ภาคีเครือข่ายอนุรักษ์ ปลาดุกลำพัน เดินหน้าปล่อยลงป่าพรุควนเคร็ง -ปีหน้าเล็งปลูกพืชอาหาร 20,000 ต้น

23 ธ.ค. นายเฉลียว คงตุก สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ริเริ่มโครงการปล่อยปลาดุกลำพัน ตามโครงการลำพันคืนถิ่น ป่าพรุควนเคร็ง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2566 บริเวณศูนย์อนุรักษ์ปลาดุกลำพัน เนินธำมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีการจัดกิจกรรมปล่อยปลาดุกลำพัน ตามโครงการลำพันคืนถิ่น ป่าพรุควนเคร็ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ตัดต่อเนื่องกันมาหลายปี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้ว และเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยภาคเอกชนเป็นต้นคิด และเป็นการร่วมมือของภาคีเครือข่ายทั้งภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ นำโดยประจวบ เจี้ยงยี่ ประมงจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นคนถิ่นเดิม อ.เชียรใหญ่ นายเฉลียว คงตุก สื่อมวลชนอาวุโส ผู้ริเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ต้นเมื่อหลายปีก่อน พร้อมด้วยหน่วยงานราชการในพื้นที่ เช่น ประมงจังหวัด ป่าไม้ ชลประทาน และผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ประชาชนในพื้นที่ โดยมีการปล่อยปลาดุกลำพัน 250 กิโลกรัม เป็นปลาดุกลำพันพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และยังได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาสายพันธุ์อื่นจากกรมประมงอีก 400,000 ตัว
นายประจวบ กล่าวว่า เมื่อก่อนในถิ่นย่านนี้มีปลาดุกลำพันเยอะมาก แต่จากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุ และสภาพความแห้งแล้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยได้พบเจอปลาดุกลำพันอีก ก็เข้าใจว่า ได้สูญพันธุ์ไปจากป่าพรุควนเคร็ง และพื้นที่ข้างเคียงแล้ว
“กิจกรรมลำพันคืนถิ่นจึงเกิดขึ้น โดยคณะผู้จัดได้ไปซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของปลาดุกลำพันมาจากป่าพรุโต๊ะแดง จาก.นราธิวาส ที่ยังพอหาได้ ก็หวังว่า ความอุดมสมบูรณ์ของปลาดุกลำพันจะกลับคืนมาเป็นอาหารให้กับคนนครศรีฯอีกครั้ง ปลาดุกลำพันจะมีลำตัวยาว หัวเล็ก ตามตัวจะมีลายจุดสีเหลือง รสชาติจะอร่อยกว่าปลาดุกทั่วไป”

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านนายเฉลียว กล่าวว่า ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา ชาวบ้านที่ทำประมง ดักปลา เริ่มจับปลาดุกลำพันได้บ้างแล้ว อันแสดงให้เห็นว่า ปลาดุกลำพันที่พวกเราปล่อยคืนธรรมชาติ เขามีชีวิตรอดอยู่ได้ เราขอร้องชาวบ้านว่า ถ้าจับปลาดุกลำพันได้ในช่วงนี้อย่าเพิ่งเอามากิน ให้ปล่อยเขากลับคืนธรรมชาติ เพื่อให้เขาได้ขยายพันธุ์ไปสักระยะหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานถิ่น 4 อำเภอโซนลุ่มน้ำปากพนัง จะมีปลาดุกลำพันจำนวนมากแน่นอน
“เรื่องสำคัญอีกอย่างคืออาหารของปลาดุกลำพัน ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ปลาดุกลำพันเป็นสัตว์กินพืช และเขาจะกินลูกของต้นเตียว และลูกเสม็ดชุน เป็นหลัก แต่ทั้งสภาพความแห้งแล้ง และไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง ทำให้พืชทั้งสองชนิดอันเป็นอาหารของปลาดุกลำพันลดลงไปด้วย “ปีหน้านอกจากการปล่อยลำพันคืนถิ่นแล้ว เราจะปลูกต้นเตียว และต้นเสม็ดชุนด้วย เพื่อให้เป็นอาหารของปลาดุกลำพัน เราจะปลูกไม่น้อยกว่า 20,000 ต้นแน่นอน”
นายเฉลียว กล่าวอีกว่า มีคนสอบถามมามากว่า ถ้าจะเลี้ยงปลาดุกลำพัน จะทำอย่างไร อยากจะเรียนว่า ธรรมชาติของ #ปลาดุกลำพัน จะอาศัยอยู่ในป่าพรุ น้ำกร่อย สามารถตีโพลงเป็นที่อยู่อาศัยได้ พื้นที่บ่อทั่วไปยังยากที่จะอยู่รอด

“ใครคิดจะเลี้ยงปลาดุกลำพัน อยากให้ศึกษาชีวิตเขาให้ดีก่อน และถ้าเป็นไปได้อยากให้ไปดูการทดลองเลี้ยงในบ่อขุด ที่ศูนย์นวัตกรรมเกษตรใหม่ที่ยั่งยืนของนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ต.สามตำบล อยาก.จุฬาภรณ์ ที่ทดลองเลี้ยงปลาดุกลำพันในบ่อขุดมาปีกว่าและมีชีวิตรอดมาได้ ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจศึกษาจากนายอาญาสิทธิ์ถึงวิธีการดูแลปลาดุกลำพันให้อยู่รอดในรอบปีที่ผ่านมาไม้น้อย”นายเฉลียว กล่าวในที่สุด

ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช
22 ธ.ค.2566

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กองทุนหมู่บ้านวังไทร หอบประทัด แก้บนพ่อแก่พันล้าน หลังคว้ารางวัล “ชุมชนอุดมสุขที่ยั่งยืนระดับภูมิภาค” ปีที่ 5 ประจำปี 2568
"องค์การยูเนสโก" ประกาศรับรองให้ "น่าน" และ "สงขลา" เข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ประจำปี 2568
“สันติ พร้อมพัฒน์” ควง “วันเพ็ญ-อัครเดช” ลงพื้นที่บึงสามพัน เพชรบูรณ์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568 ของธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
ผู้ว่าฯ สุโขทัย นำ นทท.-ปชช. จุดตะคัน แสดงความอาลัย ถวายแด่ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง"
จันทบุรี ทอดกฐินสามัคคีวัดเกาะเปริด พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญอย่างเนืองแน่น

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​