วันที่ 27 ส.ค. 2564 นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “มีดสอยสะตอเป็นเหตุ” บาดเจ็บสาหัส เอ็นขาด เส้นเลือดขาด กล้ามเนื้อน่องฉีกขาด ระยะนี้สะตอทางภาคใต้ออกฝักมากขึ้น เจ้าของสวนจึงรีบสอยเอามาขายหรือกินเอง แต่ต้องระวังตัว อันตรายอย่างยิ่ง โดยพบป่วยชายอายุ 51ปี ถูกหามส่งตัวโรงพยาบาลสิชล ขาพันด้วยผ้าผูกมัดแน่นเพื่อห้ามเลือด ด้วยเหตุขึ้นไปเก็บสะตอ ที่ต้นค่อนข้างสูง จึงต้องปีนต้นแล้วถือไม้สอยที่มีมีดคล้ายเคียวที่ปลายด้าม ขึ้นไปด้วย ซึ่งมีดสอยสะตอมีด้ามยาวประมาณ 6 เมตร หลังเก็บเกี่ยวไปได้ประมาณ 5-6 ฝัก เกิดมีดหลุดออกมาจากด้ามหล่นลงมาด้วยความเร็วปาดหน้าหลบไปได้อย่างหวุดหวิด แต่มิวายปักเกี่ยวที่ต้นขาเหนือเข่า และน่อง จนเลือดไหลพุ่งกระฉูด ด้วยความตกใจรีบทิ้งไม้ลงพื้น ไม่เช่นนั้นจะทำให้ตนเองตกจากต้นสะตอสูง 6 เมตรไปด้วย ยิ่งบาดเจ็บรุนแรงไปอีก
เมื่อผู้ป่วยมาถึงห้องฉุกเฉิน แพทย์เวรรีบเข้าไปดู ผู้ป่วยมีอาการเสียเลือดมาก ชีพจรเบา เร็ว เริ่มช็อค เสียเลือดมาก ยกขาข้างที่มีแผลไม่ค่อยขึ้น จึงรีบให้แทงเส้นให้น้ำเกลือ จองเลือด ให้ยาฆ่าเชื้อ ยากันบาดทะยัก นำเข้าห้องผ่าตัดทันที ทีมหมอดมยาสลบและหมอผ่าตัดรออยู่แล้ว เริ่มผ่าตัด ใช้สายรัด ทูนิเกต์ เพิ่มแรงดัน เพื่อรัดห้ามเลือดที่ต้นขาให้สามารถเห็นพื้นที่ผ่าตัดได้ง่ายขึ้น เปิดแผลให้กว้างยาวกว่า 30 เซนติเมตร พบว่าบาดแผลค่อนข้างสกปรก เส้นเอ็น เส้นเลือดกล้ามเนื้อฉีกขาด ทำความสะอาดบาดแผล เย็บซ่อม ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ผ่าตัดแล้วเสร็จ
จึงเป็นอุทาหรณ์เตือนใจเป็นอย่างดี ลองหลับตานึกภาพถ้ามีดปักที่หัว ใบหน้า ใบหู จะเป็นอย่างไร บอกได้คำเดียว น่ากลัว!! ซึ่งหลังโพสต์ภาพและเรื่องราวมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง พร้อมชื่นชมทีมแพทย์ รพ.สิชล ในการผ่านจัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนอาหารปลอดภัยในครั้งนี้.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช
