ประธานสภายังไม่นิ่ง

หลังก้าวไกลกับเพื่อไทยยังไม่พร้อมแตกหัก เดินหน้ารัฐบาลตั้ง 7 คณะทำงานแก้ปัญหาประชาชน แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างไม่หยิยเรื่องประธานสภามาคุย เชื่อยังไม่ยอมลดลาวาศอกกัน จับตาเกมต่อรอง "ก๊วนส้ม-ฝ่ายแดง" ชิงดำประธานสภา ต่างฝ่ายต่างมีคนสนับสนุนใกล้เคียงกันใน 8 พรรค ก้าวไกลมี 159 เพื่อไทยมี 153 ระวังเถียงกันมันจบตกลงกันไม่ได้ 5 พรรคเก่าขั้วรัฐบาลเดิม 182 เสียงพร้อมส่งคนเสียบ

ความเคลื่อนไหวจัดตั้งรัฐบาลวานนี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นัดพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคประกอบด้วย พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และ พรรคพลังสังคมใหม่ หลังหารือร่วมกันนานเกือบ 2 ชั่วโมง ที่ประชุมร่วมมีมติตั้งคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่านโดยมีพิธาเป็นประธานและกรรมการจาก 8 พรรค พร้อมตั้งคณะทำงาน 7 คณะ คือ 1.คณะติดตามค่าไฟ น้ำมัน ดีเซล พลังงาน 2. คณะติดตามปัญหาภัยแล้ง 3. คณะติดตามปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ 4. คณะติดตามการแก้รัฐธรรมนูญ 5. คณะกรรมการติดตามเศรษฐกิจปากท้อง เอสเอ็มอี 6. ทำงานแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม Pm2.5 และ 7. คณะทำงานติดตามเรื่องแก้ปัญหายาเสพติด

ไม่มีประเด็นใหญ่ไม่มีเรื่องสำคัญคือการพิจารณาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีเรื่องการแบ่งเค้กครม.แต่อย่างใด ทั้งก้าวไกลกับเพื่อไทยต่างไม่เอาเรื่องขัดแย้งมาคุย คงหารือเฉพาะเรื่องที่เห็นตรงกัน ประมาณ “แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง” เรื่องที่จะทำให้พังเรื่องที่ฟาดกันยังไม่เอามาคุย โดยเฉพาะประเด็นสภาที่ต่างฝ่ายต่างก็อยากได้ไปครอบครอง ก้าวไกลจองนายกฯมุ่งหมายเก้าอี้สร.1 ต้องการเอาประธานสภาไปคุมเกมตั้งผู้นำต่อยอดแก้รัฐธรรมนูญลากยาวคุมสภาในอนาคต ฝ่ายเพื่อไทยก็อยากได้ประธานสภาประมุขนิติบัญญัติมาสร้างดุลย์อำนาจให้กับตัวเอง เพราะถึงแม้จะเป็นพระรองแต่ก็เป็นพระรองที่มีเสียงน้อยกว่าก้าวไกลแค่ 10 เสียง ก็มีอำนาจใกล้เคียงกัน แถมในทางการเมืองต้องบอกว่าตอนนี้เพื่อไทยดูจะมีแฮนดิแคพดีกว่าก้าวไกลด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการช่วงชิงเก้าอี้นายกฯหรือเก้าอี้ประธานสภา

พิธาจะเป็นนายกฯ ก้าวไกลจะเป็นรัฐบาลได้ฝ่ายส้มล้มเจ้าต้องมีเพื่อไทยเป็นนั่งร้าน แต่เพื่อไทยสามารถขึ้นเป็นนายกฯเป็นรัฐบาลได้โดยไม่จำเป็นต้องมีก้าวไกล ทำนองว่า “มึงต้องพึ่งกู แต่กูไม่จำเป็นต้องพึ่งมึง” ไม่ว่ามองมุมไหนเพื่อไทยก็ถือไพ่เหนือกว่าก้าวไกล เพียงแต่เลือกที่จะไม่หงายไพ่ในมือของตัวเองให้ก้าวไกลรู้ ตอนนี้ก็เล่นตามบทเดินตามเกมตีโง่ไปเรื่อยๆก่อน ถึงเวลาชิงดำค่อยปล่อยทีเด็ดลงมากินรวบไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นายกฯหรือตำแหน่งประธานสภา วานนี้พิธาไม่ได้ถกเรื่องนี้กับ 8 พรรค เพราะฝ่ายก้าวไกลสงวนสิทธิ์จะขอคุยเรื่องนี้แค่ 2 พรรคกับเพื่อไทยเท่านั้น และเชื่อว่ามีเวลาคุยเพื่อลดความขัดแย้งในการช่วงชิงตำแหน่งนี้ลงได้ แม้ทั้งพิธาและมหอชลน่านจะแสดงความหวานชื่นกุมมือกัน ก่อนยืนกรานว่า “เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” แต่ในแวดวงการเมืองก็ยังเชื่อว่าเสือเฒ่าฝ่ายแดงคอกแม้วพร้อมที่จะขย้ำสิงห์หนุ่มแทงหลังฝ่ายส้มถ้าโอกาสมาถึงแน่นอน

เอาจริงๆ ถ้า 2 พรรคไม่ขัดแย้งกันจริงๆ ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคงจบลงไปตั้งแต่ไก่โห่แล้ว แต่เพราะสองพรรคขบเหลี่ยมไม่ยอมเสียเปรียบกัน ก้าวไกลก็อยากได้เพื่อไทยก็ไม่อยากเสีย 8 พรรคร่วมรัฐบาลมี 312 เสียง สมมมุติว่าไปต่อกันไม่ได้คุยกันแล้วไม่จบจริงๆ ถึงขั้นต้องฟรีโหวตระหว่าง 8 พรรคด้วยกันในขั้วรัฐบาลใหม่ ฝ่ายส้มล้มเจ้ามีก้าวไกล 151 ไทยสร้างไทยของเจ๊หน่อยที่ยังไงก็ต้องอยู่กับพิธาอยู่แล้ว เพราะศิธาดันไปไขว้กับหมอชลน่านแถมเจ๊หน่อยก็แยกทางกับโทนี่บาดหมางกับ 3 เจ๊ใหญ่ในเพื่อไทยแล้ว นอกจากนี้ก็น่าจะมีเป็นธรรมอีกพรรคที่เป็นพันธมิตรของฝ่ายส้ม รวมกันก็จะเป็น ก้าวไกล 151 ไทยสร้างไทย 6 เป็นธรรม 1 พลังสังคมใหม่ 1 รวมกันน่าจะได้ 159 เสียง ขณะที่ฝ่ายเพื่อไทยก็จะมี 141 เสียงของตัวเอง 9 เสียงของประชาชาติสายวัน มูหะมัดนอร์มะทา เพื่อไทรวมพลัง 2 เสรีรวมไทยของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ 1 รวมกัน 153 เสียง ยังไงเสียงของก้าวไกลก็ยังมากกว่าอยู่ดีถ้าใช่ลงมติในขั้ว 8 พรรคร่วมรัฐบาล ยกเว้นเพื่อไทยลากให้เป็นหนรีโหวตใหญ่หรือฟรีโหวตแบบเปิดสภา 500 เสียง อย่างนั้นแหละก็จะเข้าทางเพื่อไทย เพราะยังไงฝ่ายแดงสายโทนี่ก็มีเพื่อนมีฝูงมีคนรักมากกว่าฝ่ายส้มที่เป็นพรรคเทวดาหัวเดียวกระเทียมลีบ อย่างน้อยภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมถึงพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นก็น่าจะเทคะแนนมาให้เพื่อไทยมากกว่า

อย่างไรก็ตามหากปล่อยฟรีโหวตก็มีโอกาสเสี่ยงที่ทั้งก้าวไกลและเพื่อไทยจะเพลี้ยงพล้ำเช่นกัน อย่าลืมว่าเลือกประธานสภาไม่เหมือนโหวตนายกฯที่จะให้ส.ส.กับส.ว.ขานชื่อโดยตรง แต่การเลือกประธานสภาถ้ามีการเสนอชื่อมากกว่า 1 คนจะใช้การลงคะแนนเป็นการลับ ถ้าก้าวไกลกับเพื่อไทยแตกกันจริงๆ โอกาสที่จะเสียท่าให้กับ “ตาอยู่” จาก 5 พรรคขั้วรัฐบาลเดิม คือภูมิใจไทย 71 พลังประชารัฐ 40 รวมไทยสร้างชาติ 36 ประชาธิปัตย์ 25 ชาติไทยพัฒนา 10 ที่มีเสียงรวมกัน 5 พรรค 182 เสียงก็มีสูง ยิ่งถ้ารวมพรรคเล็กๆที่เหลือทั้งหมดก็จะได้เสียงถึง 188 เสียง ขณะที่ขั้วก้าวไกลมี 159 ขั้วเพื่อไทยมี 153 โอกาสที่คนของพรรคขั้วรัฐบาลปัจจุบันจะพลิกเกมส์เข้าวินประธานสภาผู้แทนราษฎรก็มีสูงเช่นกัน เพราะฉะนั้นก้าวไกลกับเพื่อไทยต้องคุยกันให้จบว่าจะให้ใครเป็นประธานสภา ถ้าแยกกันเดินโอกาสเพลี้ยงพล้ำจะมีสูงลิ่วแน่นอน
/////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ด่วน มติ "กองทัพไทย" ร่วม ศบท. ส่งสมช.เห็นชอบ ยกระดับควบคุมอ่าวไทย ปิดกั้นการขนส่งเชื้อเพลิง ยุทธปัจจัยไปยังกัมพูชา
"กรมการจัดหางาน" จับมือ Outsourcing Service เปิดลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวสถานะไม่ถูกต้องตาม กม. วันแรกยื่นคำขอฯ มากกว่า 65,000 ราย
ผู้ว่าโคราชเปิดงาน “มหกรรมยานยนต์โลจิสติกส์ 2025” ผลักดันอีสานสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีขนส่งแห่งอนาคต
ฮือฮา! ไม่ธรรมดา “พรรคปวงชนไทย” น้องใหม่มาแรงสโลแกนโดนใจ “สร้างคน สร้างงาน”
"นายกฯอนุทิน" เปิดข้อความ "อันวาร์" ส่งด่วน ยันไม่มีคำพูด "ไทย-กัมพูชา" ตกลงหยุดยิง 4 ทุ่ม
เปิดภาพ ชุมชนเขมรโอรเสม็ดร้าง ปั๊มน้ำมันถูกบอม ขณะที่ สว.สุรินทร์ลงพื้นที่มอบของต่อเนื่อง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​