“บิ๊กตู่” สุดปลื้ม “ธนาคารโลก” ประเมินไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด ได้เหมาะสม

“บิ๊กตู่” สุดปลื้ม "ธนาคารโลก" ประเมินไทยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด ได้เหมาะสม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานและข้อเสนอจากธนาคารโลก (World Bank) พร้อมยินดีที่ธนาคารโลกมองว่า นโยบายการคลังในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของไทย มีความสมเหตุสมผล และดำเนินนโยบายที่ส่งเสริมให้เศรษฐกิจขยายตัว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงการคลังได้เปิดเผยรายงาน “การประเมินรายได้และรายจ่ายภาครัฐของประเทศไทย : การส่งเสริมอนาคตที่ทั่วถึงและยั่งยืน” (Thailand Public Revenue and Spending Assessment Promoting an Inclusive and Sustainable Future) จัดทำโดยธนาคารโลก ระบุว่า ประเทศไทยเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีการใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง ทำให้ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเกิดการหดตัว อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ประเทศไทยสามารถกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดฯ

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังระบุว่า มาตรการทางการเงินและการคลังของไทย มีส่วนทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีกว่า เมื่อเทียบกับประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยไทยดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 1.56 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในส่วนที่สำคัญหลัก ๆ 3 เรื่อง ได้แก่ การใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุข การบรรเทาภาระทางการเงินให้แก่ประชาชน และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ธนาคารโลกมองว่า การดำเนินนโยบายและมาตรการของรัฐบาลในการช่วยเหลือภาคเอกชน กลุ่มธุรกิจ SME กลุ่มเปราะบาง แรงงานนอกระบบ และเกษตรกร รวมถึงการนำงบประมาณมาใช้จ่ายในมาตรการทางด้านสาธารณสุข เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี ธนาคารโลกเสนอว่า รัฐบาลควรเตรียมรับมือภาระทางการคลังที่เกิดจากการใช้จ่ายที่จำเป็น และในระยะยาว ควรนำงบประมาณไปใช้จ่ายในการช่วยเหลือทางสังคมแก่กลุ่มเปราะบางมากขึ้น พัฒนาคุณภาพการศึกษา เตรียมการรับมือกับการเพิ่มสูงขึ้นของผู้สูงวัย และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งการลงทุนในด้านเหล่านี้ จะที่ทำให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลดความเหลื่อมล้ำ และเกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องดำเนินนโยบายบริหารหนี้สาธารณะอย่างยั่งยืน รวมถึงการปรับปรุงการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ ผ่านการปฏิรูประบบภาษี ปรับปรุงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน

“นายกรัฐมนตรียินดีที่ธนาคารโลกประเมินการดำเนินนโยบายของไทยในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีความเหมาะสม ซึ่งการดำเนินนโยบายและมาตรการต่าง ๆ มุ่งนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาภาระของประชาชน และเตรียมการรับมือกับภัยทางด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ รัฐบาลรับฟังข้อเสนอของธนาคารโลก และติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประเมินและพร้อมปรับปรุงนโยบายและมาตรการเพื่อการพัฒนาประเทศต่อไป” นายอนุชาฯ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานสิ่งของช่วยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดน่าน
นายกฯ สุพิศ เปิดการแข่งขันกีฬาต้านภัยสิ่งเสพติด
ทต.กาบเชิง ติดธงชาติแนวตั้งบนเสาไฟเกาะกลางถนน ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขณะที่ชายแดนตึงเครียด ชาวบ้านหวั่นปะทะรอบ 2
"คืนชีวิตให้คลองบางเหรียง" ร่วมอนุรักษ์แม่น้ำ สร้างสุขให้ชุมชน
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากฯ เชิญถุงยังชีพพระราชทาน ช่วยชาวเพชรบูรณ์
ชาวบ้านเฮ! เดินหน้าโครงการสะพาน หลังเวทีประชาคมเคาะแบบใหม่ ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​