ผบ.ตร.สั่งโอนคดีกำนันนกให้ “บช.ก.” รับผิดชอบทั้งหมด เดินหน้าเรียกสอบปากคำพยานเพิ่ม

ผบ.ตร.สั่งโอนคดีกำนันนกให้ “บช.ก.” รับผิดชอบทั้งหมด เดินหน้าเรียกสอบปากคำพยานเพิ่ม

17 กันยายน 2566 มีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้โอนสำนวนการสอบสวนคดีที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมด

 

 

เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดียิงสารวัตรแบงค์เสียชีวิต แต่ในส่วนของการเรียกสอบพยานในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และคดีฮั้วประมูลของบริษัท “กำนันนก” จะยังคงสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพราะเป็นสถานที่เกิดเหตุ และเพื่อความสะดวกของพยานในการเดินทางมาสอบปากคำ โดยในวันพรุ่งนี้(18 ก.ย.) พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะเรียกชุดทำคดีประชุมในเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนความคืบหน้าในการแจ้งเข้าหาเพิ่มเติมกับตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่เข้าระงับเหตุ ล่าสุดมีรายงานจากชุดสืบสวนว่า พนักงานสอบสวนจะมีการแจ้งข้อหาตามมาตรา 157 กับผู้กำกับ สน.พญาไท และผู้กำกับเบิ้มที่เสียชีวิต แต่ในส่วนของผู้กำกับเบิ้ม จะไม่ส่งฟ้องเนื่องจากเจ้าตัวเสียชีวิตไปแล้ว

 

ทั้งนี้ต้องรอความชัดเจนจากพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะเข้ามาแถลงความคืบหน้าการแจ้งข้อหาตำรวจในช่วง 15.00 น วันนี้ ที่ตำรวจภูธรภาค 7

 

ส่วนกรณีที่มีสมาชิก อบต.รายหนึ่ง ได้ใช้สิทธิ์ราชการซื้อปืนแล้วนำไปให้นายเด้ง และนายต๋อง ลูกน้องของกำนันนกไว้ใช้ รักษาความปลอดภัยให้แก่กำนันนกนั้น

 

ทีมข่าวได้สอบถามไปยังนายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภอเมืองนครปฐม บอกว่า โดยปกติข้าราชการท้องถิ่นสามารถใช้สิทธิ์ซื้ออาวุธปืนประจำตัวได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความจำเป็น ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อเก็บไว้เอง แต่ในกรณีนสมาชิก อบต.รายนี้ กลับใช้สิทธิ์ราชการเอื้อประโยชน์ซื้อปืนให้ลูกน้องกำนันนกไว้ใช้ ซึ่งถือว่าผิดวัตถุประสงค์

 

ตนเองในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้ออกคำสั่ง นฐ.0111/4166 ลงวันที่ 15 กันยายน2566 ให้สมาชิก อบต.รายดังกล่าว ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงและโต้แย้งเข้ามาภายใน 7 วัน ว่า ทำไมถึงสละสิทธิ์ครอบครองอาวุธปืนด้วยเหตุผลใด จากนั้นคณะกรรมการของอำเภอนครปฐมก็จะพิจารณา หากพบว่าไม่มีเหตุอันควร ก็จะทำเรื่องเพิกถอนการครอบครองอาวุธปืนและดำเนินการทางวินัยต่อไป ส่วนคดีอาญาก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแจ้งข้อกล่าวหาสมาชิกอบต.รายนี้

 

อย่างไรก็ตามกรณีที่มีการแจ้งมาตรา 157 กับผู้กำกับเบิ้มนั้น เบื้องต้นมีรายงานว่า ทางผู้กำกับไม่ได้เข้าไปช่วยสารวัตรแบงก์ทันทีหลังเกิดเหตุ เพราะในวงจรปิดไม่มีภาพผู้กำกับเบิ้ม โดยตำรวจให้เหตุผลว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เห็นผู้กำกับตอนมาโรงพยาบาลแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​