ปชช.เปิดใจ “สถาบันพระมหากษัตริย์” เปรียบเสาหลักของชาติบ้านเมือง วอนผู้เห็นต่างเปลี่ยนความคิด หยุดทำร้ายกันเอง

วันที่ 28 ก.ค. 66 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง พสกนิกรชาวไทยจากทั่วสารทิศพร้อมใจกันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดสีเหลือง เพื่อรอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมทรงรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งทีมข่าว TOPNEWS ลงพื้นที่ท้องสนามหลวง เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อสถาบันของไทย โดยนายภู ใยโพธิ์ทอง จิตอาสาทำดีเพื่อแผ่นดิน ระบุว่า สถาบันเปรียบเสมือนหลักของบ้านเมืองและเป็นหัวใจของคนไทย และเป็นเครดิตของคนไทยที่ควรจะรักษาเอาไว้ โดยคนทั้งประเทศควรที่จะต้องช่วยกันรักษาสถาบันเอาไวั ขณะเดียวกันมองว่า เรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบัน เปรียบเสมือนความซื่อสัตย์ และทุกคนไทยต้องมีความซื่อสัตย์ เพราะเป็นคุณธรรมของคน หากขาดความซื่อสัตย์ถือเป็นคนไม่ดี โดยพระเจ้าเเผ่นดิน เปรียบเสมือนประมุขที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ หากไม่รักประมุขของเราจะไปรักประมุขของคนอื่นหรือ และมองว่า สถาบันจำเป็นต้องอยู่คู่กับประเทศไทย เพราะหากไม่มีสถาบันคนไทยจะไม่มีเครดิต หากมีสถาบันคนไทยก็มีเครดิต

ทั้งนี้ปัจจุบัน ตนได้นำเอาแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9 ) ที่สืบต่อมาจนถึงรัชกาลที่ 10 มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะแนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มายึดเหนี่ยวในการดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาท และไม่ทีเป้าหมาย ซึ่งในหลวงท่านทรงได้ให้หลีกไว้ คือการ ใช้ให้เก็บพอ คือ “ใช้” กับครอบครัว “ให้” คือการแบ่งปัน อย่างเช่น วันนี้ เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง รัชกาลที่ 10 ก็ได้ออกมาให้และแบ่งปันกันในสังคม “เก็บ” คือการเก็บหอมออมริบ ที่ทำกันในปัจจุบัน เพื่อก่อร่างสร้างตัว “พอ”คือความพอเพียง คือการดำเนินการที่ตนเองไม่เดือดร้อน และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ตามแนวพระราชดำริใน

พร้อมฝากไปยัง กลุ่มคนบางส่วนที่ได้มีการเคลื่อนไหว ที่ไม่ดีต่อสถาบันว่า ทุกคนก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ตนเองก็คนไทย คนกลุ่มนั้น ก็คนไทย ในหลวงก็คนไทย ถ้าเราไม่รักคนไทยด้วยกัน เราจะไปรักชาติไหน พร้อมฝากให้ทุกคนคิดถึงจุดนี้ให้ดีไม่มีดินผืนใดแห้งอุ่นเท่ากับแผ่นดินที่เราถือกำเนิด

 

ขณะที่ นายฐณนน รัศมี ประชาชนทั่วไป กล่าวว่า ปัจจุบันตนมองว่าสถาบันยังคงมีคงามสำคัญประเทศไทยมาก เพราะเป็นจุดเชื่อมความสัมพันธ์ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในประเทศ และการต่อสู้กับนานาประเทศ ไม่ให้เข้ามารุกรานประเทศไทย

นอกจากนี้ในส่วนของแนวพระราชดำริในเรื่องการช่วยเหลือสังคมมาปรัยใช้ในชีวิตประจำวัน เท่าที่ตนเองจะสามารถช่วยเหลือได้ ทั้งการเป็นจิตอาสา เพื่อช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือโรงพยาบาล เป็นต้น

นายฐณนน ยังฝากไปยังกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะที่ไม่ดีต่อสถาบันว่า อย่าไปอิงกับต่างชาติมาก และให้คิดถึงรากเหง้าของเรา ท่านสร้างมาดีอยู่แล้ว และให้คำนึงว่าบรรพบุษคือรากเเก้วของคนไทย คือชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะต้องดำรงค์ไว้กับคนไทย

ขณะที่ กลุ่มรวมใจมอเตอร์ไซต์จิตอาสา เปิดใจกับทีมข่าวTOPNEWS ถึงมุมมองความคิดเห็นที่มีต่อสถาบันว่า กลุ่มของเรายังคงให้ ความสำคัญกับสถาบัน และยังคงยึดติดกับคำว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพร้อมที่จะปกป้องสถาบัน พระมหากษัตริย์ พร้อมขอจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และเเผ่นดินเกิดเช่นเดิม

ทั้งนี้ มองว่า แนวพระราชดำริของในหลวง ดำรงชีวิต ทั้งเศรษฐกิตพอเพียง การเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน และเห็นการทรงงานของพระองค์ท่านมาอย่างยาวนานจนปัจจุบันนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้นำเอาแนวทางของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9)มาต่อยอดให้คนไทยได้ปฏิบัติ และยืนได้ด้วยตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาพระองค์ท่านได้ทรงงานโดยไม่หวังผล เป็นผู้ปิดทองหลังพระที่แท้จริง โดยให้ดูว่าพระองค์ท่านทำอะไรให้ประชาชน ทำเพื่อทุกคน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่ทำเพื่อคนๆเดียว และมองว่า ในเรื่องนี้คิดต่างได้แต่ต้องไม่แตกแยก

พร้อมระบุอีกว่า ความเห็นต่างๆ จะต้องพิจาณาจากข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน ปัจจุบันมีโลกโซลเซียลให้ค้นหาความจริง โดยเฉพาะในเรื่องมาตรา 112 ที่เปรี่ยบเสมือนเสาบ้านของเรา เพีาะเสามันและจะเอาเสาบ้านออก ต้องถามว่า เกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่เสาไม่ดี แต่คุณต่างหากไม่รู้จักพอ และไม่เห็นด้วยกับการชักธงไตรรงค์ลงจากเสา เพราะบรรพบุรุษ ได้พยายามรักษาไว้ การที่คุณต้องการเอาธงลงจากเสาคุณต้องการอะไร และไม่สำนึกในผืนเเผ่นดินไทยพร้อมยืนยันสถาบันกษัตย์ยังคงสำคัญที่สุดกับประเทศไทย

ขณะที่กลุ่มมวลชน กอ.รมน. กทม.ระบุว่า กลุ่มได้รวมตัวกัน โดยได้เดินทางมาร่วมใส่บาตร แบพวางพุ่มแจกันถวายพระพรในพระบรมมหากษัติ และมองว่า ตนจะจงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ใช้ใครมากล่ำกลายได้

นอกจากนี้ เศรษฐกิจพอเพียงที่ได้นำร่อง และพร้อมเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไป ยอมรับว่าอยู่มาได้ทุกวันนี้เพราะพระองค์ ส่วนผู้ที่เห็นต่างและมีการเคลื่อนไหวไม่ดีต่อสถาบัน อยากบอกว่า ให้เข้าใกล้แผ่นดิน และสถาบันให้เยอะขึ้น แล้วจะเห็นภาพสวยงามที่ไม่เคยเห็น และไม่เคยได้ทำ และจะรู้ว่า สิ่งที่เห็น สิ่งที่ทำทุกวันนี้ไม่ใช่และอยากให้เปิดใจให้มากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

งงหนักไปอีก "ประธานมูลนิธิธรรมรักษ์" แจง "หลวงพ่ออลงกต" ชื่อซ้ำใครไม่แปลก หลังสะพัดเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ตรงขรก.เสียชีวิต
"มูลนิธิยังมีเรา" ตั้งโรงทานงานครบรอบ 21 ปี "หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท" ละสังขาร ณ วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม
เปิดงาน “ของดีอำเภอบ้านแพรก” อยุธยา ชูอัตลักษณ์ อัตถศิลป์ แผ่นดินถิ่นลิเก กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรอง
"ผู้ข่วยทูตฝ่ายทหาร" ประจำสถานทูตไทย ในพนมเปญ ยื่นประท้วง กัมพูชา บิดเบือน อ้างตกลงกองทัพภาคที่ 1 จะรื้อถอนลวดหนามชายแดน
"กรมอุตุฯ" ประกาศเตือนรับมือ พายุโซนร้อน "คาจิกิ" มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น ฝนถล่มหนัก
ตำรวจทางหลวงอยุธยา รวบ 2 หนุ่มกระบะคอก 2 คัน รับงานผ่านกลุ่มไลน์ ขนอะโวคาโด เถื่อนมูลค่านับล้าน เข้ากรุง คอตกอ้างไม่รู้แค่รับงานแลกเงิน 5 พัน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​