สนง.ชป.ขนาดกลางที่ 7 จ.อุบลฯ เปิดแผนบริหารจัดการน้ำ แถบลุ่มน้ำโขง

สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 7  จ.อุบลฯ เปิดแผน 2 โครงการใหญ่ เพื่อป้องกันอุทกภัยและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง ในแถบลุ่มน้ำโขง ก่อนส่งมอบให้กับ โครงการชลประทานมุกดาหาร ดูแลบำรุงรักษา

ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบาลมอบหมายให้กรมชลประทานศึกษาโครงการเพื่อก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพื่อปิดกั้นลำห้วงต่างๆที่จะไหลลงส่แม่น้ำโขง เพื่อเป็นการป้องกันอุทกภัยจากแม่น้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลาก และเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง  ซึ่งสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ดำเนินโครงการในแผนดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร อยู่ 2 โครงการ  โดยที่แล้วเสร็จและมีการส่งมอบให้โครงการชลประทานมุกดาหาร สำนักงานชลประทานที่ 7 รับไปดูแลบำรุงรักษาแล้ว เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ก็คือ โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยบางทราย บ้านดอนม่วย ตำบลบางทรายน้อย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร และที่กำลังดำเนินการอยู่อีก 1 โครงการก็คือ โครงการประตูระบายน้ำห้วยบังอี่ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งจะแล้วเสร็จส่งมอบได้ในปี 2566  โดยหากแล้วเสร็จก็จะเป็นการเสริมศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำในแถบลุ่มน้ำโขงได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพอีกแห่ง ของจังหวัดมุกดาหาร

สำหรับโครงการประตูระบายน้ำห้วยบังอี่ จังหวัดมุกดาหาร ที่อยู่ในระหว่างกำลังดำเนินการก่อสร้าง  จะมีพื้นที่รับน้ำเหนือประตูระบายน้ำอยู่ที่ 1,492 ตร.กม. มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1.05 ลบ.ม./วินาที มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำ 649,540,000 ลบ.ม./ปี   โดยสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกาลที่ 7 ได้นำผลศึกษาโครงการมาประสานงานด้านสำรวจ  ออกแบบ และจัดเข้าแผนงานก่อสร้างของโครงการ  เพื่อที่จะของบประมาณมาดำเนินการ ก่อสร้างในปีงบประมาณ 2560 ซึ่งประตูระบายน้ำห้วยบังอี่ จะมีลักษณะโครงการเป็นอาคารประตูระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กชนิดบานตรง ขนาดช่องบานกว้าง 10.00 เมตร สูง 8.00 เมตร จำนวน 5 ช่อง ซึ่งจะสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง  และในกรณีฝนทิ้งช่วงได้ประมาณ 1,000,000 ลบ.ม.

โดยโครงการประตูระบายน้ำห้วยบังอี่ จังหวัดมุกดาหาร มีพื้นที่ในโครงการจำนวน 144 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ติดกับ 2 ตำบล คือตำบลนาสะเม็ง และตำบลโพธิ์ไทร อำเภอดอนตาล มีนายฉลองพันธ์ ศิริโอภาส เป็นนายช่างควบคุมดูแลโครงการ  โดยมีกำนันจาก 2 ตำบล คือ นายอ่อนสี บุทธิจักร กำนันตำบลนาสะเม็ง และ นายพิทักษ์ พรหมเสนา กำนันตำบลโพธิ์ไทร ร่วมเป็นกรรมการประสานงานในการบริหารจัดการน้ำกับทางชลประทานมุกดาหาร  ซึ่งก็ได้มีนำเสนอโครงการที่จะให้มีการขยายพื้นที่การส่งน้ำเข้าไปยังพื้นที่การเกษตรเพิ่มอีก  เพื่อให้ประชาชนได้ใช้น้ำกันอย่างทั่วถึง  ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จ  ก็จะสามารถป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงหนุน  และป้องกันการไหลย้อนกลับเข้ามาท่วมพื้นที่การเกษตรที่อยู่ริมห้วยบังอี่ในฤดูน้ำหลากได้ และยังสามารถกักเก็บน้ำและกระจายน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่เกษตรของราษฎรในเขตตำบลโพธิ์ไทรและตำบลนาสะเม็ง อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหารในฤดูฝนได้ประมาณ 3,000 ไร่ และฤดูแล้งประมาณ 2,000 ไร่  ยังเป็นแหล่งขยายพันธุ์ปลาน้ำจืดของชุมชน อีกทั้งยังจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของชุมชนอีกด้วย

โดย นายสาธร สาธุภาค ผู้อำนวยการ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวถึงโครงการนี้ว่า  เมื่อก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำห้วยบังอี่แล้วเสร็จ  100 % สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 7 ก็จะดำเนินการส่งมอบถ่ายโอนโครงการให้กับโครงการชลประทานมุกดาหาร  เพื่อไปบำรุงดูแลรักษาต่อไป  ซึ่งก็ขอฝากถึงราษฎรในพื้นที่  ได้ช่วยกันดูแลบำรุงรักษาร่วมกันกับทางราชการ  เพื่อเพิ่มอายุและศักยภาพในการใช้งานของตัวอาคาร  เช่นหากมีวัชพืชหรือเศษวัสดุอื่นๆที่ไหลมาทางด้านเหนือเขื่อน   ซึ่งอาจจะเกิดความเสียหายต่อตัวอาคารประตูระบายน้ำเอง  หรือทำให้อาคารไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ก็ขอให้ได้ช่วยกันกำจัดเศษวัสดุเหล่านั้นช่วยกันด้วย  หรืออีกประการหนึ่ง  สำหรับในส่วนของผนังกั้นน้ำ  ถ้าเกิดมีความชำรุดเสียหาย  หรือพังทลาย  เนื่องจากฝนตกหนัก  หรือมีสาเหตุอื่นๆ  ก็ขอให้ช่วยกันซ่อมแซมให้กลับคืนสู้สภาพเดิม  เป็นต้น  แต่ถ้ามีอะไรที่เกินความสามารถของชาวบ้านในพื้นที่  ก็ขอให้แจ้งกับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ได้รับทราบถึงปัญหา  เพื่อที่จะได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวต่อไป

สำหรับอีก 1 โครงการคือ  โครงการประตูน้ำห้วยบางทราย บ้านดอนม่วย ตำบลบางทรายน้อย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ  ซึ่งสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 7 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง ได้มีการส่งมอบให้กับโครงการชลประทานมุกดาหาร เพื่อรับไปดูแลบำรุงรักษา เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564  ไปแล้วนั้น  โดยโครงการประตูน้ำห้วยบางทราย ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 บ้านดอนม่วย ตำบลบางทรายน้อย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร  มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยในการพร่องระบายน้ำในช่วงต้นฤดูฝน และเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร  การประมง และอื่นๆในช่วงฤดูแล้ง  และเพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงหนุน และไหลย้อนกลับเข้ามาท่วมพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ริมห้วยบางทรายด้วย  โดยมีช่องระบานแบบตรง ขนาดกว้าง 99.20 เมตร สูง 8.00 เมตร จำนวน 10 ช่อง (ขนาดบานช่องละ 8.00*8.00 เมตร)  มีพื้นที่รับน้ำช่วงฤดูฝน 8,000 ไร่ และในช่วงฤดูแล้ง 1,000 ไร่

 

ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้ คือ เป็นแหล่งเก็บกักน้ำและกระจายน้ำสำหรับการเกษตรช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกของราษฎรในตำบลบางทรายน้อย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร  ประมาณ 8,000 ไร่  ราษฎรที่จะได้รับประโยชน์จำนวน 10 หมู่บ้าน จำนวน 1,340 ครัวเรือน  ใช้เป็นแหล่งน้ำและกระจายน้ำสู่แหล่งชุมชน  สำหรับช่วยเหลือการอุปโภค – บริโภค ของราษฎรที่อาศัยอยู่ในเขตของโครงการและพื้นที่ใกล้เคียง เป็นแหล่งขยายพันธุ์ปลาน้ำจืดมากขึ้น และสามารถนำปลาที่จับได้ ออกมาจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับราษฎรอีกทางหนึ่งด้วย และยังทำให้ที่ดินที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากโครงการนี้  มีราคาสูงขึ้นอีกด้วย  อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมรายได้ราคาการเกษตร ลดปัญหาการอพยพแรงงานเข้ากรุงเทพฯ และเขตเมืองด้วย

โดยนายไพทูรย์ สุขต่าย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานมุกดาหาร ได้กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหารนับว่าเป็นจังหวัดเดียวที่มีแหล่งน้ำเป็นของตัวเอง ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะว่า  สภาพพื้นที่ของจังหวัดมุกดาหาร  ถ้าเรามองพื้นที่ในแผนที่ประเทศไทยก็จะเห็นว่า มีพื้นที่ติดกับจังหวัดสกลนครและจังหวัดกาฬสินธุ์  แล้วก็จะมีลำน้ำต่างๆไหลลงสู่แม่น้ำโขง  ซึ่งทางชลประทานมุกดาหารหากได้รับมอบโครงการดังกล่าวมาแล้ว  ก็จะต้องเข้าไปทำความเข้าใจในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ หรือเรื่องการใช้น้ำ แล้วก็การปิดเปิดประตูแต่ละครั้ง ไม่ใช่ว่าชลประทานจะลงไปปิดเปิดเอง แต่เราจะตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำขึ้นมา จากนั้นก็จะทำการประชุมกันว่า  เราจะเปิดกี่เดือน และจะปิดกี่เดือน ไม่ใช่ว่าจะไปปิดเปิดโดยพละการไม่ได้

ซึ่งหากจะกล่าวโดยรวมสำหรับโครงการทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ของสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อได้มีการส่งมอบให้กับ โครงการชลประทานมุกดาหารเพื่อรับไปดูแลบำรุงรักษาแล้ว  ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายให้กับราษฎรในพื้นที่เป็นอย่างมาก  เพื่อให้พื้นที่ได้บริหารจัดการน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรอันมีค่าในแถบลุ่มน้ำโขง ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป .

ภาพ/ข่าว ทีมข่าวภูมิภาค TOP NEWS ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ….รายงาน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น