ดีเอสไอรวบผู้บริหาร “ดูทีวี มีเดีย” ละเมิดลิขสิทธิ์ ช่อง 7 เสียหาย 2,800 ล้าน

ดีเอสไอรวบผู้บริหาร "ดูทีวี มีเดีย" ละเมิดลิขสิทธิ์ ช่อง 7 เสียหาย 2,800 ล้าน

25 ต.ค.2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สืบสวนสอบสวนกรณีบริษัท ดูทีวี มีเดีย จำกัด กับพวก ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ในงานโสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์และงานแพร่เสียงแพร่ภาพของบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด หรือสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 โดยการทำซ้ำ ตัดต่อ และนำข้อมูลในรูปแบบรายการโทรทัศน์ที่แพร่เสียงแพร่ภาพผ่านทางช่อง 7 สี เช่น รายการละคร รายการข่าว รายการวาไรตี้ รายการซีรีส์ รายการภาพยนตร์ต่างประเทศ และรายการพิเศษต่างๆ ซึ่งเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ของบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด และละเมิดเครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะเป็นเครื่องหมายบริการ เพื่อนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ดูทีวีดอทคอม (www.dootv.com)

 

ข่าวที่น่าสนใจ

และเว็บไซต์ไทยฟลิกซ์ดอทคอม(www.thaiflix.com) โดยไม่ได้รับอนุญาต มีการเรียกเก็บค่าสมาชิกจากลูกค้า ซึ่งเป็นผู้ชมที่อยู่ในต่างประเทศผ่านบัญชี Paypal ในอัตรา 14 เหรียญสหรัฐ ต่อ 30 วัน เป็นต้น ทั้งยังมีการตั้งสำนักงานหลายแห่งทั้งในประเทศไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว รวมจำนวนรายการละคร ฯลฯ ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ฯ มีจำนวนทั้งหมด 592 รายการ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 2,809,255,221 บาท เป็นคดีพิเศษที่ 58/2560 เหตุเกิดขึ้นในช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2558 ถึงประมาณเดือนสิงหาคม 2561


วานนี้ (วันอังคารที่ 24 ตุลาคม 2566) เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวน คดีพิเศษ ได้จับกุมผู้บริหารของบริษัท ดูทีวี มีเดีย จำกัด จำนวน 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

คดีพิเศษที่ 58/2560 เป็นคดีแรกของทางกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มีการสืบสวนสอบสวนการละเมิดลิขสิทธิ์บนระบบคลาวด์ (Cloud) โดยกลุ่มผู้ต้องหาเป็นโปรแกรมเมอร์ที่มีความรู้ความสามารถสูง มีการจัดเก็บข้อมูลรายการโทรทัศน์ของผู้เสียหายไปยังเครื่องแม่ข่าย (Server) ที่อยู่ในสหราชอาณาจักร โดยมีการปิดกั้นการเข้าถึงหรือการรับชมจากประเทศไทย มีการสับเปลี่ยนเว็บไซต์และพัฒนาเว็บไซต์ใหม่ๆขึ้นมาทดแทนเป็นระยะ เพื่อเลี่ยงกฎหมายและไม่ให้ผู้เสียหายรู้ถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ยังใช้ระบบการทำธุรกรรมทางการเงินในของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ยากแก่การติดตามเส้นทางการเงิน ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมโทรทัศน์ของไทย ได้รับความเสียหายจากกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินกิจการอย่างผิดกฎหมายดังกล่าว

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ร่วมกับ ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว จะมุ่งมั่นในการสืบสวนสอบสวนและดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทย และสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทย โดยจะเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 6 ราย เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนต้อนรับนักข่าวทั่วโลกที่บ้านเกิดขงจื๊อ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) “หุ่นยนต์ตำรวจ” จีนร่วมปฏิบัติภารกิจความปลอดภัยที่เสฉวน
"ปตท." เซ็นสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแหล่งอาทิตย์ เสริมมั่นคงพลังงานไทยยั่งยืน
เปิดคำพยากรณ์ "พระโคพอ พระโคเพียง" เสี่ยงทาย พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปี 68 กินเหล้า กินน้ำ กินหญ้า
"นฤมล" เผลผลสำเร็จ "ก.เกษตร" เจรจาฟิลิปปินส์ ไฟเขียว รับรองสัตว์ปีกดิบไทยส่งออกได้เป็นครั้งแรก
ซึ้งน้ำใจ "เจน ญาณปรีดส์" ทำถึง รู้ข่าวทหารหญิง เดือดร้อน บ้านไฟไหม้ จัดด่วนสิ่งของช่วยเหลือ พร้อมเงินสด ส่งให้ทันที
"พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต เพรโวสต์" พระสันตะปาปาลีโอ ที่ 14 โป๊ปองค์แรกจากสหรัฐอเมริกา เผยพระดำรัส "สันติจงมีแด่ท่านทั้งหลาย"
อุตุฯ ประกาศฉบับ 4 เตือนพายุฤดูร้อนถล่ม ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ฟ้าผ่า ลูกเห็บตก จว.ไหนบ้างเช็กเลย
"ไทย–กัมพูชา" จับมือจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา 2 แผ่นดิน สานสัมพันธ์อาเซียน เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก
เด็กไทยแห่เที่ยว “ปราสาทตาเมือนธม” พี่ทหารชื่นใจ-ให้ข้อมูลประวัติศาสตร์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น