เปิดใจ “สารวัตรกล้า” หลัง บช.ก. แต่งตั้งไปรับตำแหน่งแทน “สารวัตรศิวกร” ลั่นขอกอบกู้ภาพลักษณ์ ตร.ทางหลวง

การจากสูญเสีย พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ ตำแหน่ง สารวัตรทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการทางหลวง ซึ่งถือว่าเป็นตำรวจมือดี ที่ทำงานซื่อตรงต่อหน้าที่ โดยล่าสุด พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งรักษาราชการแทนสารวัตรศิวกร ในตำแหน่งสารวัตรสถานีตำรวจ 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ทีมข่าวท็อปนิวส์ได้สัมภาษณ์เปิดใจ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ หรือ สารวัตรกล้า ซึ่งได้กล่าวยอมรับว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งดังกล่าว

แต่ลึกๆก็มีความรู้สึกกดดันอยู่บ้าง เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่า จะดำรงตำแหน่งสารวัตรทางหลวง และถือว่าเป็นภารกิจที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง สำหรับภารกิจต่อจากนี้ไป นั่นก็คือการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรตำรวจ โดยเฉพาะตำรวจทางหลวง แม้ที่ผ่านมาจะมีการร้องเรียนปัญหาสติ๊กเกอร์รถบรรทุก ที่วิ่งบนท้องถนนหลวง

โดยเฉพาะ จ.นครปฐม นับเป็นจังหวัดที่ถูกจับตามองในปัญหาส่วยสติ๊กเกอร์มากที่สุด เพราะมีทั้งข้าราชการ คนมีสี และผู้ประกอบการเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการขายสติ๊กเกอร์แลกกับการไม่ถูกจับ จึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และจะไม่มีการละเว้น ตลอดจนเน้นย้ำว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้ของกฎหมาย ไม่เพียงเท่านั้น สารวัตรกล้า ยังได้เล่าถึงความรักความผูกพันธ์ที่มีต่อสารวัตรศิวกร เพราะในอดีตที่ผ่านมา ตนเคยทำงานร่วมกับ สารวัตรศิวกรมาหลายคดี และมีความสนิทสนมกับสารวัตรศิวกรเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจเหมือนกัน โดยสารวัตรกล้าเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 68 ส่วนสารวัตรศิวกร เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 67 ทั้งนี้ สารวัตรกล้า ยังได้เล่าย้อนความหลัง ขณะที่เป็นนักเรียนนายร้อย ว่าตนเป็นนักกีฬารักบี้ ส่วนสารวัตรศิวกร เป็นนักกีฬาฟุตบอล และทั้งสองคนมักจะฝึกซ้อมในสนามใกล้เคียงกัน โดยสารวัตรศิวกร เป็นคนมีอุปนิสัยรักพี่รักเพื่อนพ้องและมีน้ำใจ ตลอดจนคอยให้กำลังใจมาโดยตลอด

ข่าวที่น่าสนใจ

จนกระทั่งต่างคนต่างสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และไปเติบโตในหน้าที่ราชการตำรวจ ได้มาพบกันอีกครั้ง เมื่อครั้งที่มาปฏิบัติหน้าที่ ที่กองปราบปราม นอกจากนี้ สารวัตรกล้า ยังได้เล่าวินาทีที่ทราบข่าวเหตุสลดที่เกิดขึ้นกับสารวัตรศิวกร ซึ่งเปรียบเสมือนพี่ชายที่ตนเคารพรัก ต้องมาจบชีวิตลง โดยกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ตนไปอบรมอยู่ที่จังหวัด อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ณ ค่ายพระราม 6 ในหลักสูตรเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ทราบข่าวว่าสารวัตรศิวกร โดนยิงจึงตัดสินใจขับรถจากอำเภอชะอำ มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลนครปฐมในทันที

ในช่วงเวลาดังกล่าว ตนได้ไปพบกับมารดาของสารวัตรศิวกร ได้พูดคุยกันเล็กน้อย และอยู่ด้วยกันเพื่อรอฟังข่าวอาการของสารวัตรศิวกร จนสารวัตรศิวกรได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา สำหรับประวัติของ สารวัตรกล้า หรือ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 52 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 68 ในปี 2558-2560 เป็นรองสารวัตรสอบสวน สน.บางยี่ขัน ในปี 2561-2564 เป็นรองสารวัตรกองกำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม

ในปี 2565-2566 เป็นสารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี กระทั่งมีคำสั่งแต่งตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ สารวัตรสถานีตำรวจ 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยขาดจากตำแหน่งเดิม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สวนสัตว์เปิดเขาเขียวต้อนรับสมาชิกใหม่ “ลูกคาปิบารา” 3 ตัว สุดคิวต์ เตรียมตั้งชื่อเร็ว ๆ นี้ รับวันแม่แห่งชาติ เด็กเข้าฟรี
"ดีอี" เตือนข่าวปลอม "กรมศิลป์ อนุญาตทำลายปราสาท" กระทบภาพลักษณ์ไทย ขอปชช.อย่าหลงเชื่อ
ฉะเชิงเทรา อุทาหรณ์ ! สาวเลี้ยงกุ้งไม่ทันระวังเดินข้ามเพลาตีน้ำกุ้งถูกเครื่องดึงขาเกือบขาด
รถไฟรถด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ – กรุงเทพอภิวัฒน์ ตกรางที่กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
จังหวัดมหาสารคาม เตรียมพร้อมจัดงานออนซอนกลองยาววาปีปทุม เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 160 ปี เมืองมหาสารคาม
"ฮุน เซน" ของขึ้น คอมเมนต์ "Don’t Thai to me!" หลังรามคำแหงถอนปริญญากิตติมศักดิ์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​