No data was found

“พปชร.” แถลงทางการ ย้ำแจ้งเพื่อไทย ไม่หนุน”ก้าวไกล” แก้ 112 พาชาติจมขัดแย้งเป็นรัฐบาล

กดติดตาม TOP NEWS

พลังประชารัฐ แสดงจุดยืนชัด รับไม่ได้ร่วมงานพรรคแตะต้อง ม.112 ขอก้าวข้ามความขัดแย้ง ยันไม่เสนอชื่อ พลเอกประวิตร หากรวมเสียงข้างมากไม่ได้

 

 

วันนี้ (23 ก.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ เวลา 18.00 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานประสานงาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวผลหารือหาแนวทางแก้วิกฤตและทางออกประเทศร่วมกับพรรคเพื่อไทย

 

นายสันติ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้รับเกียรติจากพรรคเพื่อไทยเชิญไปพูดคุยเพื่อแก้วิกฤตของการจัดตั้งรัฐบาลและการบริหารบ้านเมือง เนื่องจากหลังการเลือกตั้งเป็นเวลาสองเดือนกว่ามีอุปสรรคในการตั้งรัฐบาล บริหารชาติบ้านเมือง หากช้าก็จะกิดปัญหา การพูดคุยในวันนี้ได้รับความรู้สึกที่ดี พูดคุยอย่างตรงไปตรงมา พรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า พรรคเรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแน่วแน่เพื่อให้ชาติมีความมั่นคง ประชาชนผาสุก

 

พรรคพลังประชารัฐแจ้งกับพรรคเพื่อไทยว่า สามารถทำงานร่วมกันได้ แต่ต้องเป็นพรรคที่ไม่แตะต้องหรือมีแนวคิดแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 หากพรรคใดมีแนวคิดดังกล่าว เราไม่สามารถที่จะร่วมทำงานหรือบริหารบ้านเมืองด้วยได้ เป็นหลักการสำคัญที่จะปฏิเสธการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล เพราะพรรคพลังประชารัฐตระหนักว่าเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจึงมีหน้าที่เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐรับไม่ได้

 

 

 

 

“ผมเป็นประธานกรรมาธิการงบประมาณมา 4 ปี รู้ว่าพรรคนั้นมีแนวคิดอย่างไร เรามีความคิดแน่วแน่ว่าไม่สามารถทำงานร่วมด้วยได้”

อย่างไรก็ตามการหารือวันนี้ไม่ได้พูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล แต่เป็นเพียงการแสดงเจตจำนงว่ามีความเห็นอย่างไรในการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากนั้นจะมีการคุยในขั้นตอนต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ด้านร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่าการหารือกับพรรคเพื่อไทยเป็นไปเพื่อหาทางออกแก้วิกฤต ไม่ได้หารือในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีประเด็นการเชิญจัดตั้งรัฐบาล พรรคเรามีนโยบาย มีแนวทางไม่เหมือนบางพรรค การทำงานด้วยในรัฐบาลเดียวกันถือเป็นปัญหา คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจน ว่าหากจะต้องร่วมรัฐบาลกับพรรคที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกันก็ขอไม่ร่วมดีกว่า

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยได้ขอให้สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย หรือหากเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน พรรคพลังประชารัฐพร้อมสนับสนุนหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า พรรคเพื่อไทยพูดชัดเจนว่าเชิญเข้าไปหารือ หาทางออกให้กับวิกฤตบ้านเมือง

ได้เสนอทางออกให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เราแจ้งแนวทางของเราไปแล้ว พรรคใดที่มีแนวคิดว่าจะแก้กฎหมายมาตรา 112 เราคงร่วมทำงานด้วยไม่ได้ ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้รับฉันทานอนุมัติเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่ต้องมาพูดคุยกับแต่ละพรรค ท้ายที่สุดก็ต้องคุยกับ สว. เพื่อรับรู้ความเห็น ดำเนินการแก้ปัญหาให้บ้านเมือง ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรคที่หลังการเลือกตั้งต้องช่วยกันเร่งรัดจัดตั้งรัฐบาลให้ได้

 

 

 

ส่วนวันที่ 27 ก.ค.นี้ จะเลือกนายกฯ จบในวันนั้นเลยหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจจะรีบให้มีรัฐบาล จึงรีบเชิญพรรคฝั่ง 188 เสียงไปฟังแนวคิด

หากไม่มีพรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐพร้อมสนับสนุนพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่าหลักการของพรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจนคือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง หากร่วมรัฐบาลกับใครแล้วเกิดความแตกแยกในสังคมก็ขอไม่ร่วม

เมื่อถามว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เห็นด้วยหรือไม่ที่พรรคพลังประชารัฐไปคุยกับพรรคเพื่อไทย ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่าเราประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีจุดยืนว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้งบนพื้นฐานอะไรบ้าง

ส่วนกระแสหากวันที่ 27 ก.ค.นี้ การเลือกนายกฯ ไม่ลงตัว จะเสนอชื่อพลเอกประวิตร หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องมีสมาชิกสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง หากเสียงไม่พอไม่ควรทำเช่นนั้น เพราะจะเกิดคำวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม พรรคพลังประชารัฐมีมติชัดเจนว่าจะไม่เสนอพลเอกประวิตร หากเสียงสนับสนุนต่ำกว่า 250 เสียง ซึ่งเป็นนโยบายของพลเอกประวิตรด้วย

สำหรับแนวทางที่พลเอกประวิตร จะลาออกเพื่อเปิดทาง “ไม่มีลุง” เป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น พลเอกประวิตรยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง การรับตำแหน่งใด ๆ ในอนาคตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะทำอะไรต้องนึกถึงภูมิประวัติที่ท่านได้สร้างมาด้วย

ร้อยเอกธรรมนัส ยังเปิดเผย สเปกนายกฯ คนที่ 30 ระบุว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพาบ้านเมืองก้าวข้ามความขัดแย้ง ทุกวันนี้เรายังถกเถียงกันเป็นเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชนที่เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า นายกฯ คนต่อไปจะต้องเป็นบุคคลที่มีความพร้อมทุกอย่างทั้งการแก้ปัญหาความแตกแยกในสังคม และนำพาเศรษฐกิจให้รอด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุดาวรรณ" เข้าปฏิบัติงานกระทรวงวธ.วันแรก ผลักดันวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตั้งเป้า 1 ภาค 1 มรดกโลก
วิเคราะห์แล้ว คลิปโดรนปริศนาล้วงตับเรือรบญี่ปุ่น ของจริง (คลิป)
คนชลบุรี ค้านเลือกตั้งซ่อม สจ.เขต 5 ศรีราชา หลังสจ.คณะก้าวหน้าลาออก ชี้รัฐต้องเสียงบ 3 ล้าน
อัปเดตล่าสุด คุมเพลิงได้แล้ว เหตุไฟไหม้ถังเก็บสารเคมี นิคมอุตฯมาบตาพุด
จีน ทัวร์ชิมของอร่อยดันธุรกิจอาหารเติบโตช่วงหยุดยาว
"ภูมิธรรม" ขอหยุดดราม่าปมข้าวค้างโกดัง ย้ำมีหน่วยงานเข้าตรวจสอบก่อนส่งขาย จ่อเปิดประมูลต้นมิ.ย.นี้
จีน แน่นเอี๊ยด! นทท.เที่ยว ‘ทะเลหน้าร้อน’ ในชิงเต่า
อันตรายต่อระบบประสาท “อ.อ๊อด” เตือนเหตุไฟไหม้ถัง “แก๊สโซลีน” มาบตาพุด สูดดมเข้าไปอาจถึงตาย
"มนัส โกศล" รุดรับหนังสือดูแล "ลูกจ้างห้างดัง" เดือดร้อนเหตุนายจ้างเบี้ยวค่าจ้าง ลั่นให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายเต็มที่
รับสมัคร คนไทยเก่งภาษาอังกฤษ บินทำงานคาสิโนมาเก๊า เงินเดือนเกือบแสน จำนวน 46 อัตรา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น