นายเหวิน จางเฉิน ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์และฝ่ายปฏิบัติการ ของ บริษัท ไฮเออร์ อีเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปี 2567 ไฮเออร์วางแผนทุ่มงบประมาณลงทุนตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยแห่งใหม่ เพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงในตลาดประเทศไทย
“สาเหตุที่เลือกลงทุนในประเทศไทย เพราะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างมากด้านการลงทุน และที่สำคัญมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศปลอดภัยด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ เพราะนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศไทยแยกออกจากกันอย่างชัดเจน และแม้ขณะนี้สถานการณ์โลกกำลังเผชิญกับสงครามรัสเซีย – ยูเครน หรือ สงครามอิสราเอล -ฮามาส ก็ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนครั้งนี้ของไฮเออร์” นายเวิน จางเฉิน กล่าว
นายเหวิน กล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาบริษัทไฮเออร์ จะมุ่งพัฒนาศักยภาพแรงงานคนไทยโดยเฉพาะการส่งเสริมสนับสนุนผู้บริหารที่เป็นคนท้องถิ่นให้ได้เติบโตทางด้านการงาน ซึ่งก็เป็นนโยบายสำคัญของผู้บริหารจากบริษัทแม่ในประเทศจีน ที่จะคอยเป็นที่ปรึกษาเพื่อร่วมสร้างการเจริญเติบโตของบริษัทร่วมกันระหว่างคนไทยและคนจีน นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขัน เน้นพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ปัจจุบัน ไฮเออร์ใช้แรงงานคนควบไปคู่กับการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เข้ามาใช้ร่วมกัน
นายเหวิน กล่าวต่อว่า สาเหตุที่สินค้าไฮเออร์ได้รับความนิยมในตลาดโลก เนื่องจากมีบริษัทลูกอยู่ทุกทั่วมุมโลก อาทิ ในสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และอิตาลี จึงมั่นใจในศักยภาพการแข่งขันว่าจะสามารถเจาะตลาดโลกได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าสินค้าเรือธงในปัจจุบันจะติดอันดับ 1 ใน 5 แต่ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าหมายทางธุรกิจว่าต้องไต่อันดับ 2 หรือ 3 ให้ได้ โดยไฮเออร์จะเน้นผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกตลาด ทั้งตลาดไฮเอนด์ (High-end market) และตลาดสินค้าราคาย่อมเยาว์ (Low-end market) โดยมุ่งเน้นคุณภาพและราคาตอบโจทย์ลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ ขณะที่คู่แข่งทางธุรกิจสำคัญอีกหลายบริษัทก็มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดทั้งด้านผลิตภัณฑ์และตลาดการส่งออก เห็นได้ชัดจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ดังนั้น ในอนาคตตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะมีการแข่งขันกันสูงมาก ไฮเออร์จึงต้องพัฒนาทั้งฝีมือแรงงานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้เติบโตไปด้วยกัน
