ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ว่าขณะนี้ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ดำเนินคดีต่อนายชวลิต พุทธราช อายุ 30 ปี ผู้จัดการร้านคริสตัลคลับ และนายครรชิต ซื่อบริสุทธิ์ใจ อายุ 29 ปี ผู้จัดการร้านเอเมอรัลด์ผับทองหล่อ ในความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (มาตรการควบคุมโรค) และ พ.ร.บ.สถานบริการ โดยศาลแขวงพระนครใต้สั่งจำคุกผู้จัดการร้านเป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมตั้งคณะกรรมการเพื่อเสนอปิดสถานบันเทิงดังกล่าว นอกเหนือจากสถานที่ตามประกาศของกรุงเทพมหานคร และประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ หากเข้าเงื่อนไขข้อกำหนดตามคำสั่ง คสช.อาจสั่งปิดถึง 5 ปี สำหรับอาการของตำรวจ สน.ทองหล่อ สายปฏิบัติการ 18 รายที่ติดเชื้อ จากการสอบถามแพทย์ รพ.ตำรวจ ระบุว่า แม้ตำรวจจะป้องกันตัวเองก็ตาม แต่เป็นไปได้ว่าไม่สวมถุงมือจนเกิดการติดเชื้อ
ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมศาลแขวงพระนครใต้ ถึงสั่งจำคุกผู้จัดการร้านทั้ง 2 คนเพียงอย่างเดียวนั้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้บริหารรายใหญ่ของคริสตัลคลับและเอเมอรัลด์ผับ ซึ่งจากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายเดชา พิลาลี เป็นกรรมการรายเดียวของบริษัท คริสตัล เคแอนด์เค จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2560 แจ้งประกอบธุรกิจกิจการบริการเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นหลังในร้าน และล่าสุดมีรายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2563 มีนายเกียรติพงษ์ คำต่าย ถือหุ้นใหญ่สุด 45% ,น.ส.พรรนพร คำต่าย ถือ 15%,นายกมนทัต กริชสุภางค์ ถือ 10%,น.ส.จันทร์เพ็ญ แก้วอัสดง ถือ 10% ,น.ส.นิตยา ใจยอด ถือ 10% ,นายจารุกิตติ์ ศรีสวัสดิ์ ถือ 5% และนายศุภสรร ด้วงชนะ ถือ 5%
และนอกจากนี้ ยังพบว่า นายเกียรติพงษ์ คำต่าย ผู้ถือหุ้นใหญ่ “คริสตัลทองหล่อ” พบว่า เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่ง ประกอบไปด้วย 1. บริษัท เอมเมอรัลด์กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2562 แจ้งประกอบธุรกิจจการค้าขาย อาหาร เครื่องดื่ม สุรา เบียร์ ตั้งอยู่ที่เดียวกับบริษัท คริสตัล เคแอนด์เค จำกัด ,2.บริษัท กินซ่า เอ แอนด์ ที จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2551 แจ้งประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ย่านทองหล่อ ,3.บริษัท ยู พี เอส อาร์ โลจิสติกส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด แจ้งประกอบธุรกิจขนส่งและติดตั้งอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้า
ล่าสุด พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตอบข้อสงสัยกับทาง Top News ว่าทำไมถึงดำเนินคดีกับผู้จัดการเท่านั้น เนื่องจาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงสืบสวนหาเจ้าของสถานบันเทิงตัวจริงอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะทราบว่า ผับดังกล่าวมีการจดทะเบียนกรรมการผู้บริหารก็ตาม แต่ก็จะมีหุ้นส่วนหลายรายที่ร่วมด้วย ซึ่งแต่ละรายทำหน้าที่บริหารแตกต่างกันไป จึงต้องตรวจสอบว่าแต่ละรายมีความเกี่ยวข้องทางคดีมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น หากมีการตรวจสอบที่ชัดเจนแล้วว่าผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจในการบริหารสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นใครถึงจะสามารถออกหมายเรียก หรือดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เจ้าของที่แท้จริงเป็นบุคคลมีสีใช่หรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวเพียงสั้นๆว่า หากพบความผิดไปถึงใครก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้นกฎหมาย