วันที่ 29 ส.ค. 2564 นายพิริยะ ธานีรณานนท์ กล่าวว่า ตนในฐานะประชาชนชาวภาคใต้ขอขอบคุณรัฐบาล และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ดำเนินผลักดันการแก้ไขกฎหมายจนสามารถปลดล็อคพืชกระท่อม ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรภูมิปัญญาชาวบ้านที่ใช้กันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษออกจากพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้สำเร็จ ทำให้การรอคอยของชาวบ้านได้เห็นความหวังว่าพืชกระท่อมจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของชาวภาคใต้ นอกจากยาง ปาล์ม มะพร้าวที่เป็นผลผลิตหลัก
ซึ่งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีแหล่งเพาะปลูกพืชกระท่อมชั้นดีอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านนาสาร อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอพุนพิน เนื่องจากมีแม่น้ำตาปีไหลผ่าน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์จากต้นน้ำเขาหลวง คลองอิปัน และคลองพุมดวง พืชต่างๆที่ได้
จากบริเวณนี้จะมีคุณภาพที่ดี โดยเฉพาะการเพาะปลูกพืชใบกระท่อมเท่าที่ได้มีการสำรวจ ใบกระท่อมที่ได้จากบริเวณดังกล่าวจะมีใบที่สมบูรณ์ คุณภาพดี เมื่อนำมาทำกินเคี้ยว หรือต้มเป็นน้ำจะมีรสชาติดี เข้มข้น และมีประโยชน์มากหลังจากพืชกระท่อมถูกกฎหมายแล้ว ตนจึงมีแนวความคิดทำน้ำดื่มจากใบกระท่อมขึ้นมา โดยใบกระท่อมที่จะนำมาสกัดเป็นน้ำจะใช้เป็นพันธ์ “ก้านแดง” เพราะกระท่อมก้านแดงจะมีสรรพคุณของตัวยามากกว่ากระท่อมก้านสีเขียว หรือกระท่อมหางกัง หรือหางกระรอก อีกทั้งพืชกระท่อมตนมองว่าเป็นทองคำที่ฝังอยู่ใต้ดิน ถึงแม้ว่าราคาจะไม่แพงเท่าทองคำแต่ชาวบ้านสามรรถที่จะปลูกและนำออกมาจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจหรือคนที่ชอบกินกระท่อมได้อีกด้วย
ซึ่งกรณีที่ตนได้นำกระท่อมมาสต้มพร้อมดื่ม จะเป็นการช่วยเหลือต่อยอดให้เกษตรกรหรือพี่น้องชาวภาคใต้ ได้มีแหล่งจำหน่ายผลผลิตจากใบกระท่อมออกสู่ตลาด ถ้าเป็นพืชกระท่อมก้านแดงจะอยู่ในราคากิโลกรัมละ 200-300 บาท ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรและชาวบ้านได้มีตลาดที่แน่นอนและมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นช่วยฟื้นฟู เศรษฐกิจ ภาคใต้ ให้เติบโตอย่างยังยืนต่อไปในอนาคต สำหรับพืชกระท่อมที่นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์น้ำกระท่อมต้มสด ภายใต้ชื่อ “รีว่า กระท่อม แนเชอรัล” ซึ่งมีความหมายว่า สายน้ำที่อุดมสมบูรณ์ มี ขนาดบรรจุขวด 250 ซีซี ราคาขวดละ 19 บาท ผู้บริโภคท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อได้ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าโคลีเซี่ยม จ.สุราษฎร์ธานี ได้ทุกวัน
สันทัด เจ็ดเสมียนใหม่ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุราษฎร์ธานี