กลุ่มป้องสถาบัน ยื่นหนังสือค้านขอย้ายตัวเพนกวินและพวกไปรักษานอกโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ศปปส. นำทีมภาคีเครือข่าย มายื่นหนังสือคัดค้าน ย้ายเพนกวิน รักษาตัวนอกเรือนจำ มองว่าไม่มีเหตุอันควร พร้อมชี้ถึงประสิทธิภาพของโรงพยาบาลภายในราชทัณฑ์

นายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว แกนนำศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) พร้อมด้วยนายฐากูร นวลแก้ว โฆษกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน และนางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ศูนย์ช่วยเหลือทางด้านกฏหมายสำหรับเหยื่อที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เดินทางมายื่นหนังสือขอให้กระทรวงยุติธรรม และศาล พิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้าน กรณีการส่งตัวผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 เข้ารับการรักษาที่อื่น ระหว่างถูกควบคุมตัวอย่างไม่มีเหตุอันควร โดยมีนายวัลลภ นาคบัว  รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้มารับเรื่อง โดยก่อนหน้านี้  นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ได้มายื่นหนังสือกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอย้ายตัวเพนกวิน กับพวก ไปรักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด 19 ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์

นางแน่งน้อย ในฐานะตัวแทนของผู้เป็นแม่ ได้กล่าวถึงการยื่นหนังสือของอธิการบดีที่มีความประสงค์ขอให้เพนกวินกับเพื่อนที่เป็นนักศึกษา และเป็นผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ และได้รับการรักษาอยู่ในราชทัณฑ์ ขณะนี้ ว่าตนเองไม่เห็นด้วย หากจะมีการอนุญาตให้ย้ายตัวเพนกวิน เนื่องจากกรมราชทัณฑ์มีนักโทษอยู่ในราชทัณฑ์กว่า 3 แสนราย หากมีการอนุญาติให้ 2 รายนี้ก็จะเกิดความไม่เป็นธรรม สองมาตราฐาน และเพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่ดี และไม่ให้เป็นการเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องการเลือกปฏิบัติ จากสังคม และมองว่าไม่มีเหตุอันควรที่ต้องย้ายออกไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น เนื่องจากประสิทธิภาพการรักษาของโรงพยาบาลในกรมราชทัณฑ์เอง และพฤติกรรมของเพนกวินและพวก ที่มักจะปลุกปั่น ยุยง ปลุกระดมทำให้เกิดความแตกแยกของคนในสังคม รวมถึงบทบาทของการเป็นแกนนำม็อบทีามุ่งประเด็นไม่เอาระบบสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยจนเป็นที่มาของการถูกดำเนินคดี

ด้านจักรพงศ์ กล่าวถึงประสิทธิภาพของโรงพยมบาลในการรักษานักโทษที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อของกรมราชทัณฑ์ ที่ก่อนหน้านี้มียอดผู้ติดเชื้อสูงกว่าหมื่นราย แต่ก็ได้รับการรักษาจนหาย ดังนั้นจึงไม่ใช่ข้ออ้างที่จะนำตัวเพนกวินออกไปรักษาที่อื่น อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องหาในคดีตามมาตรา 112

ส่วนนายฐากูร กล่าวถึงความเหลื่อมล้ำทางด้านสังคม จึงไม่อยากให้เห็นกรณีดังกล่าวนี้เกิดขึ้น ตนเองในฐานะอาชีวะขอเป็นตัวแทนร่วมกับภาคีในการยื่นหนังสือครั้งนี้ให้พิจารณาในการเรียกร้องเพื่อไม่ให้เกิด 2 มาตรฐานในสังคม

 

ขณะที่ นายวัลลภ ผู้มารับเรื่อง กล่าวถึงการมารับหนังสือในวันนี้จะรีบดำเนินการแจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้รับทราบและดำเนินการต่อไป และยังกล่าวถึงรวนการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพของโรงพยาบาลในเครือราชทัณฑ์ภายใต้กระทรวงยุติธรรม ก็เพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาลต่างก็ต้องผ่านการรับรองตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงความเข้มงวดในขั้นตอนการคัดกรอง การตรวจหาเชื้อและการรักษาเชื้อท่ามกลางการระบาดของโควิด 19 หากเกิดความผิดพลาดทุกคนก็สามารถตรวจสอบได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน
ก.แรงงานทำสำเร็จ นำประชุมบอร์ดค่าจ้าง ได้ข้อสรุป ปรับขั้นต่ำขึ้น 400 ต่อวัน เริ่ม 1 ก.ค.ทั่วกรุงฯ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น