“แบงก์ชาติ” ชี้จำเป็นน้อย แจกเงินดิจิทัลกระตุ้นใช้จ่ายครึ่งปีแรก 67

"แบงก์ชาติ" ชี้จำเป็นน้อย แจกเงินดิจิทัลกระตุ้นใช้จ่ายครึ่งปีแรก 67

19 ต.ค.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ มีวาระพิจารณานโยบายของรัฐบาลว่าด้วยดิจิทัลวอลเล็ต โดยมี น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน พร้อมด้วยตัวแทนจากกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้แจงให้ข้อมูล

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงต้นของการพิจารณา น.ส.ดารณี ย้ำว่าโครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท โดยผู้ที่มีสิทธิ์จะต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินจำนวน 1 หมื่นบาท ซึ่งรัฐบาลต้องการกระตุ้นอุปโภคบริโภคของประชาชน แต่มุมมองของ ธปท. เห็นว่า ตัวเลขเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกที่เกี่ยวกับการบริโภคภาคเอกชน มองว่าความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมผ่านโครงการนี้ยังมีไม่มาก เนื่องจากภาพรวมการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้สูง และตลาดแรงงานก็ฟื้นตัวต่อเนื่อง ดังนั้น ผลของโครงการต่อเศรษฐกิจอาจจะไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ด้านนายสิทธิพลกล่าวภายหลังการประชุมว่า ยังรอความชัดเจนของนโยบาย ซึ่งผู้แทนจากกระทรวงการคลังยังไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจน แต่ยังให้โอกาสรัฐบาลในการทำนโยบาย และเชื่อว่ารัฐบาลพยายามฟังเสียงรอบด้าน ทั้งข้อเสนอแนะและข้อทักท้วง ซึ่งจะเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้รัฐบาลออกแบบนโยบายได้ดี และไม่ทำให้เกิดผลเสีย หรือเกิดผลเสียให้น้อยที่สุด

นายสิทธิพล กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน ข้อดี ข้อเสียของนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งที่มาของงบประมาณ การนำไปใช้ วิธีการ ผลกระทบระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งทางกระทรวงการคลังชี้แจงว่า ยังอยู่ในระหว่างการหารือการตั้งคณะกรรมการ คณะทำงานในเรื่องต่างๆ ซึ่งเร่งทำอยู่

“วันนี้ทางกระทรวงการคลังไม่ได้ชี้แจงเรื่องแหล่งที่มาของเงิน บอกแต่เพียงว่ากรอบงบประมาณที่ใช้จะคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง โดยไม่ได้บอกว่าจะมีการนำแหล่งเงินจากการยืมจากรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ซึ่ง กมธ.จะมีการติดตามความคืบหน้าของโครงการการนี้ต่อไป” นายสิทธิพล ระบุ

เมื่อถามว่าโครงการนี้จะเกิดประโยชน์ได้จริงหรือมีผลเสียมากกว่าผลดีหรือไม่ นายสิทธิพล กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาล เรารอความชัดเจนของนโยบายถึงจะได้ประเมินได้ครบถ้วน เพราะในขณะนี้ประเมินจากข้อคิดเห็น และการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น และหากพูดในฐานะ สส.คนหนึ่ง ก็อยากให้โครงการนี้คุ้มค่ากับงบประมาณ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“พิชัย” เร่งเจรจา FTA ไทย-ยูเรเซีย เปิดการค้าการลงทุน
ตร.บช.ก.สอบ "เจ๊อ้อย" มาราธอนนานกว่า 10 ชั่วโมง ปมเงิน 71 ล้านบาท
ฮือฮา วัตถุมงคล "หมูเด้ง ฮิปโปกวักทรัพย์"  ด้าน "สำนักปฏิบัติธรรมฯ" แจงฆราวาสเป็นผู้จัดสร้าง นิมนต์พระไปอธิษฐานเท่านั้น
อบจ.อยุธยา เตรียมจัดงานแสง สี เสียง ลอยกระทงกรุงเก่า อาบน้ำเพ็ญเดือน12กับเกจิชื่อดัง ชมแข่งขันชกมวยเยาวชนไทย
20 ปี “เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ” เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ตอกย้ำความประทับใจ ชวนสัมผัสธรรมชาติ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จเป็นองค์ประธานการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์”
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 1 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก 2-5 พ.ย.นี้
แชร์สนั่น ปลุกเสก หมูเด้ง ฮิปโปกวักทรัพย์
ผบ.ทร. มอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย กำลังพล ประกอบคุณงามความดี
เจ้าอาวาสวัดดัง ขีดเส้นตาย "พระปีนเสา" กลับวัดภายใน 7 วัน ชี้พฤติกรรมไม่เหมาะสม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น