No data was found

จับประยุทธ์ขึ้นเขียงบริหารโควิด-19 ผิดพลาด พ่วง 5 รัฐมนตรีส่อทุจริต ฝ่ายค้านแตกคอ พลังประชารัฐร้าว

กดติดตาม TOP NEWS

เพื่อไทยกับก้าวไกลร้าวหนัก ซัดกันนัวหลังไร้ชื่อ "ประวิตร-ธรรมนัส" ส.ส.ส้มหวานเรียงแถวด่าถูกพรรคแดงดาวเทียมหักหลัง โรมอัดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้ง 2 ครั้งเสนอชื่อป้อม แต่ถูกถอดหมด เพื่อใคร? ทั้งๆที่แจ้งชื่อประวิตรไปแล้วแต่สุดท้ายไม่ถูกบรรจุ ด้านเพื่อไทยไม่ทนถูกด่าออกโรงโต้ทันควัน ภูมิธรรมด่ากลับอย่าด้อยค่าพวกเดียวกันเอง อภิปรายไม่ไว้วางใจต้องมีข้อมูล ไม่ใช่ส่งชื่อแค่ด่าเอามันส์ ปูดพลังประชารัฐร้าวหนัก วงในวิเคราะห์พลังภายในธรรมนัสสลับชื่อ ส่ง "สุชาติ-ชัยวุฒิ" ขึ้นเขียง ลุงป้อมรอลุ้นส้มหล่นหากนายกฯไม่ได้ไปต่อ

วานนี้พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยยื่นอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม พ่วงรัฐมนตรี 5 คน ประกอบด้วย 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข 2.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน 3.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม 4.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ 5.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้เนื้อหาในญัตติได้ระบุถึงพฤติการณ์และเรื่องที่จะอภิปราย 6 รัฐมนตรีทั้งหมดดังนี้

 

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นบุคคลที่ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ ไร้คุณธรรมจริยธรรมและไร้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผู้นำประเทศ ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเกิดความล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องเสียหายอย่างร้ายแรงทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ทั้งในภาวะปกติและในภาวะวิกฤต ปล่อยปละละเลยต่อมาตรการป้องกันควบคุม การระบาดของโรคในหลายเรื่อง มีลักษณะ “ค้าความตาย” โดยเห็นวัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะ เหิมเกริม คิดการใหญ่โต สร้างกำไรจากวัคซีนร่วมกับนายอนุทิน โดยหวังการกอบโกยผลประโยชน์บนซากศพและคราบน้ำตาของประชาชน “ใจดำ” ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน ไม่เห็นใจในความทุกข์ยากของประชาชน จากความโอหังและการเสพติดในอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในสภาพของคนเป็นโรค “โอหังคลั่งอำนาจ” (Hubris Syndrome) ไม่อยู่ในภาวะที่จะเป็นผู้นำประเทศได้อีกต่อไป

นายอนุทิน ขาดซึ่งองค์ความรู้ ไร้ซึ่งภูมิปัญญาและความสามารถในการกำกับดูแลงานด้านสาธารณสุข มีพฤติกรรมคุยโม้โอ้อวด ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ฉ้อฉล หลอกลวงประชาชน ส่งผลให้การบริหารงานของกระทรวงสาธารณสุขล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ เช่นโรคโควิด-19 โดยนายอนุทิน ขาดสติปัญญา ประเมินความรุนแรงและผลกระทบของโรคนี้ผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยเห็นว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาเป็นและหายได้เอง ประเมินว่าเป็นโรคกระจอก มีพฤติการณ์ในการแสวงหาประโยชน์ในการจัดหาวัคซีน

นายอนุทิน ซึ่งกำกับดูแลทั้งกรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กลับไร้ความรู้ความสามารถที่จะทำให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยุติลงได้ อีกทั้งยังมุ่งแต่แสวงหาผลประโยชน์จากการจัดหาวัคซีนและการกระจายวัคซีนโดยมิได้คำนึงถึงประสิทธิภาพของวัคซีนและโอกาสของประชาชนในการได้รับการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ซึ่งเป็นการกอบโกยผลประโยชน์บนคราบน้ำตาและความเป็นความตายของประชาชน

นายสุชาติ เป็นบุคคลที่ไร้ภูมิปัญญาและไร้ความรู้ความสามารถที่จะบริหารราชการของกระทรวงแรงงาน ทำให้ผู้ใช้แรงงานได้รับผลกระทบทั้งระบบ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย กระทำการอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่อว่าจงใจและมีผลประโยชน์ทับซ้อน ปล่อยปละละเลยให้แรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายปะปนอยู่ในระบบแรงงาน และเกิดการแสวงหาประโยชน์จากแรงงานผิดกฎหมาย จนเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายศักดิ์สยาม มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง มุ่งแต่แสวงหาและกอบโกยผลประโยชน์จากโครงการขนาดใหญ่ของหน่วยงานที่อยู่ในกำกับดูแล รู้เห็นและปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในการประมูลโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เข้าบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐเพื่อนำมาเป็นของตนและเครือญาติโดยการฉ้อฉล ประพฤติตัวเสเพลไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมโรค เข้าไปในแหล่งอบายมุขจนเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปทั่วประเทศ ขาดจิตสำนึกรับผิดชอบ มุ่งแต่แสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองโดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ของตน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นบุคคลที่ไร้ภูมิปัญญา และไร้ความสามารถในการบริหารงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้การบริหารงานด้านการเกษตรล้มเหลวทั้งระบบ มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เข้าไปมีส่วนได้เสียในการเรียกรับผลประโยชน์จากโครงการของหน่วยงานที่ตนกำกับดูแล

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีพฤติการณ์จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ใช้ตำแหน่งหน้าที่และสื่อของรัฐเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงและสร้างความแตกแยกในสังคม มุ่งประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

ออกจะกลายเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายเหมือนที่ชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจออกมาแบบนี้ โดยเฉพาะการไร้ชื่อของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ก่อนหน้านี้สมาชิกพรรคก้าวไกล นั่งยันยืนยันนอนยันมาตลอดว่ามีความประสงค์จะอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประวิตรกับร.อ.ธรรมนัสมาตลอด แต่สุดท้ายปลายทางที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านกับเคาะชื่อนายกฯกับรัฐมนตรีคนอื่นๆ โดยไร้ชื่อรัฐมนตรีเป้าหมายทั้ง 2 คน ชนิดที่สมาชิกของพรรคก้าวไกลออกมาฟาดงวงฟาดงาว่าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นหัวพรรคก้าวไกลในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเลย

อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ออกมาสับพรรคเพื่อไทยมัดมือชกรวบรัดเสนอชื่อรัฐมนตรีทั้งๆที่พรรคก้าวไกลแจ้งไปแล้วว่าจะขออภิปรายพล.อ.ประวิตร ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็ออกมาแสดงความงงในงงไร้ชื่อลุงป้อม พร้อมยืนกรานอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 ครั้งที่ผ่านมา พรรคมีการเสนอชื่อพล.อ.ประวิตรตลอด ทั้งป่ารอยต่อ ทั้งตั๋วช้าง แต่บารมีและพลานุภาพของพล.อ.ประวิตรก็เสกคาถาทำให้หลุดบ่วงแคล้วคลาดหมด ปิดท้ายที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญฃีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาแฉเลยว่ามีการปล่อยชื่อพล.อ.ประวิตรหลุดไปถึงฝ่ายรัฐบาล ก่อนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะสรุปชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย ถึงขนาดที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลโทรมาขอให้ถอดชื่อพล.อ.ประวิตรออก ที่สุดเรื่องนี้ก็กลายเป็นแผลในใจระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยที่ชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งแตกแยกกันอย่างหนักอีกครั้งในซีกฝ่ายค้าน

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ก็ขบเหลี่ยมงัดกันมาตลอด เพราะแท้จริงแล้วแม้ดูเหมือนสองพรรคเป็นพันธมิตรมีศัตรูเป็นพล.อ.ประยุทธ์เป็นรัฐบาลเสมือนกัน แต่ในทางการเมืองพรรคแดงของเสี่ยแม้วกับพรรคส้มของนายทอน ก็แย่งชิงมวลชนกันมาตลอดเพราะมีฐานคะแนนฐานพื้นที่ฐษนคนรักใคร่ชอบพอเดียวกัน ไม่แปลกที่จะเกิดการเขม่นหาทางทิ่มแทงกันทุกจังหวะเวลาและโอกาส ก่อนหน้านี้ก็เรื่องระบบเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยขอแก้เป็นบัตร 2 ใบ เขต 400 ปาตี้ลิสต์ 100 ถีบหัวส่งพรรคก้าวไกล ล่าสุดก็ยกมือแปรงบประมาณกระทรวงต่างๆไปเป็นงบกลางให้นายกฯใช้แก้โควิด-19 ปล่อยพรรคก้าวไกลเป็นหมาหัวเน่า รอบนี้ก็ลอยแพโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล ประจานซ้ำว่าตั้งธงอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบเอามันส์ ไม่มีข้อมูล ไม่มีประเด็น ไม่ตรงความรับผิดชอบ ส่งผลให้พรรคก้าวไกลหัวเสียเสมือนหนึ่งถูกตัดหางปล่อยวัด

ใช่แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านเท่านั้นที่แตกคอ ในซีกพรรคร่วมรัฐบาลเองก็เห็นรอยร้าวชัดเจนในพรรคแกนนำรัฐบาล อย่างพรรคพลังประชารัฐโดยเฉพาะเมื่อเห็นรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายในคราวนี้ วงในพรรคพลังประชารัฐเปิดเผยข้อมูลว่ากรณีที่พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์และนายอนุทินนั้นไม่แปลกเพราะมีข้อกังขาสารพัดเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการโควิด-19 ผิดพลาด ส่วนกรณีของนายศักดิ์สยามก็ชัดเจนว่าถูกสังคมคลางแคลงใจและตั้งข้อสงสัยหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต อาทิ การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม การประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว การต่อสัมปทานทางด่วน ประเด็นฮุบที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ รวมถึงกรณีถูกสังคมมองเป็นต้นเหตุการระบาดของเชื้อโควิด-19 จากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ-เอกมัย

แต่ที่แปลกคือการมีชื่อของนายสุชาติและนายชัยวุฒิโผล่มา แทนที่จะเป็นชื่อของคู่หูบิ๊กท็อปบู๊ตที่เป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐอย่างพล.อ.ประวิตรกับร.อ.ธรรมนัส ที่พรรคก้าวไกลโยนชื่อผ่านสื่อมาตลอดว่าจะเอาขึ้นเขียงกระทืบให้จมดินในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าอาจเป็นรถด่วนขบวนสุดท้ายแล้ว สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลชุดนี้ หากปีหน้าพล.อ.ประยุทธ์ชิงยุบสภาหรือลาออกก่อนครบวาระเทอม 2 ประมาณต้นปี 2566 มีการวิเคราะห์ว่าการมีชื่อนายสุชาติกับนายชัยวุฒิเข้ามาอยู่ในรอบนี้ เพราะมี “คนใน” ชี้เป้า หนักไปกว่านั้นคือการประสานกับแกนนำพรรคเพื่อไทยสลับชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายใหม่ เอาพล.อ.ประวิตรกับร.อ.ธรรมนัสออก ใส่นายสุชาติกับนายชัยวุฒิเข้าเพื่อไม่ให้ญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านถูกมองว่าเป็นการยื่นญัตติทิพย์เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจโจ๊ก ทำหน้าที่ฝ่ายค้านแบบรูทีนประจำปีไป

สำหรับคนในที่ถูกพุ่งเป้าเป็นเรื่องนี้ มีการโฟกัสไปที่ชื่อของร.อ.ธรรมนัส ด้านหนึ่งเพราะอดีตร.อ.ธรรมนัสเคยมีความสนิทสนมแนบแน่นกับแกนนำพรรคเพื่อไทยเพราะเคยอยู่ร่วมหัวจมท้ายเป็นสมาชิกพรรคกันมาก่อน อีกด้านหนึ่งก็เป็นการโชว์บารมีสร้างผลงานโบว์แดงของร.อ.ธรรมนัสให้พล.อ.ประวิตรและคนในพรรคเห็นว่ามีกำลังภายในถึงขั้นกล่อมพรรคเพื่อไทยให้ไม่ใส่ชื่อพล.อ.ประวิตรได้ อย่าลืมว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบที่แล้ว ร.อ.ธรรมนัสคือคนที่ได้รับคะแนนไว้วางใจจากพรรคฝ่ายค้านมากที่สุด มากกว่านายกฯอีกถึงขนาดพล.อ.ประยุทธ์ออกปากกระเซ้าเล่น “ได้คะแนนเยอะขนาดนี้ต้องเป็นนายกฯแล้ว” อีกด้านที่มีการวิเคราะห์กันก็คือนายสุชาติกับนายชัยวุฒินั้นเป็นคู่ปรับก๊วนตรงข้ามกับร.อ.ธรรมนัสมาตลอด โดยเฉพาะนายสุชาติที่อยู่กลุ่มสามมิตร 4 ว. ส่วนร.อ.ธรรมนัสก็เป็นแกนนำกลุ่มรัฐมนตรีช่วย 4 ช. ที่เกาเหลาไม่กินเส้นแย่งอำนาจในพรรคกันมาตลอด รอบนี้ก็เลยถูกแก้เผ็ดส่งขึ้นเขียงให้พรรคฝ่ายค้านเชือดนิ่มๆเสียเลย เท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไรไม่มีใครรู้  แต่คนวงในการเมืองเขาโจษขานเขาวิเคราะห์กันแบบนี้ มองตรงกันชัดว่าพรรคพลังประชารัฐเกิดรอยร้าวภายในขึ้นแล้ว

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้จะถึงขั้นเด็ดพล.อ.ประยุทธ์พ้นจากเก้าอี้ สร.1 แล้วมีการสลับขั้วใหม่ มาเป็นพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรจะมีโอกาสเป็นนายกฯนอกบัญชีตามรธน.2560 ม.272 รับส้มหล่นเป็นนายกฯคนนอกตอนแก่อย่างที่มีข่าวลือกันหรือไหม ปลายเดือนนี้ต้องติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯบวก 5 รัฐมนตรีชนิดห้ามกระพริบตา
///////////////

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้เลี้ยงหมูวอนผู้บริโภคเข้าใจ ราคาตามกลไกตลาด ย้ำราคายังต่ำกว่าต้นทุนผลิต
โฆษก KNU ประกาศกร้าวไม่เจรจา ลั่นต้องรบชนะเท่านั้น ลุยขยี้ SAC พ้นแผ่นดินกอทูเล
องค์บุญแห่งล้านนา ครูบาธรรมชัย เจ้าอาวาสวัดศรีพันต้น ทอดผ้าป่า ยกช่อฟ้า ทำพิธีไม้ค้ำจุน ศิลปิน ดารา นักร้องศิษยานุศิษย์พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศเข้าร่วมพิธี เป็นจำนวนมาก
“ภูมิธรรม” ยันเพื่อไทยไม่คิดเปลี่ยนประธานสภาฯ ที่ผ่านมา “วันนอร์” ทำหน้าที่ได้ดี สมเกียรติ
รวบ ป้ามหาภัย ตะเวน กรีดกระเป๋า นทท.ตามแหล่งท่องเที่ยว
ปรับครม.เศรษฐา 2 เขย่าบัลลังก์ "วันนอร์" ระส่ำ! "พิชิต-ชูศักดิ์" แย่งเข้าวิน "มือกฎหมายรัฐบาล"
สาวร้อยเอ็ด คิดสั้นผูกคอหวังปลิดชีพตัวเองคาห้องพัก
วันไหลทับไทร สนั่นเมือง รถแห่รถเครื่องเสียงกว่า100 คัน สร้างความบันเทิงชุ่มฉ่ำ
ลุ้น ราคาน้ำมันดีเซล วันพรุ่งนี้ ทะลุ 31 บาทต่อลิตร หรือไม่ หลังครม.ไม่ต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
CNN ยัน "อิสราเอล"โจมตีทางอากาศ"อิหร่าน"ยันไม่กระทบโรงงานนิวเคลียร์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น