จากกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าจับกุม นายสุวรรณหงษ์ (สงวนนามสกุล)อายุ 44 ปี และ นายอัครวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นพ่อลูกกัน ได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พร้อมของกลางลูกกระสุนแบงกัน 209 นัด, ท่อเหล็กตัดท่อนเป็นลำกล้องปืน 33 ท่อน, สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย 2 เล่ม, เสื้อยืดคอกลมสีเทาตัวที่นายสุวรรณหงส์ฯ สวมใส่ขณะกดเงิน, แม็กกาซีนปืน 9 อัน และอุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนอื่นๆ รวม 27 รายการ
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลหลังจับกุมเด็กวัย 14 ปี ก่อเหตุไล่ยิงคนภายในห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน กทม. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย จนสืบทราบว่าทั้ง 2 คนว่าขายปืนบีบีกันดัดแปลงให้กับเด็กวัย 14 ปี โดยหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายพร้อมของกลางไปที่ สภ.เมืองยะลา ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่้มเติมที่ สน.ยานนาวา กทม. เพื่อขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป ล่าสุด (5 ต.ค.66) พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ยะลา กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายแล้วทำการสอบปากคำในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าร่วมกันผลิตอาวุธปืนบีบีกันดัดแปลงจริง โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี
ด้าน นายวีรเกียรติ เจริญสุข อายุ 52 ปี หัวหน้างานกองช่างแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา ซึ่งเป็นหัวหน้าของ นายสุวรรณหงษ์ ผู้ต้องหาวัยที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม เปิดเผยว่า นายสุวรรณหงษ์ เป็นคนขยัน ทำงานดี ไม่เคยสุงสิงกับใคร และไม่กินเหล้า โดยหลังจากนี้คงจะยังไม่ต่อสัญญากับ นายสุวรรณหงษ์ แต่ถ้าหาก นายสุวรรณหงษ์ พิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก็จะรับเข้าทำงานเหมือนเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
