ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ว่ามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊คชื่อ “Kaewnam Knnk, lionil wang, Oilly Jew, Lookkeaw LK” หรือแพรวหลอกขายบัตรบัตรคอนเสิร์ต Blackpink ในกลุ่ม “ซื้อขายบัตรคอนเสิร์ตและทุกงานแสดง” โดยใช้ชื่อบัญชีรับโอนเงินชื่อบัญชี นางสาว ศศิธร ตานวล จากการสืบสวน คนร้ายหลบซ่อนตัวไม่ออกจากบ้านมาเป็นเวลานาน เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยติดตามตัวเพื่อนำไปดำเนินคดี แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหารายนี้นานๆ จะออกจากที่พัก และเมื่อจะออกจากที่พักจะออกมาช่วงเวลาตีสอง หรือตีสาม เป็นการอำพรางตัวเพื่อให้รอดพ้นจากการสืบสวนจับกุม
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และชุด PCT5 ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 155/2566 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2566 เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 61 หมู่ 24 ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จับกุมตัว
น.ส.ศศิธร หรือแพร ตานวล อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 24 ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ 155/2566 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2566
มีพฤติกรรมหลบซ่อนตัวไม่ออกจากบ้านมาเป็นเวลานาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยทำการสืบสวนติดตามตัวเพื่อนำไปดำเนินคดี แต่การข่าวรู้ถึงตัวผู้ต้องหาทำให้ต้องหลบซ่อนตัวเงียบ โดยจากการสืบสวนพบข้อมูลว่าผู้ต้องหารายนี้นานๆ จะออกจากที่พัก และเมื่อจะออกจากที่พักจะออกมาช่วงเวลาตีสอง หรือตีสาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นการอำพรางตัวเพื่อให้รอดพ้นจากการสืบสวนจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลเพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมมาดำเนินคดี จนสามารถจับกุมตัวได้โดยเร็ว
โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงและโดยสุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”