วันที่ 28 ส.ค. -นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า โรมอย่าโยงมั่ว ปฏิรูปตำรวจ ปรากฏการณ์ผู้กำกับโจ้ ที่คนไทยมองเห็นนั่นคือความเลวร้ายของตัวบุคคล ที่ถูกเชื่อมโยงไปยังองค์กรนั่นคือตำรวจ จนเกิดกระแสปฏิรูปตำรวจ แต่ไม่น่าเชื่อ คนระดับ ส.ส.อย่างนายรังสิมันต์ โรม กลับมองไม่เห็นเหมือนที่ประชาชนทั่วไปที่เห็น แต่เอาสิ่งที่ผู้กำกับโจ้ ไปอบรม “จิตอาสา” ของโรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน ไปเชื่อมโยงถึงสถาบันเบื้องสูง ถ้าจะพูดแบบชาวบ้าน คนที่เข้าอบรมจิตอาสา ก็มีทั้งคนดีคนไม่ดี คนที่เรียนธรรมศาสตร์ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี คนดีก็ควรได้รับการสรรเสริญแต่คนไม่ดีก็ถูกลงโทษ และใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกันหมด
นายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า การที่นายโรมนำผู้กำกับโจ้ ไปโยงเรื่องนี้ รวมทั้งไปโยงตัวบุคคลที่อบรมรุ่นเดียวกัน เพื่อโจมตีเบื้องสูง ตนคิดว่าสมองของนายโรมน่าจะยิ่งกว่าการอคติ แสดงว่าความคิดชั่วๆ ถูกอัดแน่นในสมองจำนวนมาก มันจึงทำให้นายโรมแยกแยะไม่ถูกว่าอะไรคืออะไร นายโรมน่าจะจำเหตุการณ์ดีเบท ที่ FCCT ได้นะ ที่ไปโจมตีมาตรา112 วนเวียนซ้ำซากแบบนกแก้ว นกขุนทอง ต่อหน้าสื่อฝรั่ง แต่สุดท้ายถูกชุดข้อมูล ชุดข้อเท็จจริงเอามาสั่งสอน จนดูแต่คนสั่งผ่านมือถือ แทบต้องลุกไปเข้าน้ำไม่ทัน สุดท้ายคนไทยเขาก็รับรู้ว่า พวกคุณถูกล้างสมองท่องบทโจมตีสถาบัน เอาใจฝรั่ง แบบไม่มีเหตุผล แม้แต่คำว่าสิทธิมนุษยชนที่เอามาพูดติดปาก วันนั้นยังแจงไม่ได้เลยว่ามาตรา112 ขัดหลักการสิทธิมนุษยชนสากลข้อไหน
นายแพทย์วรงค์ กล่าวอีกว่า แทนที่ผิดแล้วต้องปรับปรุง แต่ก็ยังเป็นนกแก้วนกขุนทองต่อไป โดยเอาผู้กำกับโจ้ ไปเหมารวมเรื่อง “จิตอาสา” ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะ “จิตอาสา” ต้องการสอนให้คนไทยมีจิตใจเสียสละ ช่วยเหลือคนอื่น แนวคิดนี้มันผิดตรงไหน อย่าโยงมั่วๆ ตนไม่แปลกใจที่ทำไมคนไทยแม้จะไม่ happy กับรัฐบาลชุดนี้หลายเรื่อง แต่บังเอิญมีนักการเมืองคิดชั่วแบบนี้ เขาจึงยอมให้รัฐบาลนี้ทำหน้าที่ไปก่อน น่าจะรู้ตัวนะว่าทำไมม็อบที่พวกคุณเชียร์ จึงไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ก็เพราะความคิดเลวในสมองแบบนายโรม ประชาชนเขาไม่เอา