No data was found

ศาลแพ่งยกคำร้อง “พรรคภูมิใจไทย” ขอออกคำสั่ง ห้าม “ชูวิทย์” วุ่นวายเวทีปราศรัย

กดติดตาม TOP NEWS

ศาลแพ่งยกคำร้อง "พรรคภูมิใจไทย" ขอออกคำสั่ง ห้าม "ชูวิทย์" วุ่นวายเวทีปราศรัย

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2566 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก สืบเนื่องจากกรณีที่พรรคภูมิใจไทย โจทก์ ได้ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์จำเลย ต่อศาลแพ่งเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย ในคดีหมายเลขดำที่ พ.2376/2566 โดยกล่าวหาว่าจำเลยกระทำการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหายแก่เสรีภาพ เสียหายต่อทรัพย์สิน เสียหายแก่สิทธิในชื่อเสียงหรือ เกียรติคุณหรือทางเจริญของโจทก์ เพื่อให้โจทก์ได้รับความเสียหายและตัดทอนคะแนนนิยมในการหาเสียง โดยชอบด้วยกฎหมาย และยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในระหว่างพิจารณาเป็นกรณีฉุกเฉิน ห้ามมิให้จําเลยเข้าใกล้บริเวณสถานที่หาเสียงปราศรัยของโจทก์ และห้ามมิให้จำเลยกล่าว แถลงข่าวหรือพูด แสดงความคิดเห็นถึงโจทก์ และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของโจทก์ ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ ในลักษณะ ทํานองเดียวกับที่ถูกฟ้อง และไม่ว่าจะแสดงออกทางภาพ เสียงคลิป ข้อความ ป้ายโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อ อิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อโซเชียลใด ๆ หรือขึ้นเวทีต่าง ๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะพ้นวันเลือกตั้ง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยศาลพิเคราะห์คำร้องแล้ว เห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 25 บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำการใด ๆ ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคล นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ยังรับรองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการ เดินทาง และเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธจำเลยย่อมมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น และเดินทางเพื่อเข้าฟังการปราศรัยที่จัดขึ้นเป็นสาธารณะได้ การห้ามมิให้จำเลยเข้าใกล้บริเวณที่หาเสียงปราศรัย ของโจทก์จึงเป็นการจำกัดเสรีภาพของจำเลยเกินสมควร ทั้งยังไม่แน่ว่าจำเลยจะเข้าไปบริเวณพื้นที่หาเสียง ปราศรัยของโจทก์ในวันที่ 12 พ.ค. 2566 และกระทำการก่อความวุ่นวายหรือไม่ หากจำเลยมี พฤติการณ์ที่จะก่อความวุ่นวายหรือเป็นการใช้เสรีภาพเกินขอบเขตจนกระทบต่อเสรีภาพหรือความปลอดภัย ของบุคคลอื่น ถึงขั้นที่เป็นการละเมิดกฎหมายการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดที่มีโทษทางอาญา และ โจทก์สามารถที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับจำเลยเพื่อระงับความเสียหายได้อยู่แล้ว จึงยังไม่สมควรที่จะมี คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้

 

ในส่วนคำขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยกล่าว แถลงข่าวหรือพูดแสดงความคิดเห็นถึงโจทก์ และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของโจทก์นั้น เป็นคำขอที่มีลักษณะห้ามมิให้จำเลยกล่าวหรือไขข่าวถึงเรื่องตามฟ้องอันเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลในการแสดงความคิดเห็น การพูดการเขียน การพิมพ์ การโฆษณาและสื่อความหมายโดยวิธีอื่น อันมีลักษณะเป็นการทั่วไปต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 34 ซึ่งเป็นการไม่แน่นอนว่าจำเลยจะได้กล่าวอ้างหรือพูดแสดงข้อความอันเป็นเท็จอันเป็นการใส่ความโจทก์หรือไม่

 

 

 

หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง จำเลยย่อมจะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อโจทก์ตามที่โจทก์ฟ้องอยู่ แล้ว อีกทั้งข้อความที่โจทก์อ้างว่าจำเลยกล่าวหรือไขข่าวตามฟ้องนั้นยังไม่แน่ชัดว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อ โจทก์หรือไม่ ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปย่อมมีวิจารณญาณว่าสมควรเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองโจทก์หรือไม่ การจะสั่งห้ามจําเลยมิให้กระทำการใดในอนาคตที่ยังไม่แน่นอนว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ย่อมเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของจำเลยเกินสมควร กรณียังไม่สมควรที่จะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ยกคำร้อง

 

Image

 

 

 

 

Image

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เสมา 1" กำชับ 3 ข้อ นโยบายศธ. จัดกิจกรรมเน้นเรียบง่าย ประหยัดงบฯ เข้มงวดห้ามทุจริต รับแป๊ะเจี๊ยะ
ตำรวจรวบยกแก๊งโหด 4 คนร้ายยิง "ด.ต.-ภรรยาท้อง 6 เดือน" ดับสลด
จีน China Brand Day 2024 มีแบรนด์เข้าร่วมกว่า 1,800 แบรนด์ .
จีน ซัดกลับแอมเนสตี้หลังกล่าวหาคุกคามคนจีนในต่างแดน
ร้านอาหารชื่อดังเมืองกรุงเก่าจัดวันพิเศษ ครบรอบแต่งงาน 62 ปี คุณสุมณี คุณะเกษม เจ้าของฉายา “ บาร์บี้เมืองไทย ”
"นายกฯ" นำครม.สวมเสื้อต้นตาลโตนด ชมแข่งวัวลาน สั่งมท.ขยายเวลาเล่นถึงเช้า
เปิดหนังสือ "กฤษฎา" ลาออกรมช.คลัง แจงทำหน้าที่เต็มความสามารถ แต่ถูกไม่ให้เกียรติ
"สภาฯหมื่นล้าน" โดนพายุฝนเล่นงาน ระบบแอร์ล่ม ประตูพังกระจาย ต้นไม้ใหญ่โค่นล้ม
"เพื่อไทย" ดาหน้าสวน "เจี๊ยบ อมรัตน์" งับคลิปใส่ร้าย "อุ๊งอิ๊ง" วิ่งหนีสื่อ จวกสร้างคอนเทนต์ กลบคดียุบก้าวไกล
เกาะติดเหตุ "ชายเคราะห์ร้าย" ตกท่อร้อยสายไฟฟ้า ลาดพร้าว ย้ำ "กฟน." หน่วยงานรับผิดชอบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น