รวบแล้ว นักโทษชายคดีลักทรัพย์ หนีออกจากโรงพยาบาลบางละมุง จ.ชลบุรี หลังถูกล่าตัวเดือด

ขณะที่ตำรวจและ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เรือนจำพิเศษพัทยา ยังปูพรหมค้นหานักโทษรายนี้บริเวณด้านหลังโรงพยาบาลบางละมุง อย่างต่อเนื่อง โดยพบ คีมตัดเหล็ก ขนาดความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร และ โซ่ตรวนนักโทษ ตกอยู่ในป่าหญ้า ห่างจาก ด้านหลังโรงพยาบาล ประมาณ 50 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเชื่อว่า นักโทษชายรายนี้ ยังหลบหนีไปได้ไม่ไกล เนื่องจากนักโทษยังมี อาการบาดเจ็บหลังเข้ารับการผ่าตัดอวัยวะเพศ

ด้าน กรมราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษพัทยา ยังไม่มีมีการออกมาเปิดเผยข้อมูลใดๆ เบื้องต้น ขณะที่นักโทษชายหลบหนี มีเจ้าหน้าที่ผู้คุมเฝ้า 2 นาย ( นายศักดิ์สิทธิ์ ทองศร /และ นายพุทธิพงศ์ สันติพงศ์ ) แต่นักโทษฉวยโอกาสที่ผู้คุมเผลอ ประกอบกับ เตียงนอนคนไข้ อยู่ใกล้ กับทาง เข้า-ออก แผนก ศัลยกรรม ทำให้นักโทษ ใช้คีมตัดกุญแจมือที่ล็อคกับเตียงคนไข้ และ โซ่ตรวน จนสามารถหลบหนีไปได้

ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุรอบ ๆโรงพยาบาลบางละมุง นั้นทางเจ้าหน้าที่ได้นำรูปนักโทษ น.ช.ธนภัทร ออกหาข่าวบริเวณตามร้านค้า ใน หมู่บ้าน นำรูปมาติดตามร้านค้า และ ให้ชาวบ้าน คอยสังเกตและระมัดระวังนักโทษชายที่หลบหนีดังกล่าว โดยพบเห็นแจ้ง สภ. บางละมุง

ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุตามจุดต่างๆ ของโรงพยาบาลบางละมุง ตั้งแต่ห้องพักฟื้นคนไข้ ตลอดจนเส้นต่างๆ ที่ คาดว่านักโทษใช้หลบหนี ก่อนเข้าตรวจค้นบริเวณบังกะโลรกร้าง ด้านหลังโรงพยาบาล ซึ่งมีชาวบ้านให้การว่าได้ยินเสียงสุนัขเห่าในเวลาใกล้เคียงตอนเกิดเหตุ

โดย นายอ๊อด อายุ 72 ปี เจ้าของร้านขายของชำในละแวกที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาน 02.00 น. ของคืนที่ผ่านมา สุนัข 2-3 ตัว ที่อยู่ในบริเวณร้านได้เห่าส่งเสียงดัง ซึ่งมักจะเห่าทุกครั้งที่มีคนเดินผ่าน เมื่อตนออกดูพบกว่า สุนัขมันเห่ากรรโชกเสียงดังจนผิดสังเกตุ และมองไปภายในซอย ซึ่งเป็นบังกะโลเก่า แต่ตนไม่เห็นคนหรือสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด จนกระทั่งทราบว่า มีนักโทษหลบหนีออกจากโรงพยาบาลดังกล่าว

ด้าน นางเพ็ญ อายุ 65 ปี แม่บ้านของโรงพยาบาลบางละมุง ประจำแผนกศัลยกรรม เปิดเผยว่าเห็นเมียของนักโทษ มาเยี่ยมช่วงประมาณ 20.00 น.โดยหิ้วถุงพลาสติกแบบทึบมา 1 ใบ แต่ก็ไม่มีใครได้ตรวจสอบ ขณะที่ตัวนักโทษมักจะเลื่อนผ้าปิดตลอดเวลา แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะมาเลื่อนเปิด แต่ตัวนักโทษก็อาศัยจังหวะเผลอปิดผ้ากั้น ส่วนในช่วงที่นักโทษตัดโซ่ตรวนนั้น ไม่มีใครได้ยินเพราะ ผู้ป่วยเตียงข้างนั้น เป็นอดีตนักโทษเช่นกัน และเป็นคนที่ให้หยิบยืมโทรศัพท์ในการนัดแนะเมียด้วย

ด้าน นายแพทย์วิชัย ธนาโสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางละมุง เปิดเผยว่า ตัวนักโทษน่าจะหลบหนีไปได้ไม่ไกล เนื่องจากยังคงค้างสายต่อท่อปัสสาวะ ซึ่งในการถอดออกเองโดยผิดวิธี อาจจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ไม่ยาก

ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ ตั้งแต่ช่วงที่ภรรยา ไปเยี่ยม นักโทษชาย จนถึงช่วงเวลาที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาล

เริ่มจาก เวลา 19.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2566 นางสาววาสนา เดินทางมาเยี่ยม สามี ที่แผนกศัลยกรรม ชั้น 7 โดย สะพาย สะพายเป้ ด้านหลัง และคลุมทับด้วยถุงผ้าสีน้ำเงิน เดินเข้าไปเยี่ยมสามี ซึ่งนอนอยู่เตียงคนไข้ หมายเลข 32

เวลา 01.43 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2566 น.ช.ธนภัทร ลุกออกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ โดยในมือ ยังถือโซ่กุญแจล็อคข้อเท้า และ มือซ้ายถือคีมตัดเหล็ก

เวลา 01.44 กล้องอีกตัว ของแผนกศัลยกรรม บันทึกภาพ น.ช.ธนภัทร เปิดประตู แล้วเดินตรงไปที่ลิฟต์ ชั้น 7 ก่อนจะมาโผล่บริเวณ ชั้น 1 เวลา 01.47 น. แล้วเดินออกจากตึกอาคาร 10 หายตัวไปบริเวณ ป่าด้านหลังโรงพยาบาลดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า ในคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้รับแจ้งจาก เรือนจำพิเศษพัทยา และโรงพยาบาลบางละมุง ว่ามีนักโทษที่เป็นคนไข้ผ่าตัดอวัยวะเพศอักเสบ ซึ่งนักโทษได้เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2566 จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ได้หลบหนีไป หลังรับแจ้งทางตำรวจ ได้สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 2 /ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี / และ สภ.บางละมุง ลงพื้นที่ สืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมตัวนักโทษ