เปิด 3 นโยบายสำคัญ รทสช.แจงกกต. ใช้งบ 1.51 แสนล้าน ไร้เสี่ยง

เปิด 3 นโยบายสำคัญ รทสช.แจงกกต. ใช้งบ 1.51 แสนล้าน ไร้เสี่ยง

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยรายละเอียดการกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ต้องให้จ่ายเงินตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่ามีทั้งสิ้น 41 หน้า โดยโครงการที่น่าสนใจประกอบด้วย โครงการบัตรสวัสดิการพลัส ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า 1.การจัดประชารัฐสวัสดิการมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม กระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน ซึ่งให้สิทธิแก่ผู้มีสิทธิ ได้แก่ ซื้อสินค้าอุปโภค สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม ค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และมาตรการอื่นๆ ที่จะจัดให้ในอนาคตในวงเงิน 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน และ 2.โครงการบัตรสวัสดิการพลัส คาดว่าจะเริ่มใช้ในปีงบประมาณ 2567 โดยมีวงเงินงบประมาณที่จะต้องใช้ในโครงการประมาณ 71,000 ล้านบาทต่อปี

สำหรับที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ พรรครวมไทยสร้างชาติ แจ้งว่าโครงการบัตรสวัสดิการพลัสใช้เงินจากกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ซึ่งประกอบด้วยเงินอุดหนุนจากงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล ในวงเงินงบประมาณ 71,000 บาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย พรรครวมไทยสร้างชาติแจ้งว่าช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน ผู้ถือบัตรสวัสดิการพลัสสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ส่วนผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย พรรครวมไทยสร้างชาติระบุว่า 1.ไม่มีความเสี่ยง แต่มีข้อจำกัดในงบประมาณแผ่นดิน แต่ยังอยู่ในช่วงที่สามารถบริหารจัดการได้ 2.เป็นการใช้เงินจากกองทุนฯ ภายใต้การกำกับดูแลและบริหารงานของคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลตามปกติเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว และ 3.เป็นการให้วงเงินสิทธิและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ จึงมีความเสี่ยงด้านการทุจริตต่ำ

พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังเสนอโครงการคนละครึ่งภาค 2 จำนวน 26 ล้านสิทธิ วงเงินปีละ 40,000 ล้านบาท เน้นร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอยด้วย โดยวงเงินที่ต้องใช้เป็นการดำเนินการต่อจากโครงการคนละครึ่งระยะ 5 ตั้งแต่ 1 กันยายน 2565 ถึง 31 ตุลาคม 2565 จำนวน 26 ล้านสิทธิ วงเงินงบประมาณ 40,000 ล้านบาท ส่วนที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการระบุว่า มาจากงบประมาณประจำปี ส่วนความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบายนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่ากระตุ้นการบริโภคและขยายกิจกรรมการใช้จ่ายของประชาชนกับผู้ค้ารายจ่าย ขณะที่ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย พรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่า แก้ไขผลกระทบและความเสี่ยงโครงการโดยการปรับเพิ่มระบบกำกับ และระบบการยืนยันการใช้งานให้มีความรัดกุมมากขึ้น

 

นอกจากนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังมีโครงการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยระบุวงเงินที่ต้องใช้ว่า เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เท่ากันทุกช่วงอายุเป็น 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ยกเว้นคนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินงบประมาณปีละ 40,000 ล้านบาท โดยที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินเป็นเงินงบประมาณประจำปี ส่วนความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย พรรครวมไทยสร้างชาติระบุว่า ข้อจำกัดของวงเงินงบประมาณประจำปี แต่ยังอยู่ในช่วงที่สามารถบริหารจัดการได้

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ม.กรุงเทพ มอบ "ปืนแอนตี้โดรน" ต่อยอดงานวิจัย ให้กองทัพนำใช้งานจริง
"ผู้บริหารท็อปนิวส์" ร่วมวันคล้ายวันสถาปนา "กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ" ครบรอบ 22 ปี สนับสนุนกิจกรรมการเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ เผยแพร่ข่าวสารกองทัพ
ตัวเงินตัวทองบุกคลินิกรักษาสัตว์กลางเมืองอ่างทอง แจ้งกู้ภัยช่วยจับ อึ้ง! เหมือนมาหาหมอรักษาตัวเอง"
สุดสลด ทารกวัย 2 เดือน ถูก "พิทบูล" คาบออกจากเปลโยก ขย้ำเสียชีวิต
ซวยหนีไม่รอด! หนุ่มเข็น จยย.มีพิรุธ เจอตำรวจทิ้งรถวิ่งหนี สุดท้ายถูกจับ อ้างขโมยไปขายเอาเงินกลับบ้าน
อบจ.ร้อยเอ็ดเปิดตัว “รพ.สต.ติดดิน” ยกระดับสุขภาพชุมชนทั่วจังหวัด

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​