CNN รายงานโดยอ้างข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐเผยว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายรัฐทางใต้ ส่งผลให้โรงพยาบาลหลายแห่งที่รัฐฟลอริด้า, เซาธ์ แคโรไลน่า, เท็กซัสและหลุยส์เซียน่าเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนออกซิเจนแล้ว ทำให้หลายโรงพยาบาลเริ่มนำออกซิเจนสำรองออกมาใช้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจัดส่งออกซิเจนได้ทันตามความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นได้
ผู้อำนวยการอาวุโสของบริษัทที่สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องใช้ให้กับโรงพยาบาลกล่าวว่าปกติถังออกซิเจนจะมีปริมาณออกซิเจนอยู่ที่ 90% เต็ม เมื่อถูกใช้จนเหลือ 30-40% ก็ต้องรีบเติมแล้ว แต่ล่าสุดพบว่าออกซิเจนมาไม่ทันการใช้ ต้องปล่อยให้เหลือเพียง 10-20% ก่อนที่จะมาเติม และเมื่อมาเติมก็เติมได้แค่ 50% ซึ่งเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าสถานการณ์กำลังวิกฤติหนัก
โดยเฉพาะรัฐฟลอริด้านั้น ข้อมูลล่าสุดชี้ว่ามีอัตราผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลสุงที่สุดในสหรัฐ คิดเป็น 75 คนต่อประชากร 1 แสนคน ดร.อาห์เม็ด เอลฮัดด๊าด แพทย์ประจำห้อง ICU ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริด้าเผยว่าผู้ป่วยทุกคนในห้อง ICU ที่เขาดูแลล้วนไม่ได้ฉีดวัคซีน และผู้ป่วยเหล่านี้ซึ่งติดโควิดสายพันธุ์ฺเดลต้าเสียชีวิตเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ระบาดเมื่อปีที่แล้ว และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนอายุระหว่าง 30-50 ปี
ด้านดร.แอนโธนี่ ฟาวซี่ ผอ. สถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้สหรัฐกล่าวว่าจะมีคนอเมริกันเสียชีวิตจากโควิดเพิ่มอีก 1 แสนคนภายในเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งตัวเลขนี้มาจากโมเดลของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ล่าสุดสหรัฐฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 52.1% มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 39 ล้านคน (39,665,515) เสียชีวิตกว่า 6 แสน 5 หมื่นคน (654,689)