หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นภายในสถานบันเทิงคริสตัลคลับ และเอมเมอร์รัลด์ ส่งผลให้มีนักการเมือง และดารานักแสดงหลางคน ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นเชื้อโควิด-19 ชนิดใหม่ ที่มีการแสดงอาการของการติดเชื้อ ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา ทำให้เชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ถูกแพร่กระจายได้ง่าย และรวดเร็ว จนปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้นถึงวันละหลักพันคน
โดยวันนี้ทีมข่าว TOPNEWS ได้ลงพื้นที่สำรวจผู้คนย่านทองหล่อ ซึ่งตลาดทองหล่อ ถือเป็นจุดสำคัญที่ผู้คนในย่านทองหล่อ จะต้องมาจับจ่ายซื้อของ แต่บรรยากาศช่วงเช้าของวันนี้ เป็นไปอย่างเงียบเหงา มีประชาชนมาซื้อของอย่างบางตา โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณไสว นักผูก พ่อค้าในตลาดทองหล่อ ที่ขายของอยู่ที่ตลาดแห่งนี้มานานกว่า 25 ปี ซึ่งคุณไสวบอกกับทีมข่าวว่า ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นช่วงที่ย่ำแย่ที่สุด เพราะที่ผ่านมาตลาดทองหล่อจะมีคนมาซื้อของตลอด ซึ่งก่อนหน้าจะเกิดการระบาดระลอก 3 สถานการณ์ที่ตลาดกำลังจะกลับมาดีขึ้นแล้ว ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าการระบาดครั้งนี้จะอยู่ในพื้นที่ทำมาหากินของตนเอง ทำให้ตลาดเงียบมากกว่าเดิม พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งตนเองยอมรับว่ากลัว เพราะคนที่มาเดินตลาด ไม่มีใครรู้เลยว่ามาจากที่ไหน และได้รับเชื้อมาหรือเปล่า จึงทำได้แค่ป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากาก และใช้แอลกอฮอล์ล้างมือตลอด แต่หากจะให้หยุดขาย ก็คงจะขาดรายได้ และมองว่าคนที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงแล้วได้รับเชื้อจนลุกลาม ส่งผลกระทบต่อคนหาเช้ากินค่ำแบบนี้ ถือว่าแย่มากๆ เพราะพวกเขาหาความสุขให้ตัวเอง แต่เอาเชื้อและผลกระทบมาให้คนอื่น แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้ ถึงแม้จะท้อแค่ไหน ขายของลำบากขนาดไหน ก็คงต้องหาวิธีเอาตัวรอดให้ได้
นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับคุณนงลักษณ์ กุหลาบกุลี ประชาชนที่มาเลือกซื้อสินค้าที่ตลาดทองหล่อ โดยคุณนงลักษณ์บอกกับทีมข่าวว่า เดิมนั้นตนเองเป็นคนต่างจังหวัด ที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ และอาศัยอยู่ในพื้นที่ย่ายทองหล่อมานานหลายปีแล้ว ช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 ระลอก 3 ตนเองวางแผนจะเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ เพื่อไปเยี่ยมครอบครัว แต่เมื่อมีข่าวออกมาว่า มีคนติดเชื้อโควิด-19 ย่านสถานบันเทิงทองหล่อ ตนเองก็ต้องล้มเลิกแผนที่วางไว้ เพราะไม่อยากกลับไปกักตัวและทำให้ครอบครัวได้รับความเสี่ยง อีกทั้งมองว่า คนมีเงินไม่ควรที่ออกมาสร้างผลกระทบให้กับประชาชนอย่างเราๆ เพราะนอกจากจะได้รับผลกระทบแล้ว ยังต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น อีกทั้งยังมองว่า หากรัฐบาลมีการประกาศปิดประเทศ อาจจะทำให้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ดีขึ้น ถึงแม้จะส่งผลกระทบต่อประชาชน แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
คุณวิยาดา ครองยุติ แม่ค้าร้านกาแฟย่านสน.ทองหล่อ ที่ได้รับผลกระทบ หลังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทองหล่อ ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณวิยาดา บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการส่งอาหารใหม่ จากเดิมที่จะมีบริการส่งให้ถึงที่ ถึงสน. เปลี่ยนเป็นต้องหยุดส่งทันที เพื่อป้องกันตนเอง และยอมรับว่ารายได้ลดลงมากพอสมควร แต่ก็ยังคงต้องค้าขายต่อไป และแก้ไขด้วยการรับลูกค้าผ่านทางระบบอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้ และอยากให้รัฐสั่งปิดสถานบันเทิงทุกแห่งจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพราะสถานบันเทิงเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อคนหาเช้ากินค่ำ คนมีเงิน ใช้เงินเที่ยวสถานบันเทิง แต่คุณนำเชื้อโควิด-19 มาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนรากหญ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่แย่มากๆ
คุณชารี หรือดาวุด พ่อค้าขายโรตีย่านทองหล่อ เผยกับทีมข่าวว่า ตอนนี้บอกขายลดลงกว่า 50% หลังเกิดการระบาดระลอก 3 แต่ตนเองก็ต้องปรับตัวให้ได้ อีกทั้งมองว่าการที่รัฐบาลประกาศยกระดับการป้องกันโควิด-19 ยังพอช่วยให้ตนเองหารายได้และค้าขายได้อยู่บ้าง แต่หากปิดประเทศอาจทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบและลำบากแน่ๆ จึงมองว่ารัฐบาลทำถูกต้องแล้ว ส่วนตัวเองยังสู้ และต้องป้องกันตนเองให้ปลอดภัยอยู่ตลอด
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณณรงค์ฤทธิ์ ครองยุติ วินรถจักรยานยนต์ย่านทองหล่อ เล่าว่า ปกติตนเองขับรถรับลูกค้าย่านทองหล่อตลอด ซึ่งผู้โดยสารลดลงถึง 80% ส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างหนัก ส่วนตัวมองว่าการที่รัฐบาลประกาศยกระดับการป้องกันการติดเชื้อ เป็นการแก้ปัญหาได้ดีกว่าการประการล็อคดาวน์ปิดประเทศ เพราะหากเป็นแบบนั้นตนเองและประชาชน คงได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ส่วนสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ที่เป็นคลัสเตอร์ในการระบาดระลอก 3 จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติและคนไฮโซ คนธรรมดาไม่มีโอกาสได้เข้าไปด้านใน ยอมรับว่าค่อนข้างไม่พอใจ ที่คนเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ตอนนี้ก็คงต้องช่วยเหลือตนเอง เท่าที่จะพอทำได้ และมองว่าหลังจากนี้หากประชาชนช่วยกันป้องกันและระวังตัวเอง ก็อาจจะลดการระบาดได้ และภาวนาอย่าให้เชื้อโควิด-19 หายไปจากประเทศไทยเร็วๆ