ประยุทธ์เดือดไล่เช็คข่าวจ้างพรรคเล็กล้มนายกฯคาศึกซักฟอก ถามประวิตรตรงๆ “มีคนจะล้มผมเหรอ” จับตาศึกซักฟอก 4 วันอันตราย

ศึกนอกว่าใหญ่ ศึกในหนักกว่า ลุ้นพล.อ.ประยุทธ์ผ่าน 4 วันอันตราย ท่ามกลางกระแสข่าว ถูกกดดันอย่างหนักจากแกนนำพลังประชารัฐ นำโดย "ธรรมนัส-วิรัช" ถึงขั้นล็อบบี้พรรคเล็ก คุยส.ส.ในพรรค คว่ำนายกฯกลางเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชนิดเอาให้หลุดจากตำแหน่งนายกฯ ร้อนถึงพล.อ.ประวิตรต้องออกโรงหย่าศึก เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เคลียร์ใจยุติศึกในรวมพลังรับศึกนอกเอาเรื่องซักฟอกก่อน

กระแสคลื่นใต้น้ำภายในพรรคพลังประชารัฐ ทำไปทำมาดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ภายในมุ้งพรรคแกนนำรัฐบาลไปเสียแล้ว โดยเฉพาะความพยายามในการล้มพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้พ้นจากตำแหน่งผู้นำรัฐบาล ถึงขั้นมีความพยายามจะเปลี่ยนตัวสร.1ให้ได้กันเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ก็ข่าวเรื่องดีลพิเศษดีลทางไกล ย้ายขั้วสลับข้างในการดึงพรรคเพื่อไทยที่มี 134 เสียงมาเข้าร่วมรัฐบาล โดยสูตรที่ว่าจะมีการเขี่ยพรรคภูมิใจไทย 61 เสียงที่มีปัญหาระหองระแหงกันมาตลอด รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ 51 เสียง ให้หลุดพ้นวงโคจรพรรคร่วมรัฐบาลที่ปัจจุบันมี 276 เสียงไปเป็นพรรคฝ่ายค้าน ก่อนจะดึงพรรคเพื่อไทยมาอุดเสียง 2 พรรคที่หายไป 112 เสียง อนาคตก็จะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากที่้มีความเข้มแข็งไม่ปริ่มน้ำจนเกินไปเหมือนสถานะของรัฐบาลในปัจจุบัน

ข่าวว่าดีลดังกล่าวทางเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงอย่างนายทักษิณ ชินวัตร รับรู้เห็นด้วยไฟเขียวเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ดีลดังกล่าวไม่คืบไม่เกิดขึ้นจริง เพราะติดที่หัวใจสำคัญของดีลเรื่องนี้จะต้องเปลี่ยนตัวผู้นำจากพล.อ.ประยุทธ์ไปเป็นพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแทน นั้นจึงกลายเป็นที่มาของกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยย้ายขั้ว กระแสข่าวนายกฯนอกบัญชี กระแสข่าวการผ่าทางตันใช้รธน.ม.272 แต่สุดท้ายปลายทางทุกอย่างก็เงียบหายไป เพราะไม่มีใครกล้าเดินต่อไม่มีใครอยากลองของไม่มีใครห้าวพอจะงัดข้อท้าทายพล.อ.ประยุทธ์ แม้จะมีความพยายามจากบางคนต้องการผลักดันทำอย่างนั้นจริงๆ

นับตั้งแต่ 22 พ.ค. พ.ศ.2557 จนถึงวันนี้บวกลบคูณหาร 7 ปีเศษของการรัฐประหาร ที่พล.อ.ประยุทธ์เข้าควบคุมอำนาจในนามหัวหน้าคสช.และบริหารประเทศภายใต้ตำแหน่งนายกฯ แม้พล.อ.ประยุทธ์จะได้ชื่อว่าเป็นผู้นำมากบารมีเป็นนายกฯที่เรืองอำนาจ แต่มาถึงวันนี้ปีนี้ต้องยอมรับว่าอำนาจและบารมีของพล.อ.ประยุทธ์โรยลาไปมาก ความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวผู้นำก็หร่อยหรอลดลงตามลำดับ หนำซ้ำการมาเจอมหันตภัยโควิด-19 ที่เป็นโรคร้ายหนักสุดของมวลมนุษยชาติที่ไม่เคยอุบัติขึ้นมาก่อน ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ที่หนักหนาสาหัสของพล.อ.ประยุทธ์ที่มีอยู่ก่อนแล้วหนักหนาเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า ถือเป็นช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำขาลงที่สุดนับตั้งแต่อาสาเข้ามาบริหารบ้านเมืองปกครองประเทศ

ต้องยอมรับว่าคลื่นใต้น้ำในพรรคพลังประชารัฐนั้นมีมากและมีอยู่จริง ระหว่างก๊กระหว่างขั้วต่างๆอันนั้นก็เป็นเรื่องที่พอรับได้ เพราะเรื่องการแย่งชิงอำนาจแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีนั้นมีอยู่ทุกยุคทุกสมัยทุกรัฐบาล แต่ถึงขั้นจับมือกันจะเปลี่ยนขั้วจะล้มผู้นำรัฐบาลถึงขั้นจ้องเลื่อยขาเก้าอี้นายกฯของตัวเอง เรื่องทำนองนี้มีให้เห็นไม่บ่อยในแวดวงการเมือง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย อดีตนายทักษิณหรือแม้แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยเจอเรื่องแบบนี้ รอบนี้ก็เป็นคิวของพล.อ.ประยุทธ์ได้ลิ้มรสถูกคนใกล้ชิดหักหลังด้วยตัวเอง เท็จจริงอย่างไรไม่มีใครรู้ แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ คนในวงการเขาพูดคนในแวดวงการเมืองเขาคุยกันอื้ออึงไปหมด มีหรือระดับเจ้ายุทธจักรผู้นำสูงสุดของยุทธภพอย่างพล.อ.ประยุทธ์จะไม่รู้ไม่ได้ยินเรื่องนี้เข้าหู

แปลกแต่จริงพล.อ.ประยุทธ์อาจจะมีบารมีข้างนอกมหาศาลกว้างใหญ่ใครก็เกรงใจครั่นคร้าม แต่ในพรรคพลังประชารัฐพล.อ.ประยุทธ์ถูกมองเป็นคนละอย่าง ไม่เห็นหัวส.ส. เท้าไม่ติดดิน เข้าถึงยาก เป็นต้น ตรงนี้เป็นจุดอ่อนเป็นความเปราะบางของพล.อ.ประยุทธ์อย่างแท้จริง ด้วยเหตุที่ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง จึงไม่ได้ลงมาปรับทุกข์ผูกมิตรกับบรรดาลูกพรรคและส.ส.ของพรรคเลย ตรงนี้เลยทำให้พล.อ.ประยุทธ์ขาดความใกล้ชิดขาดความไว้เนื้อเชื่อใจขาดบุญคุณเกื้อหนุนกับลูกพรรค หลายครั้งความเดือดร้อนของชาวบ้านหรือแม้แต่งานของส.ส.ไม่ได้รับการผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาหรือทำโครงการต่างๆให้เกิดขึ้นจริง ด้วยเหตุนี้่จึงทำให้พล.อ.ประยุทธ ขาด “ความรัก” ปราศจาก “ความน่าเชื่อถือ” ไร้ “ศรัทธา” จากบรรดาส.ส.ลูกพรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนจากเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ ถูกโจมตีหรือมีปัญหาต่างๆนาๆ แทบไม่เห็นหัวส.ส.หรือเงาของลูกพรรคพลังประชารัฐ ออกตัวมาโต้แทนนายกฯเลย จะมีก็แต่คู่หู “ห้อย-โหน” นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกรัฐบาล กับ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ 2 คนเท่านั้นที่ออกโรงมาโต้ให้ ส่วนส.ส.ซีกพรรคพลังประชารัฐแทบไม่เห็นศรีษะเลย ทั้งนี้เพราะ “นาย” ที่ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เคารพรักใคร่พร้อมจะตายแทนได้ตัวจริง เป็นคนที่ดูแลจริงแจกจริงจ่ายจริงในพรรคมีคนเดียวเท่านั้นคือ หัวหน้าป้อม หรือ ลุงป้อม ตอนนี้อาจจะมีหัวจ่ายเพิ่มอีกคนคือ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ จึงไม่แปลกที่ส.ส.ทุกคนจะเชื่อฟังและเคารพผู้ใหญ่ที่เป็น “นาย” ทั้ง 2 คนนี้มากเป็นพิเศษเพราะเลี้ยงดูปูเสื่ออุ้มชูกันมา

มูลเหตุของการเกิดคลื่นใต้น้ำภายในพรรคพลังประชารัฐนั้น ด้านหนึ่งมาจากความน้อยเนื้อต่ำใจของร.อ.ธรรมนัส นับตั้งแต่ได้ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่ 18 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา เกือบ 2 เดือนกว่าแล้วยังไม่มีวี่แววว่าพล.อ.ประยุทธ์จะอัพเกรดเลื่อนชั้นให้เป็นรัฐมนตรีว่าการเสียที ทั้งๆที่ตัวเองออกทุนออกแรงออกกำลังภายในมหาศาลช่วยพรรคช่วยรัฐบาลมากมาย แต่สุดท้ายเสมือนถูกมองเป็นคนนอกสายตาไร้ค่าไร้ความหมาย ทั้งๆที่ทำงานหนักทำงานมากกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆ อีกด้านก็มาจากผู้ใหญ่ระดับเก๋าเกมส์ในพรรคอย่างนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ที่กำลังลุ้นอนาคตทางการเมืองของตัวเองอย่างหนัก ว่าจะมีใครเข้ามาช่วยเหลือเกื้อกูลคดีที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หลังถูกอัยการสูงสุด (อสส.) มีมติสั่งฟ้อง 7 สำนวน กรณีมีเอี่ยวร่วมกับพวก 88 คน ทุจริตโครงการสร้างสนามฟุตซอล ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ช่วงปี 2555 และเรื่องกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในเร็ววันนี้ รวมถึงต้องการผลักดัน “เสี่ยแบงค์” นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ให้ขึ้นฝั่งนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ทำความฝันของพ่อที่เคยเป็นได้ไกลสุดแค่รมช.เกษตรและสหกรณ์ยุคนายหัวชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ แถมยังออกไปแบบไม่สวย เพราะถูกครหามีเอี่ยวซื้อเมล็ดพันธุ์ผักแจกชาวบ้านแพงเกินจริงจากโครงการผักสวนครัวรั้วกินได้

ทั้งหลายทั้งมวลคือข่าวจริงข้อมูลจริงที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีอีก 5 คนของรัฐบาล ไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าหลังเกิดเรื่องพรรค์อย่างนี้ลอยลมถึงหูนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์จะรู้สึกอย่างไรคิดแบบไหนจะจัดการปัญหานี้อย่างไร อย่าลืมว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ธรรมดา 7 ปีที่ผ่านมาก็สะสมเหลี่ยมคูทางการเมืองแหลมคมกว่าเก่ามากเขี้ยวรากดินขึ้นเยอะ เคยเป็นหัวหน้าคสช.นำทหารปฏิวัติชวนพรรคพวกรัฐประหาร ในชีวิตผ่านปัญหาอุปสรรคมามากมาย เจอปัญหาจิ๊บจ๊อยแบบนี้ คงไม่หลงเหลี่ยมรุ่นน้องยอมนักการเมืองกันง่ายๆ จึงเป็นที่มาให้เจ้าตัวสอบถามข่าวเลื่อยขาปฏิบัติการล็อบบี้พรรคเล็กล้มผู้นำเรือแป๊ะจริงๆ ไล่เช็คจากปากพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์อย่างพล.อ.ประวิตร ทั้งการพูดคุยสอบถามความจริงต่อหน้า รวมทั้งฝากข้อความผ่านไลน์สอบถามต้นตอที่มาข่าวปล่อย ” มีคนจะล้มผมเหรอ ? ” จริงเท็จเรื่องนี้เป็นอย่างไรใครอยู่เบื้องหลังต้องการอะไร ลองไปล้วงแคะแกะเกากันเอาเอง กำแพงมีหูประตูมีช่อง มีควันย่อมมีไฟ

แต่จากข่าวแตกแยกในพรรคแซะนายกฯเรื่องดังกล่าว ทางพล.อ.ประวิตรถึงกับร้อนใจ วานนี้ 30 ส.ค.หลังประชุมครม.เสร็จ จึงเรียกประชุมแกนนำพรรคและส.ส.เพื่อทำความเข้าใจตรงกันสยบข่าวเกาเหลากันในทันที ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ถนนรัชาภิเษก จากนั้นเปิดมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายใน ร.1 รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต เรียกแกนนำของพรรคทั้งหมดเรียกรัฐมนตรีของพรรคทุกคนไปหวดก้นสอบถามข้อมูลกันเป็นการภายใน รัฐมนตรีตัวจี๊ดตัวกลั่นที่เป็นข่าวมาครบ ทั้งคนที่ถูกยื่นซักฟอกอย่างนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลฯ และพวกที่ถูกปล่อยข่าวว่าจะถูกยึดเก้าอี้อย่าง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ รวมถึงร.อ.ธรรมนัสและนายวิรัชที่ตกเป็นเป้าเคลื่อนไหวบี้พล.อ.ประยุทธ์อย่างหนักถึงขนาดไปพูดคุยล็อคคอพรรคเล็กกันไว้แล้ว ก็ถูกพล.อ.ประวิตรสอบถามซักไซร้อย่างหนักแต่ทั้งคู่ก็ชี้แจงพัลวัน ” ไม่มี ไม่จริง ไม่เคยคิดทำแบบนั้น ” ยังให้ความเคารพและสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อไป

สุดท้ายปลายทางไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่ร.อ.ธรรมนัสและนายวิรัชชี้แจงกับพล.อ.ประวิตรจะไปจบตรงไหนอย่างไร กระบวนการแซะนายกฯไล่สร.1 จะมีต่อไปหรือไม่ แต่พล.อ.ประวิตรดูเหมือนจะจับสัญญาณความขัดแย้งออก และไม่อยากให้มีศึกในซ้อนกับศึกนอกในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงออกปากกำชับเตือนรัฐมนตรีทุกคน ให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของชาติบ้านเมืองก่อน มีอะไรให้จบศึกอภิปรายก่อนแล้วค่อยมาพูดจาหาทางออกกัน อย่าไปสร้างปัญหาขึ้นมาอีกห้ามไปแจกกล้วยให้พรรคเล็ก คว่ำนายกฯหรือรัฐมนตรีในซีกรัฐบาลอีก ขอให้ทุกคนสามัคคีและสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ทำงานต่อไป จับตาดูศึกซักฟอก 4 วันอันตราย ว่าถึงที่สุดในเช้าวันที่ 5 ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจหนนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 4 ก.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์จะรอดสันดอนจากศึกในและศึกนอกรอบนี้ไปได้หรือไม่และจะจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐอย่างไร
/////////////////////////

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดฉากยิ่งใหญ่ PATTAYA FILM FESTIVAL 2025 ครั้งที่ 3 หนุนเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ชมฟรี 28–30 ส.ค.นี้
ประกาศผลเยาวชนผู้ผ่านการคัดเลือก “Kid Dee Idol 2025” 10 ตัวแทนคนรุ่นใหม่ เตรียมเข้าร่วมเวทีปลุกพลังสร้างสรรค์จากทั่วประเทศ
ผู้ว่าเมืองคอน เปิดโครงการมินิธัญญารักษ์ คืนคนดีสู่สังคม
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ยานสำรวจทะลลึก 'ไห่ฉิน' ของจีนจบภารกิจในทะเลจีนใต้
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปลี่ยนสวนสาธารณะสู่แหล่งวัฒนธรรม .
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เยือนยลขุนเขา 'อินซาน' ลูกคลื่นเขียวชอุ่มในมองโกเลียใน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​