วันที่ 2 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.พิงคะรัตน์ ซ้ายขวัญ รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฏร์ธานี พ.ต.ท.อนุมัติ รื่นพานิช รอง ผกก.สส.สภ.บ่อผุด ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง สว.ตม.จว.สุราษฏร์ธานี พร้อม ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย เจริญขุน, รอง.สว.สส.สภ.บ่อผุด ร.ต.ต.กรีฑา ชูสังข์ รอง สว.ตม.จว.สุราษฏร์ธานี ด.ต.ปัญกิตติ์ ราชู ผบ.หมู่งาน ตม จว.สุราษฎร์ธานี ด.ต.อนุพงศ์ แก้วเชิด ส.ต.อ.วิทวัส จันทบูรณ์ ส.ต.ท.สุรศักดิ์ เณรานนท์ ผบ.หมู่งาน สส. ได้ร่วมกันจับกุม นายคอนสแตนติน ซาโวชิป สัญชาติ รัสเซีย อายุ 47 ปี Mr.konstantin savosin เจ้าของบริษัท เกซ ออสก้า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรถเช่าให้นักท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ขณะที่ นาย คอนสแตนติน ซาโวชิป พักอยู่ บ้านเลขที่ 42/121 หมู่บ้านท็อปปิคอน วินล่าอีเกิลเน็ต หมู่ 6 ตำบลบ่อผุด อำเภอกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นวิลล่าสุดหรูบนภูเขาภูเฉวง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำกำลังเข้าไปพร้อมได้แสดงตัว พร้อมทำการตรวจค้น จากการตรวจสอบภายในตู้เซฟ ห้องนอน เมื่อนายคอนสแตนติน เปิดกล่องใส่ยาเสพติดให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดู นายคอนสแตนติน ถึงเป็นลม พบยาเสพติดจำนวนมาก ประกอบด้วย โคเคน เฮโรอีน ยาอี (เป็นรูปหัวกะโหลก) ยาไอซ์ และยากล่อมประสาท อีกจำนวนมาก และพบสมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่น มีเงินหมุนเวียน เข้าออกต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน โดยยาเสพติดที่ยึดได้ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 200,000 บาท พร้อมนำผู้ต้องหาไปทำการสอบสวน ที่ สภ.บ่อผุด ในเบื้องต้น นายคอนสแตนติน ซาโวชิป ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เดินทางมาประกอบธุรกิจในเกาะสมุย มาหลายปีแล้ว โดยได้เปิดบริษัท เกซ ออสก้า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรถเช่ารายใหญ่ให้นักท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ต่อมาเกิดโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ไม่มีนักท่องท่องเที่ยว และไม่มีรายได้ จึงได้ไปเช่าวิลล่าหรู ที่เกิดเหตุเดือนละ 40,000 บาท สำหรับจัดงานปาร์ตี้ และเป็นที่พักยาเสพติด โดยยาเสพติดได้ซื้อต่อมาจากเพื่อนชาวรัสเซีย โดยจัดส่งยาเสพติดมาทางไปรษณีย์ ในราคา 55,000 บาท ต่อครั้ง พร้อมเตรียมนำยาไปจำหน่ายให้กับกลุ่มชาวต่างชาติ ในงานปาร์ตี้ อีกครั้งแต่มาถูกจับเสียก่อน ผู้ต้องหากล่าว
ขณะที่ ทาง พ.ต.ท.พิงคะรัตน์ ซ้ายขวัญ รอง ผกก.ตม.จว.สุราษฏร์ธานี หัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายคอนสแตนติน ชาวรัสเซียผู้ต้องหารายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้สืบทราบมาว่า ผู้ต้องหารายนี้ ได้แอบจัดปาร์ตี้ มาแล้วหลายครั้ง และมีพฤติกรรมค้ายาเสพติด จึงได้ตรวจสอบและติดตามตัว พบว่าแอบมาเชาวินล่าอีเกิลเน็ตอยู่บนภูเขา มีสถานที่สะดวกสะบายมีสระว่ายน้ำ และมีห้องสำหรับจัดงานปาร์ตี้ มีบูธดีเจเปิดเพลง เพื่อเป็นสถานที่จัดปาร์ตี่ในกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาเสพติดหลายชนิด ทั้งยาอี ยาไอซ์ MD โคเคน เฮโรอีน รวมถึงยากล่อมประสาท จำนวนมาก ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ให้การยอมรับว่า ยาเสพติดเป็นของตนเอง แต่ได้ซื้อต่อมาจากชาวรัสเซียเพื่อนร่วมชาติด้วยกัน ซึ่งยาเสพติดที่ซื้อมา เพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับกกลุ่มชาวต่างชาติในงานปาร์ตี้ และอีกส่วนหนึ่งยาเสพติดจะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไปในพื้นที่เกาะสมุย และถูกส่งไปยังพื้นที่เกาะพะงัน ซึ่งทางตรวจคนเข้าเมืองได้บูรณาการร่วมกับตำรวจท้องที่มาอย่างต่อเนื่อง ในการตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาชาวต่างชาติ และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้รับแจ้งเบาะแสมาจากแหล่งข่าวและพลเมืองดี มาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับที่ก่อนหน้านี้ ได้ทำการนำกำลังไปจับกุมแก๊งชาวต่างชาติแอบจัดปาร์ตี้ มาเมื่อไม่นาน ในวิลล่าแห่งหนึ่ง ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เน้นย้ำกำชับในเรื่องของมาตรการความปลอดภัยขอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่าให้มีการมั่วสุมรวมกลุ่ม ปาร์ตี้ ซึ่งจะเป็นแหล่งเพาะพันธ์แพร่เชื่อระบาดของโรคโควิด-19 ได้ง่าย
สำหรับ นายคอนสแตนติน ชาวรัสเซียผู้ต้องหารายนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1และ 2 เมทแอมเฟตามีน โคเคน เคตามีน เอ็กตาซี MD ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และทางตำรวจสืบสวน ก็จะทำการขยายผล เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อมโยงในโทรศัพท์ของผู้ต้องหา มีรายชื่อลูกค้าผู้เสพปรากฎจำนวนมาก รวมทั้งจะดำเนินการขยายผลในเรื่องของตรวจสอบทรัพย์สินว่าได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดหรือไม่ ส่วนผู้ต้องหาได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุดดำเนินคดีต่อไป.
ทีมข่าว TOPNEWS สุราษฎร์ธานี
