วันที่ 12 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่มีสาวใหญ่ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “สวัสดีคะ เนื่องจากฉันจะมาบอกกับพี่น้อง ชาวตำบลบางจากทุกคนด้วยนะค่ะ ว่าที่ฉันได้เสนอคัดค้านไม่ให้เอา มจร เป็นโรงบาลสนาม ที่พักคอย หรือที่กักตัวนั้น ฉันไม่ได้ปฏิเสธที่จะให้มีนะค่ะ มีที่อื่นของตำบลบางจากฉันไม่ได้คัดค้าน คัดค้านแค่ที่ มจร เท่านั้นคะ และขอให้พี่น้องตำบลบางจากเข้าใจฉันด้วยนะค่ะและวันนี้ฉันได้เสนอในที่ประชุมแล้วว่าให้ใช้ 0 11 ซึ่งเขามีบุคลากรพร้อมอยู่แล้วเพียงแค่ให้ อบต ใช้เงินงบประมาณให้เขาไปเพื่อปรับปรุงนิดหน่อย ถ้ามาตั้งที่ใหม่มันต้องใช้งบประมาณเยอะและอีกอย่างชาวบ้านแถวไกล้ ๆ กับ มจร เขาไม่เห็นด้วยกับใช้สถานที่แห่งนี้ ถ้าใครอยากทราบเหตุผลของฉันให้เข้าไปดูในไลน์สดได้นะค่ะฉันอยากจะอธิบายเหตุผลให้เขาฟังอีกเยอะคะแต่เขาไม่ยอมให้อธิบายอีกคะ และอีกอย่างทาง มจร ให้ทางผู้ที่จะใช้สถานที่ให้ทำประชาพิจารกับชาวบ้านใกล้เคียงก่อนทำไมไม่ทำละค่ะให้ถามเขาดูนะค่ะ เขาเพิ่งมาบอกให้ชาวบ้านข้างเคียงรู้เอาตอนที่ชาวบ้านเขาจะทำแล้วชาวบ้านใกล้เคียงรับไม่ได้เลยออกมาคัดค้าน พร้อมภาพและข้อความว่า“เรา..ชาวตำบลบางจาก ไม่เอา ม.จ.ร. เป็นโรงพยาบาลสนาม เป็นที่พักคอบหรือเป็นที่พักตัว”โดยผู้หญิงคนเดียวกันได้มีการแสดงความคิดเห็นในลักษระดูหมิ่น โจมตี “ผู้ใหญ่มล”นายธัชนนท์ เงินนาค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นผู้เห็นด้วยในการใช้อาคารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช ในพื้นที่ ต.บางจาก ซ่างอยู่ห่างจากชุมชนออกไป 400-500 เมตร ว่า “อยากทราบว่าคนในครอบครัวของผู้ใหญ่ได้รับผลประโยชน์อะไรจาก อบต.บ้างไม่คะ อยากทราบคะ ไม่ได้ปรักปรำนะค่ะ”
ในเวลาต่อมาผู้ใหญ่มล”นายธัชนนท์ เงินนาค จึงได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค “กู้ภัย ฯบางจาก” ซึ่งตัวผู้ใหญ่มลและครอบครัวก่อตั้งและออกช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณะภัยมานานเกือบ 20 ปี จนได้รับฉายาว่า “ผู้ใหญ่มล กู้ภัยสีชมพู” ว่าที่ศูนย์ประสานงานกู้ภัยบางจาก อ.เมืองนครศรีธรรมราช สืบเนื่องจากการประชุมจัดตั้งที่พักคอยในตำบลบางจากแล้วมีประเด็นขึ้นมา ทำให้ต้องกลับมานึก ใช้สมองคิดทบทวน สิ่งที่ทำเพื่อประชาชนบางจาก ว่า ผมนี้ทำเพื่อผลประโยชน์ ……หรือ….ตอนนี้ยังนึกไม่ออก…..มึน…..ท่านใดมีข้อมูล ช่วยตอบให้ผมที ว่าผมและครอบครัวได้รับผลประโยชน์จาก อบต.บ้างม้ายผมนึกไม่ออก เพราะครอบครัวผมมี กัน 5 คน พ่อ แม่ลูก 1. ผมเป็น ผู้ใหญ่บ้าน รับค่าตอบแทนจากกรมการปกครอง 2. ภรรยา ทำหน้าที่ผู้ช่วยพยาบาลฯ อยู่ ห้อง ICU รพ.มหาราช 3. ลูกสาวคนโต อยู่ ประเทศ อิตาลี 4. ลูกบ่าว เป็น ตำรวจ อยู่ สภ.เกาะสมุย 5. ลูกบ่าวเรียน ปวส.เทคนิค ปี 1 พ่อแม่พี่น้องที่รู้ว่าผมได้ผลประโยชน์จาก อบต. ช่วยฟื้นความจำให้ผมที วันนี้มึนแล้วนิ….สมอง สมอง จงมา….#ทำเพื่อตัวเอง ก็แค่ สิ้นลม #ทำเพื่อ สังคม แม้สิ้นลม ก็ยังอยู่#ส่วนหนึ่งของชีวิต อุทิศเพื่อสังคม
ปรากฏว่าหลังจากผู้ใหญ่มลโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไปมชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจอย่างกว้างขวาง และเข้าไปโจมตีในการแสดงในโพสต์ของผู้หญิงที่คัดค้านการตั้งศูนย์พักคอยใน ม.จ.ร. และโจมตีผู้ใหญ่มล โดยมีการแสดงความเห็นในว่าเป็นการตคัดค้านที่เห็นแก่ตัว มองแยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่ถูก อย่าอ้างว่าชาวบางจาก ชาวบางจากส่วนใหญ่เห็นด้วยที่ใช่ ม.จ.ร.เป็นศูนย์พักคอย หรือสถานที่กักตัว และยังแสดงความคิดเห็นในเชิงปกป้อง ผู้ใหญ่มล”นายธัชนนท์ เงินนาค และครอบครัวว่าเป็นคนที่เสพติดความดี จิตสาธารณะ ช่วยเหลือประชาชนในยามประสบภัยโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นที่ประจักษ์มาตลอด….#เซฟผู้ใหญ่มล ธัชนนท์ เงินนาค ต่อมาหญิงสาวคนดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ว่า “การที่ฉันได้มาโพสก่อนหน้านี้ฉันก็เพียงแค่ให้ทุกคนเข้าใจที่ฉันได้แสดงความคิดเห็นไม่ตรงกันก็แค่นั้นเองยังไงเสียก็ในที่ประชุมเมื่อวานคนทีคัดค้านแค่9คนเองคะพวกท่านมีรายชื่อตั้ง 800กว่ายังไงเราก็สู้ไม่ได้อยู่แล้วคะพวกท่านจะว่าอะไรฉันอีกหรือค่ะพวกคุณเอาเวลานี้ไปเตรียมตัวทำสิค่ะคำตอบก็บอกอยู่แล้วคะว่าฝ่ายคัดค้านน้อยกว่าสู้ไม่ได้อยู่แล้วคะ”
ผู้ใหญ่มล ธัชนนท์ เงินนาค กล่าวว่าผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช มีนโยบายสนับสนุนให้หมู่บ้าน/ชุมชนในแต่ละตำบลจัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อรองรีบผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาหารใด ๆ คืนถิ่น รวมทั้งผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้วระยะหนึ่งออกมาอยู่ในศูนย์พักคอยรอกลับบ้าน ซึ่งในระดับพื้นที่มีการประชุมกันหลายรอบและ 2 แห่งที่มีการเสนอคือศูนย์อนามัยเขต 11 และอาคารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยา วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหรือ มจร. (บางสะพาน) โดยในศูนย์อนามัยเขต 11 เป็นโรงพยาบาลที่ดำเนินการเกี่ยวกับผู้ป่วยโควิดอยู่แล้ว อาคารที่เหลือก็เป็นอาคารเก่าที่จะต้องปรับปรุงอีกเยอะไม่ทันการณ์ จึงสรุปว่าเลือกที่ มจร.แทน ล่าสุดน่ายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมือง ได้ลงมาตรวจสอบและประชุมเตรียมการด้วยตนเอง แต่ก็มีผู้หญิงคนดังกล่าวซึ่งบ้านเดิมอยู่ อ.สิชล มาได้สามีในพื้นที่มายื่นหนังสือคัดค้าน อ้างว่าชาวบางขากไม่ต้องการ และยังโพสต์โจมตีตนอย่างหนักว่าตนและครอบครัวได้รับผลประโยชน์จาก อบต. “ตนไม่โกรธแต่น้อยใจเพราะคนใน ต.บางจากอและใกล้เคียงเขารับรู้รับทราบว่าตลอดว่ากว่า 20 ปี ที่ตนและครอบครัวทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือสังคม จัดตั้งหน่วยกู้ภัยบางจาก “กู้ภัยสีชมพู” ขึ้นมาออกช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณะภัยมาโดนตลอด เชื่อว่าคนบางจากและใกล้เคียงรู้ดีว่าตนและครอบครัวได้ประโยชน์อะไรจาก อบต.หรือหนาวยงานอื่น ๆ ตนจึงออกมาโพสต์ชี้แจงว่าครอบครัวของตนมีสถานภาพอยู่อย่างไร ไม่จำเป็นต้องเห็นแก่ตัว หวังกอบโกยเงินทองโดยมิชอบจาก อบต.หรือที่ใด” อย่างไรก็ตามนายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมือง ยืนยันว่าศูนย์พักคอย มจร.บางสะพานต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเหมาะสมสามารถดำเนินการแล้วเสร็จเปิดบริการได้เพียงไม่กี่วัน หากล่าช้าเกรงจะไม่ทันการณ์.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช