ล้านเหรียญสหรัฐ แพงขึ้น 936ล้านบาท และระยะที่3 วันที่30ส.ค.2564 จัดซื้อ 2ลำ ๆ ละ31.81 ล้านเหรียญสหรัฐ แพงขึ้น 379 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมแล้วจัดซื้อแพงขึ้นทั้งหมด 1,315ล้านบาท โดยเฉพาะการจัดซื้อระยะ 2 จำนวน 8 ลำ ลงนามสมัยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรมว.กลาโหม อยากให้พล.อ.ประวิตรชี้แจง กรณีนี้มีนายหน้าจัดซื้อ แพงขึ้นด้วยเงินทอน ไม่ใช่กลไกการตลาด