“รสนา” ชำแหละ “นช.ทักษิณ” ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย อ้างวาทกรรมกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ทั้งที่เป็นนักโทษคดีทุจริต

"รสนา" ชำแหละ “นช.ทักษิณ” ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย อ้างวาทกรรมกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ทั้งๆที่เป็นนักโทษคดีทุจริต ซัดต้องติดคุก

ยังคงกลายเป็นประเด็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง ภายหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริตที่ศาลมีคำพิพากษาถึงสุดแล้ว ให้จำคุกรวม 8 ปี ใน 3 คดี แต่พอเดินทางมาถึงประเทศไทย นายทักษิณกลับไม่ได้รับโทษโดนการติดคุก เพราะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อกลางดึกของวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู ถึงความไม่ชอบมาพากล และความไม่เหมาะสมของขั้นตอน ตั้งแต่ต้น กลางน้ำ และปลายน้ำ เช่นเดียวกับ คุณรสนา โตสิตระกูล อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่เคยตรวจสอบระบอบทักษิณ ชนิดขุดรากถอนโคนได้สำเร็จมาแล้ว ได้ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวท็อปนิวส์ โดยเปิดฉากเล่าย้อนกลับไปในอดีต ถึงความฟอนเฟะของระบอบทักษิณ ที่เกิดขึ้นในปี 2543-2544 ขณะนั้นยังเป็นพรรคไทยรักไทย

มีการหาเสียงว่าจะยกเลิกกฎหมายขายชาติทั้ง 11 ฉบับ แต่ฉบับที่ร้ายแรงที่สุด คือฉบับแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หลังจากพรรคไทยรักไทยได้จัดตั้งรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ก็ได้เข้ามาแปรรูป ปตท. จนกระทั่งในการเลือกตั้งครั้งที่สอง ทำให้พรรคของนายทักษิณ เกิดแลนด์สไลด์ และนำไปสู่การแปรรูป กฟผ. อีกครั้ง ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ในคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงเดินหน้าคัดค้าน จนนำไปสู่การฟ้องศาล และชนะคดีในที่สุด ที่สามารถหยุดยั้งการแปรรูป กฟผ.ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ คุณรสนา ยังได้กล่าวถึงประเด็นการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ในวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเดินทางกลับแบบไม่ใช่คนธรรมดา หรือนักโทษที่ต้องคดี ประดุจดั่งคำโบราณที่ว่า “ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่เท้าของนายทักษิณ แตะที่สนามบินดอนเมือง กระทั่งเข้าสู่เรือนจำ นายทักษิณ กลับถูกปฎิบัติเฉกเช่นบุคคลสำคัญระดับราชอาคันตุกะ ที่เป็นแขกบ้านแขกเมืองของประเทศ มีการยืนต้อนรับของเจ้าหน้าที่ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นายทักษิณสามารถเดินเหินได้ตามปกติ โดยไม่ได้มีข้อบังคับหรือระเบียบใดๆที่นักโทษคนหนึ่งพึงกระทำ

นอกจากนี้ คุณรสนา ได้แสดงความคิดเห็นกับกรณีการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ซึ่งส่วนตัวมองการพระราชทานอภัยโทษ เป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ ซึ่งจะมีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกัน อันประกอบด้วยการขอพระราชทานอภัยโทษแบบทั่วไป และการขอพระราชทานอภัยโทษแบบรายบุคคล แต่ในส่วนกรณีของนายทักษิณนั้น ต้องไม่ลืมว่านายทักษิณถูกศาลพิพากษาจนถึงที่สุดแล้ว ในคดีทุจริต เหมาะสมหรือไม่ที่จะขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ม.นเรศวร" สั่งเลิกจ้าง "ดร.พอล" โดนร้องทำผิดคดี 112 ตม.ยึดหนังสือเดินทาง เหตุถูกเพิกถอนวีซ่า
สศร. เผยโฉมทัพศิลปินไทย-ต่างชาติกลุ่มสอง 15 ศิลปิน "กลุ่มศิลปิน" ร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยในงาน Thailand Biennale, Phuket 2025
"มหาดไทย" ขับเคลื่อนจัดรูปที่ดินนราธิวาส สุไหงโก-ลก พลิกโฉมเมืองชายแดน สู่การเติบโตที่ยั่งยืน
ยังไม่จบ "มาดามเมนี่" อัปเดตยังได้ของคืนไม่ครบ ยื่นคำขาด 10 วัน ลั่นขอเจรจา "ดิว อริสรา" ปมยืมของหรู
เปิดปฏิบัติการ "FOX Hunt" ทลายแก๊งหลอกลงทุน FOX Wallet ปลอม รวบ 8 สมาชิกจีนดำ-ไทยดำ ยึดทรัพย์กว่า 3 ล้านบาท
"บิ๊กต่าย" สั่งสอบ ตร.พาผู้ต้องหา ลักลอบนำข้อสอบฯ ออกจากโรงพัก ย้ำใครผิดว่าไปตามผิด
กรุงไทยนำเทรนด์! จับมืออินฟลูฯสายท่องเที่ยว สร้างปรากฏการณ์ TOURIST สู่ TOURICH ผ่าน Krungthai Travel Debit Card
สสจ.มุกดาหาร ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ "แอนแทรกซ์" เพิ่ม 1 ราย รอผลตรวจกลุ่มเสี่ยงอีก 3 ราย
TPIPL จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568
เพราะทะเลคือชีวิต ซีพีร้อยเรียงความดีผนึกชุมชน ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 76 ล้านตัว สร้างความยั่งยืนให้ชายฝั่งตราด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น