“ส.ว.สมชาย”ลุยต่อปริศนาธรรม ขุดเพิ่ม 2 ปม ชี้ช่องกกต.เร่งสอบ “หุ้นไอทีวี”

"ส.ว.สมชาย"ลุยต่อปริศนาธรรม ขุดเพิ่ม 2 ปม ชี้ช่องกกต.เร่งสอบ "หุ้นไอทีวี"

21 มิ.ย.2566 นายสมชาติ แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า #ปริศนาธรรมการเมืองเรื่องหุ้น itv ข้อที่ 6 กกต.ควรเร่งสรุปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยเป็นที่สุดและตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ทำให้ itv ฟื้นคืนชีพ?

 

 

 

ด้วยเหตุผลและข้อมูลประกอบการพิจารณาดังนี้

1)รัฐธรรมนูญ2560 มาตรา 82 วรรคท้ายระบุว่า “ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เห็นว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาคนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลงตามวรรคหนึ่ง ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย”

ดังนั้นเมื่อกกต.รับรองสมาชิกภาพของสส.แล้ว มีเหตุผู้ร้องเรียนและกกต ตั้งคณะกรรมการไต่สวน จึงควรเร่งพิจารณาดำเนินการส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย ว่านายพิธามีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา98(3) ห้ามถือหุ้นสื่อมวลชนใด ๆ อันเป็นการขาดสมาชิกภาพสส ตามมาตรา101(6) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 หรือไม่

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยยึดหลักเดียวกันกับการยื่นคดีนายธนาธรคือ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอคำวินิจฉัยด้วย

ส่วนเรื่องแคนดิเดทผู้สมัครนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 88 89 ที่ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา160 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา98 หรือไม่นั้น กกต ควรจะร้องไปศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยในคราวเดียวกันก็น่าจะเป็นประโยชน์ในการยื่นฟ้องเสียในคราวเดียวกัน

 

2) กกต. ควรตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเรื่องที่บริษัทitv จำกัด(มหาชน)ฟ้องร้องกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่14มค2559 ในข้อพิพาทที่46/2550 เป็นข้อพิพาทหมายเลขแดงที่1/2559 ระหว่างบริษัทกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่บริษัทขอเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายและขอให้บริษัทกลับเข้าดำเนินการสถานีโทรทัศน์ ระบบ ยูเอช เอฟ โดยใช้คลื่นความถี่และทรัพย์สินอุปกรณ์เครือข่ายเดิมต่อไปจนครบกำหนดระยะเวลาในสัญญาอนุญาตที่อนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่า การบอกสัญญาอนุญาตของสำนักงานปลัดฯ นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเรื่องนี้ และคำพิพากษาศาลปกครอง จึงมีความสำคัญที่ต้องพิจารณาประกอบว่า itv ชนะคดีจากสำนักปลัดฯแล้ว และการขอให้เข้าดำเนินการในสถานีโทรทัศน์ ยูเอชเอฟเดิมนั้น เป็นการที่ทำให้บริษัทไอทีวีที่ยังมีการประกอบธุรกิจสื่อ มีวัตถุประสงค์สื่อชัดเจนและยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการได้รับชัยชนะในคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้itv กลับเข้าดำเนินการในสถานีโทรทัศน์ยูเอชเอฟ เดิมได้

ดังนั้นจึงมีประเด็น 1 ในข้อพิจารณาว่า บริษัท itv น่าจะยังเป็นผู้การประกอบกิจการหรือเตรียมประกอบกิจการสื่อมวลชนที่ยังไม่ได้ยกเลิก
ใช่หรือไม่

@อ้างอิงข้อมูล หมายเหตุประกอบงบการเงินบริษัทไอทีวีจำกัด(มหาชน)
และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2565 หน้า 32-37

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา
ไฟไหม้โรงแรมกลางเมืองที่อินเดียดับ 15 คน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น