นพ.เอื้อชาติ เผย ยาฟาวิพิราเวียร์ กำลังขาดแคลน วอน นายกฯ เร่งนำเข้ายารักษาผู้ป่วยโควิดอย่างเร่งด่วนแนะ อินเดีย เป็นประเทศที่ผลิตยามากที่สุดในตอนนี้
จากกรณีที่ นพ.ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์ ผอ.ศูนย์สนับสนุนนักรบเสื้อขาว สู้ภัยโควิด-19 แพทยสมาคม ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าว TOP NEWS ถึงเรื่องของ ยาฆ่าเชื้อ ฟาวิพิราเวียร์ ในประเทศไทย ทีมีจำนวนลดลง หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ที่เพิ่มขึ้นหลักพันคน พร้อมทั้ง เรียกร้องให้รัฐบาลจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ มารองรับต่อจำนวนของผู้ติดเชื้อในประเทศไทยโดยเร็ว
โดยทีมข่าว TOP NEWS ได้ไปพูดคุยกับ นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ประธานกรรมการ บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหงจำกัด (มหาชน) ถึงกรณีที่ ประเทศไทย กำลังขาดแคลน ยาฟาวิพิราเวียร์ โดย นพ.เอื้อชาติ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ ในประเทศไทย ณ ตอนนี้มีหลายแสนเม็ด แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดภายในประเทศมีเพิ่มขึ้น ทำให้การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ต้องถูกใช้อย่างจำกัด ซึ่งทางรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการส่งยาไปอยู่ในความดูแลของ โรงพยาบาลราชวิถี และ จะกระจายยาให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ แต่ตอนนี้ ยาจะถูกใช้กับผู้ป่วยขั้นรุนแรงเท่านั้น ในกรณีที่เชื้อลุกลามไปที่ปอดแล้วซึ่งคนไข้ 1 คน ก็จะต้องใช้ยาประมาณ 70 – 100 เม็ด / คน / น้ำหนักตัว หากมียา 7 แสนเม็ด ก็ใช้กับคนไข้ได้แค่ 1 หมื่นคนเท่านั้น ฉะนั้น การตรวจหาเชื้อโควิด ฉีดวัคซีน ก็คู่ขนานกันไป แล้วก็ต้องหายามาให้กับคนไข้ขณะที่ มีอาการอักเสบ อย่ารอลงไปที่ปอด ถามว่า มียาตัวอื่นสามารถทดแทนได้หรือไม่ นพ.เอื้อชาติ บอกว่า มี แต่ไม่สามารถ สู้ได้เท่ากับยาฟาวิพิราเวียร์
ตามจริงแล้ว ยาฟาวิพิราเวียร์ นั้น จะต้องถูกใช้กับผู้ที่เริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ เพื่อทำการยับยั้งเชื้ออักเสบ ไม่ให้ลงไปสู่ปอด แต่ตัวยามีไม่มากพอที่จะใช้รักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อทุกคน จึงต้องนำไปรักษาให้กับผู้ที่มีอาการรุนแรงก่อน ถึงแม้ว่าจะมียาชนิดอื่น ช่วยบรรเทาการแพร่กระจายเชื้อ ให้กับผู้ป่วยในระยะแรกเริ่มที่แสดงอาการก็จริง แต่ก็คงไม่มียาตัวไหน จะรักษาแล้วยับยั้งเชื้อโควิด-19 ได้ เท่ากับยาฟาวิพิราเวียร์ ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาล เร่งจัดหายาตัวนี้ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ติดเชื้อในประเทศ เพราะปัจจุบัน ยอดผู้ติดเชื้อมีมากขึ้น และคาดว่าจะอาจจะมากขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ อินเดีย เป็นประเทศที่ผลิตยาตัวนี้ได้มากที่สุด อยากให้ นายกฯ ครม. พิจารณาออกมาตรการฉุกเฉิน นำเข้ายาให้ถูกต้องอย่างเร่งด่วน