“บุ้ง ทะลุวัง” นำทีมป่วนหน้าศาลอาญา สาดแข้งใส่ตำรวจ ประท้วง “อดีตสามเณรโฟล์ค” ถูกจำคุกคดี 112

โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า อดีตสามเณรโฟล์คมีความผิดตามกฎหมายมาตรา 112 คำปราศรัยจำเลยทำให้ประชาชนเข้าใจว่ากษัตริย์ไม่น่าเคารพ ประชาชนเสื่อมศรัทธา พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี ให้การเป็นประโยชน์ ลดเหลือจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา อยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ อย่างไรก็ตามปรากฎว่าเกิดความวุ่นวายที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อแกนนำกลุ่มกลุ่มทะลุวัง นำโดย นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง และ หยก ธนลภย์ ได้พยายามเข้าไปหานายสหรัฐ ระหว่างถูกส่งไปยังห้องควบคุมตัว จนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ โดยบุ้งได้ชี้หน้าพร้อมต่อว่าตำรวจศาลว่า “มึงไปแตะต้องตัวหยกก่อน” จากนั้นได้ยกขาขวาเตะไปยังตำรวจศาล ทำให้ตำรวจศาลใช้ดิ้วหรือกระบองเหล็กยืดหดได้ฟาดกลับ แต่บุ้งยกแขนซ้ายมาก่อนป้องกันได้ทัน จากนั้นบุ้งได้เดินปรี่เข้าหาเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ผลักตัวบุ้งออก พร้อมบอกให้บุ้งถอยไป และบอกว่า “ผมไม่ได้ทำร้ายคุณนะ เมื่อกี้คุณทำร้ายผมนะ” “ผมเตือนคุณแล้วอย่าเข้ามา”

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รปภ.ประจำศาลอีกคนได้พยายามเจรจากับบุ้งโดยพูดเป็นภาษาใต้ ทำให้บุ้งโกนด่ากลับว่า “หุบปากไปเลย ไม่มีใครอยากพูดภาษาใต้กับมึง” จากนั้นบุ้งได้เดินไปเข้าไปหาตำรวจศาลคู่กรณีและด่าอีกว่า “มึงแตะต้องตัวหยกทำไม” ซึ่งจังหวะนี้บุ้งได้สังเกตว่าแขนซ้ายมีเลือดไหลออกมาจากการถูกกระบองเหล็กยืดหดได้ฟาด ทำให้บุ้งสบถออกมว่า “เหี้…..” ซึ่งตำรวจศาลได้ตอบโต้ว่า “ผมเตือนคุณแล้วอย่ามาใกล้ผม” และบอกอีกว่าหยกละเมิดอำนาจศาล บุ้งจึงสวนกลับว่า “มึงรู้ได้ไงว่าน้องละเมิดอำนาจศาล ศาลตัดสินแล้วเหรอ มึงเป็นผู้พิพากษาเหรอ มึงไม่ใช่ผู้พิพากษา อย่าเสร่อ ไอ้เหี้…..” ซึ่งตำรวจศาลก็ได้ตอบโต้ว่า “ผมเป็นตำรวจศาล เป็นเขตอำนาจของผม ไม่เป็นไร คุณโดนดำเนินคดีอยู่แล้ว” จากนั้นยุ้งกับตำรวจศาลได้ตอบโต้ไปมา โดยตำรวจศาลก็ยืนยันว่าบุ้งมาทำร้ายร่างกายก่อน เพราะมาจับหัวของตนก่อน ส่วนบุ้งก็อ้างว่าตำรวจศาลไปแตะต้องตัวหยกก่อน แต่ยอมรับว่าได้จับหัวตำรวจศาล แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย