วันที่ 11 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ จ.สงขลา มีคดีการเสียชีวิตของ น.ส.วณิดา พรุ่มรินทร์ อายุ 21 ปี หรือน้องจิ๊ป” ซึ่งถูกแฟนหนุ่มคือ นายปัณณทัต เพชรพิศาล อายุ 25ปี หรือปัน ทำปืนกึ่งอัตโนมัตบีบีกันแบบดัดแปลงใช้กับกระสุนขนาด .380 ลั่นใส่จนเสียชีวิตเหตุเกิดภายในห้องนอนที่บ้านของแฟนหนุ่มเลขที่ 74/3 หมู่3 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่7 สิงหาคมที่ผ่านมา และญาติได้ทำพิธีฌาปกิจศพน้องจิ๊ปไปแล้วเมื่อวันที่9สิงหาคมที่วัดควนลัง ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ แต่ทางญาติยังมีข้อสงสัยว่าอาจจะไม่ใช่ปืนลั่นแต่เป็นการตั้งใจยิง เพราะหลังจากเผาศพน้องจิ๊ปไปแล้วได้มีแชตลับส่งมาหาญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้องว่าแฟนหนุ่มได้พาน้องจิ๊ปไปให้เพื่อนจำนวน14คนรุมโทรมที่บ้านหลังหนึ่งในต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และพากลับมายิงที่บ้าน จึงต้องการให้ตำรวจคลี่คลายเงื่อนงำของคดีนี้ทั้งกรณีปืนลั่นมาจริงหรือไม่และน้องจิ๊ปถูกแฟนหนุ่มพาไปรุมโทรมหรือไม่
เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามเหตุการณ์และสอบถามจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งฝั่งญาติน้องจิ๊ปและฝั่งของแฟนหนุ่มรวมทั้งฝ่ายตำรวจว่าเรื่องราวและข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เริ่มจากเดินทางไปยังบ้านเลขที่106/6 หมู่3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านพักของน้องจิ๊ป ได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.เรวดี พรุ่มรินทร์ อายุ 23 ปี หรือจอย ซึ่งเป็นพี่สาวของน้องจิ๊ป ได้เปิดเผยว่า ทางญาติยังมีข้อสงสัยหลายเรื่องเกี่ยวกับการตายของน้องสาว และขอให้ตำรวจสืบสวนคลี่คลายนี้นี้ใน3ประเด็นคือแฟนหนุ่มทำปืนลั่นจริงหรือไม่ เรื่องที่มีแชตลับจากชายชื่อบอยที่ส่งข้อความแชตทางเฟสบุ๊คว่าอยู่ร่วมในเหตุการณ์ที่แฟนหนุ่มใช้ให้เพื่อน14คนรุมโทรมน้องกิ๊ฟที่บ้านหลังหนึ่งในต.คลองแห และเรื่องที่ตำรวจให้ประกันตัวแฟนหนุ่มออกไปได้อย่างไร ซึ่งญาติยังคาใจ ด้านนางจิตร์ พรุ่มรินทร์ อายุ59ปี แม่ของจิ๊ปบอกว่าลูกสาวกับแฟนหนุ่มคบหากันมาเกือบ2ปีและเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แฟนหนุ่มได้ให้ญาติผู้ใหญ่มาสู่ขอและเตรียมแต่งงานกัน และหลังจากที่มาสู่ขอลูกสาวก็ไปอยู่ที่บ้านของแฟนหนุ่ม แต่ทุกครั้งที่แฟนหนุ่มมาที่บ้านก็ไม่เคยเข้าบ้านและไม่รู้ว่าลูกสาวกับแฟนหนุ่มรักกันมากขนาดไหน และเรื่องการเสียชีวิตของลูกสาวยังคาใจคือเรื่องสาเหตุการตายของลูกสาวว่าปืนลั่นหรือจงใจฆ่าให้ตายเพราะเหตุเกิดที่บ้านแฟนหนุ่มและอยู่ด้วยกันสองคน และที่ผ่านมาทั้งสองคนทะเลาะกันบ้างและตนได้ขอให้ลูกสาวกลับมาอยู่ที่บ้าน โดยก่อนเกิดเหตุลูกสาวเพิ่งกลับไปอยู่ที่บ้านแฟนหนุ่มได้2-3วัน
ด้านน.ส.ณัฐธิฌา พุ่งแก้ว อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับน้องจิ๊ป เล่าถึงเรื่องแชตลับที่มีคนชื่อบอยส่งมาบอกว่าน้องจิ๊ปถูกแฟนหนุ่มพาไปให้เพื่อน14คนรุมโทรมว่า แชตถูกส่งมาหลังจากที่เผาศพน้องจิ๊ปไป1 วัน บอกว่าการตายของน้องจิ๊ปไม่ใช่ปืนลั่นธรรมดา เพราะในวันเกิดเหตุแฟนหนุ่มได้พาน้องจิ๊ปไปให้เพื่อน14คนรุมโทรมและนายบอยก็อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ได้รุมโทรมด้วยและบอกว่ามีการถ่ายคลิปเอาไว้ด้วยจะพยายามหามาให้ ซึ่งตอนที่ถูกรุมโทรมมีการจับน้องจิ๊ปมัดมือมัดเท้าและต่อยท้องก่อนรุมโทรมด้วย และบอกว่าประเด็นการถูกรุมโทรมนั้นก็ไม่ได้เชื่อตามแช็ตที่ส่งมาร้อยเปิดเซ็นเนื่องจากชายชื่อบอย ก็ไม่รู้เป็นใครถามเบอร์โทรศัพท์ก็ไม่บอก สถานที่พาไปรุมโทรมก็ไม่เปิดเผยเพียงแต่ญาติตั้งข้อสงสัยและให้ตำรวจตรวจสอบว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของแฟนหนุ่ม ในพื้นที่หมู่3 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ และพบกับ นายปัณณทัต หรือปัน แฟนหนุ่มและญาติๆที่พร้อมให้ข้อมูลและยืนยันในความบริสุทธิ์ใจแต่ตอนนี้ทุกคนไม่สบายเรื่องที่ถูกกระแสสังคมพิพากษาและเชื่อไปแล้วว่าแฟนหนุ่มพาน้องจิ๊ปไปให้เพื่อนรุมโทรมและพากลับมายิงที่บ้านหลังจากที่ญาติน้องจิ๊ปและบางเพจเฟสบุ๊คได้โพสต์เรื่องนี้ออกไป
นายปัณณทัต หรือปันแฟนหนุ่มเล่าว่าในวันเกิดเหตุแฟนสาวอยู่ที่บ้านตนตลอดและตนก็ออกไปทำงานเป็นช่างเชื่อมในเมืองหาดใหญ่ และกลับบ้านมารับแฟนสาวกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านที่ต.ควนลัง เมื่อเวลา6โมงเย็นและกลับมาที่บ้านของตนใช้เวลา1ชั่วโมง และมีในไทม์ไลน์โทรศัพท์ย้อนหลังของแฟนสาวก็ไม่เคยไปในพื้นที่ต.คลองแห ที่ถูกระบุว่าตนพาไปให้เพื่อนรุมโทรม ที่สำคัญตนก็ไม่มีเพื่อนชื่อบอยตามที่ส่งแชตลับมาหาญาติของแฟนสาว และเรื่องที่มีการโพสต์ว่าตนพาแฟนสาวไปให้เพื่อนรุมโทรมไม่มีมูลความจริงแม้แต่นิดเดียว เพราะตนกับแฟนสาวก็กำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้วไม่มีสาเหตุหรือเหตุผลที่จะพาไปให้เพื่อนรุมโทรมถึง14 คน แต่อาจจะมีเรื่องทะเลาะกันบ้างเรื่องเล็กๆน้อยๆ จึงยังสงสัยว่าทำไมถึงกุเรื่องนี้มาใส่ร้ายตน ปันกล่าวว่า การตายของแฟนสาวตนก็เสียใจไม่แพ้คนอื่นแต่ที่ผ่านมาไม่มีโอกาสพูดเพราะญาติของแฟนสาวเชื่อไปแล้วว่าตนเป็นคนยิงไม่ใช่ทำปืนลื่น และในวันเผาศพแฟนสาวที่วัดควนลัง ตนก็ขับรถไปที่วัดเพื่อส่งแฟนสาวเป็นครั้งสุดท้ายแต่ทำได้เพียงขับรถวนเวียนรอบวัดเข้าไปไม่ได้เพราะกลัวมีปัญหากับญาติแฟนสาวที่ยังโกรธแค้น ที่สำคัญในวันเผาศพน้องจิ๊ปก็เป็นวันครบรอบ1ปีกับการคบหาเป็นแฟนของน้องจิ๊ปด้วย นอกจากนี้แฟนหนุ่มยังได้พาผู้สื่อข่าวไปยังห้องนอนเกิดเหตุและเล่าเหตุการณ์ให้ว่าเป็นการทำปืนลั่นจริงตอนนั้นตนนั่งอยู่ปลายเตียงส่วนแฟนสาวนอนอยู่บนเตียง และตนได้นำปืนมาทำความสะอาดและขณะลุกขึ้นยืนเพื่อนำอาวุธปืนไปเก็บเห็นว่าแม็คกาซีนยังบรรจุไม่สนิท จึงได้ใช้มือตบไปเพื่อกระชับกับตัวปืนทำให้ปืนลั่นใส่น้องจิ๊ปที่หน้าท้องขวา และตอนนั้นตนถึงกับสติแตกวิ่งออกจากบ้านไปขอความช่วยเหลือจากญาติและรีบพาส่งโรงพยาบาลแต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตนพร้อมที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ใจและพิสูจน์ความจริงว่าไม่ได้ตั้งใจยิงแฟนสาวเป็นเพียงปืนลั่นและไม่ได้พาแฟนสาวไปให้เพื่อนรุมโทรมตามที่มีการโพสต์กล่าวหา
ด้านลุงเขยของแฟนหนุ่ม ก็ออกมายืนยันว่าปันได้ไปรับน้องจิ๊ปมาที่บ้านตั้งแต่วันที่4สิงหาคมและอยู่บ้านตลอดไม่ได้ออกไปไหน มีเพียงช่วงเย็นของวันที่6สิงหาคมที่แฟนหนุ่มพาน้องจิ๊ป กลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านที่ ต.ควนลัง ที่อยู่ห่างออกไป11กิโลเมตรและกลับมาภายในเวลา1ชั่วโมงและทั้งคู่ก็เข้าไปอยู่ในห้องด้วยกันไม่มีการทะเลาะวิวาท กระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้น1นัด และแฟนหนุ่มได้วิ่งออกมาบอกว่าทำปืนลั่นใส่แฟนสาวให้ช่วยพาตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นแฟนหนุ่มถึงกับสติแตกวิ่งไปวิ่งมาด้วยความตกใจ ลุงเขย ยังพูดถึงเรื่องที่มีการโพสต์ใส่ร้ายว่าหลานชายพาแฟนไปให้เพื่อน14คนรุมโทรมนั้นไม่เป็นความจริงและญาติพร้อมที่จะท้าพิสูจน์ว่าหากคนชื่อบอยที่ส่งแชตลับไปให้ญาติน้องกิ๊ปว่าถูกรุมโทรมจริงก็ให้นำหลักฐานหรือคลิปหรือออกมาเปิดเผยข้อมูลกับตำรวจทั้งหมดว่าเป็นเรื่องจริงมีใครกี่คนซึ่งไม่ใช่เรื่องยก ไม่ใช่มาใส่ความข้างเดียวและนำพูดแบบลอยๆออกมา เพราะตอนนี้ทั้งปันแฟนหนุ่มและญาติได้รับความเสียหายทางจิตใจอย่างหนักจากการถูกกระแสสังคมพิพากษาไปแล้วว่าเป็นคนจิตใจอำมหิตโหดเหี้ยม พาแฟนไปให้เพื่อนรุมโทรมแล้วกลับมายิงทิ้งที่บ้านซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงทุกอย่าง ลุงเขย ยังบอกอีกว่าหลังการเสียชีวิตของน้องกิ๊ปก็ได้ไปช่วยเหลืองานศพทั้งค่าใช้จ่ายงานศพจำนวน20,000 บาท ค่าดอกไม้6,000 บาทและจะช่วยเหลือเยียวครอบอีกครั้ง แต่เมื่อพวงตนกลายเป็นจำเลยสังคมก็พร้อมที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมโดยกำลังประสานทนายความและรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่นำเรื่องนี้ออกมาโพสต์กล่าวหาว่าเรื่องแฟนหนุ่มพาแฟนสาวไปให้เพื่อน14คนรุมโทรมซึ่งไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย เพราะทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกันรอเพียงผ่านช่วงโควิดไปก่อนหลังจากที่ญาติได้ไปสู่ขอฝ่ายหญิงและตกลงเรื่องค่าสินสอนเป็นเงินสด 1 แสนบาท และทองหนัก 2 บาท เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทางด้านคดี พ.ต.อ.อภิสฤษฏ์ มณีโชติ ผู้กำกับการสภทุ่งตำเสา เปิดเผยว่า คดีการเสียชีวิตของน้องกิ๊ปเบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุและสอบสวนพยานแวดล้อมพบว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุการทำปืนลั่น ซึ่งคดีนี้ยังไม่จบยังรอผลตรวจสอบกลไกปืนของเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน9 อีกครั้ง รวมทั้งผลการชันสูตรศพของแพทย์พบว่าไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้ายตามร่างกาย หรือรอยมัดมือมัดเท้าแต่อย่างใดมีเพียงรอยกระสุนปืนที่ท้องด้านขวาเท่านั้น ส่วนประเด็นการถูกข่มขืนนั้นไม่ได้ตรวจลึกลงไปเพราะตอนเกิดเหตุยังไม่มีการแจ้งความเรื่องนี้เนื่องจากผู้ก่อเหตุก็เป็นสามีภรรยากันเพียงแค่ถูกยิงมาเท่านั้นญาติเพิ่งมาตั้งข้อสังเกตุในภายหลัง ส่วนประเด็นที่มีการโพสต์ว่าถูกรุมโทรมจริงหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตำรวจไม่ได้ตัดทิ้งและได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสภ.ทุ่งตำเสา ลงพื้นที่ไปรวบรวมข้อมูลจากญาติและหลักฐานต่างๆรวมทั้งแชตลับที่ส่งมาว่าเป็นใครและจริงหรือไม่ ซึ่งจะให้ความเป็นทำกับทั้งสองฝ่าย หากญาติติดใจก็สามารถนำหลักฐานเรื่องนี้ไปแจ้งความได้ในท้องที่เกิดเหตุ ด้านพล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สืบสวนตำรวจภูธรภาค9 เปิดเผยว่า ได้ส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงเรื่องการถูกรุมโทรมแล้วว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ซึ่งตำรวจพร้อมที่จะคลี่คลายเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย เพราะตอนนี้เป็นเพียงประเด็นที่ญาติสงสัยเท่านั้น
นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สงขลา