กต.เผยคนไทยในอิสราเอลเสียชีวิตแล้ว 12 ราย เร่งเจรจาปาเลสไตน์ขอปล่อยตัว

กระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์เหตุโจมตีในอิสราเอล ล่าสุดรับแจ้งจากนายจ้าง พบไทยเสียชีวิต 12 ราย เจ็บ 8 รายถูกจับ 11 ราย พร้อมประสานหลายประเทศ ช่วยเจรจาปาเลสไตน์ ปล่อยคนไทยที่ถูกจับกุม ขณะที่ กำลังตรวจสอบมีบางคนถูกปล่อยตัวแล้ว แต่ยังไม่เป็นทางการ เบื้องต้นแรงงานไทยแจ้งขอกลับบ้าน 1,099 คน ยืนยันรัฐบาลเตรียมพร้อมรับคนไทยกลับทันที

 

วันนี้ ( 9 ต.ค.66) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์เหตุโจมตีในประเทศอิสราเอล ว่าทางกระทรวงการต่างประเทศได้รับการสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ให้มีการแถลงความคืบหน้าวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นประโยชน์ และสร้างความมั่นใจ โดยรอบเช้า 11:00 น. ส่วนรอบบ่าย 17:00 น. โดยจะเชิญท่านทูตไทยประจำอิสราเอลมาร่วมอัพเดทสถานการณ์ด้วย

โดยสถานการณ์ล่าสุด ยังคงมีความรุนแรงมีการโจมตีจากฉนวนกาซาเข้ามา อย่างต่อเนื่อง โดยกองทัพของอิสราเอล พยายามกระชับพื้นที่เพื่อให้ได้พื้นที่คืน โดยมีพลเรือนทั้งสองฝั่งทั้งปาเลสไตน์และฝั่งอิสราเอลก็ได้รับผลกระทบ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเหมือนกัน โดยมีการยืนยันแล้วว่ามีผู้ถูกจับตัว 100 คนรวมชาติอื่น ๆ ด้วย ทั้งชาวอิสราเอล ฝรั่งเศส เยอรมัน ยูเครน จอร์เจียและคนไทย มีหลายชาติถูกจับตัว

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

โดยตอนนี้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลประกาศให้อิสราเอลอยู่ในภาวะสงครามอยู่ในสถานการณ์พิเศษเพื่อให้กองทัพ สามารถสั่งการได้อย่างปลอดภัยและปิดสถานที่ให้กับพลเรือนได้อย่างเหมาะสม กองทัพอิสราเอลประกาศอพยพประชาชนและพลเมืองออกจากฉนวนกาซ่าแล้วเมื่อวานนี้ และจะพยายามอพยพออกมาให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่เนื่องจากต้องเกิดความแน่ใจให้มากที่สุดว่าไม่มีผู้ก่อการร้ายในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของพลเรือนเป็นสำคัญ

กระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลของอิสราเอลมีการหารือรับรายงานสถานการณ์ผ่านทางออนไลน์ โดยพยายามแจ้งให้เกิดคลายความกังวลไปยังสถานทูตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ทางการอิสราเอลแจ้งว่า ท่าอากาศยานของอิสราเอลยังคงเปิดทำการเป็นปกติ อิสราเอลยังยืนยันว่ายังมีความปลอดภัย ไม่ได้แนะนำให้อพยพแต่หากประเทศไหนที่มีพลเมืองอยากจะอพยพก็สามารถทำได้ โดยใช้เครื่องบินพาณิชย์จะสะดวกและรวดเร็ว สามารถที่จะติดต่อกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานงานต่อไปได้

และขณะนี้ยังไม่มีความแน่ชัดในเรื่องของจำนวนผู้เสียชีวิต ของทั้งคนอิสราเอลและต่างชาติที่อยู่ในสถานการณ์ ซึ่งในช่วงตอนกลางของประเทศอิสราเอล มีช่วงเวลาที่จะต้องเตือนภัยและเข้าหลุมหลบภัย ซึ่งมีการประสานงานให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

 

ส่วนคนไทยที่อยู่ในสถานการณ์ ได้รับแจ้งจากนายจ้างเพิ่มเติมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ถูกจับกุมตัว ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 8 คน ได้รับการดูแลปฐมพยาบาล และส่งโรงพยาบาลแล้ว ส่วนการจับกุมตัวประกัน คนไทยยังคงมีตัวเลขอยู่ที่ 11 คน ด้านผู้เสียชีวิตทางสถานทูตได้แจ้งมาว่าได้รับแจ้งจากทางนายจ้างผู้เสียชีวิตที่เป็นทางการ 12 ราย ซึ่งทางการอิสราเอลยังไม่ได้ยืนยันเนื่องจากอาจจะมีความยากในเรื่องการตรวจสอบ อัตลักษณ์บุคคล ซึ่งทางการไทยก็เข้าใจ

ทั้งนี้ทางการอิสราเอลได้เริ่มอพยพแรงงานไทยออกมาอย่างที่ปลอดภัยแล้วส่ง ข้อมูลให้สถานทูตแปลเอกสารเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารเป็นภาษาไทยและส่งมารายงานให้ทราบอย่างรวดเร็ว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการอพยพแรงงานไทยกลับประเทศนั้น มีการเตรียมการแล้ว ภายหลังจากที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้ประชุมความคืบหน้าเมื่อวานนี้เพื่อเป็นการเตรียมการไว้ให้เกิดความพร้อม หากสถานการณ์พร้อมจะเดินทางไปรับก็สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งต้องทราบเส้นทาง รวมถึง วันเวลาในการเดินทางให้ชัดเจนเพื่อการขออนุญาตทางการบิน ประสานการผ่านน่านฟ้าของแต่ละประเทศด้วย

อย่างไรก็ตามทางการอิสราเอล มองว่ายังไม่จำเป็นต้องมีการอพยพ แต่หากแรงงานไทยที่อยู่ในประเทศอิสราเอลต้องการที่จะอพยพก็สามารถที่จะยื่นความประสงค์พร้อมที่จะกลับบ้านได้ เนื่องจากหลายคนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประสบภัยและมีการออกค่าใช้จ่ายเพื่อเดินทางมาทำงานแล้ว ก็เป็นความสมัครใจของแรงงานไทยที่จะแจ้งความจำนงต่อสถานทูต

 

ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 เวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น มีคนไทยยื่นความประสงค์ ขอเดินทางกลับประเทศแล้ว จำนวน 1,099 คน และส่วนที่ยังไม่ขอ กลับอีก 22 คน ซึ่งที่ทราบว่า มีจำนวนแรงงานไทยที่อาศัยทำงานอยู่ในอิสราเอล ประมาณ 30,000 คนและอยู่ในฉนวนกาซา 5,000 คน โดยมีการเตรียมเครื่องบินไว้พร้อมแล้ว

พร้อมย้ำว่าสถานทูตไทยประจำอิสราเอล และรัฐบาลให้ความสำคัญมากเรื่องการดูแลและช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย จึงพยายามสื่อสารเพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนกและมีความมั่นใจ ว่าทุกฝ่ายจะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแรงงานไทยในอิสราเอล และจะมีการประชุมศูนย์ติดตามสถานการณ์ฉุกเฉินทุกวัน พร้อมแถลงข่าวเพื่อให้เกิดการสื่อสารที่ชัดเจนและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 12 ราย เพราะเป็นความละเอียดอ่อนและไม่ให้กระทบต่อขวัญกำลังใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้สถานทูตไทยอยู่ระหว่างดำเนินการประสานไปยังสถานทูตในหลายประเทศ เช่น สถานทูตกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่สามารถประสานงานไปยังปาเลสไตน์เพื่อหวังหาช่องทางช่วยเหลือ 11 ตัวประกันคนไทย ให้ถูกปล่อยตัวกลับมาอย่างปลอดภัย โดยในช่วงบ่ายเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลจะมีการอัปเดตสถานการณ์ในเรื่องนี้อีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กัมพูชา" ยันประชุม JBC ราบรื่น เดินหน้าปักปันเขตแดน แต่ไม่ยอมรับแผนที่ไทย 1 ต่อ 5 หมื่น
สระแก้ว หน้าด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ คนไทยรอข้ามแดนแถวยาวเหยียด
‘ชัยวัฒน์’ โพสต์เดือดถึงปลัดทส. ลั่นเจอกันที่ศาล เหตุหนังสือไล่ออกแชร์ว่อน
เหิมไม่หยุด โซเชียลเขมรเปิดภาพเตรียมพร้อมรบ "ทหารกัมพูชา" แต่งยูนิฟอร์มจัดเต็ม
คนไทยแห่ต่อคิวข้าม "ด่านคลองลึก" ไปทำงานฝั่ง "ปอยเปต" แถวยาวถึงตลาดโรงเกลือ ด้านเขมร ข้ามฝั่งมาบางตา
สมช. เตรียมถกด่วน ประเมินสถานการณ์ รับมือรัฐบาลกัมพูชาหยุดซื้อไฟ-เน็ตไทย
"ชาวบ้านมะมัง" สุดทน ลุกฮือต้าน "พระนักเทศน์ชื่อดัง" กลับวัด หลังไลฟ์สดยุ "ทหารกัมพูชา" ยิงคนสุรินทร์ ให้ตุยทั้งหมด
กต.สรุปผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ลุล่วงด้วยดี ยกก้าวสำคัญจัดทำเขตแดน ช่วยลดตึงเครียด เตรียมถกอีกรอบกันยายนนี้
"กัมพูชา" ยอมเปิดด่านให้ผลไม้เข้า ตั้งเงื่อนไขตอบโต้ไทย สั่งห้ามนำเข้าผลไม้จาก "จันทบุรี"
“อนุทิน” มั่นใจ "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ชิงยุบสภา แจงยังคุยกันปกติ ย้ำยึดประโยชน์ปชช.เป็นแนวทำงาน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น