No data was found

ผบช.น.เผย พร้อมปรับเปลี่ยนยุทธวิธี หากม็อบแรงขึ้น

กดติดตาม TOP NEWS

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยเจ้าหน้าที่พร้อมพร้อมปรับเปลี่ยนยุทธวิธีตามสถานการณ์ หากกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง ยืนยันไม่ต้องการทำร้ายประชาชน ย้ำชัดทหารมีอำนาจตามพรก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว ตอนนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบไปก่อน

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงข่าวสรุปสถานการณ์การชุมนุมที่กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ได้ชักชวนให้มวลชนออกมาชุมนุมคาร์ม็อบ ที่บริเวณแยกราชประสงค์ (10 ส.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณโดยรอบและสามารถยึดของกลาง อาทิ หนังสติ๊ก ลูกแก้ว ลูกเหล็ก พลุ และระเบิดปิงปองได้จำนวนมาก ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนไปตามจุดต่างๆ และไปสิ้นสุดที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และได้มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่จำนวน 9 นาย และมีทรัพสินย์ของภาครัฐได้รับความเสียหาย 2 จุด คือป้อมตำรวจจราจรสน.ดินแดง และป้อมตำรวจสน.พญาไท ในพื้นที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบและหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ได้เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมรับการชุมนุม ของกลุ่มผู้ชุมนุมคาร์ม็อบในวันนี้(11 ส.ค.) ซึ่งยืนยันว่าจะพยายามรักษาแนวของตำรวจ ไม่เข้าปะทะ จนกว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าเข้าแนวของตำรวจ เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้

ส่วนเรื่องยุทธวิธีในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม ยังคงใช้อาวุธแบบควบคุมฝูงชน ที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น แก๊สน้ำตา กระสุนยาง แต่ถ้าหากพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้กระสุนจริง หรือก่อการร้าย ก่อจราจล ทางตำรวจก็เตรียมปรับแผนยุทธวิธีไว้แล้วเช่นกัน ส่วนทหารนั้น มีหน้าที่ตาม พรก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว ซึ่งในตอนนี้ทหารเป็นส่วนสนับสนุนการทำงานของตำรวจอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ผบช.น. ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการยึดรถจักรยายนต์ ในเขตพื้นที่ที่มีการชุมนุม เบื้องต้นสามารถยึดรถจักรยานยนต์ได้จำนวน 122 คันนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ไม่มีการติดแผ่นป้านทะเบียน จะต้องทำการตรวจสอบผู้ครอบครอง ทำการออกหมายเรียก หากพบว่ามาร่วมชุมนุมก็จะดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกันมากกว่าห้าคน ในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” โดยในตอนนี้รถทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เก็บของกลาง หากประชาชนหรือผู้ครอบครองต้องการเข้าไปรับรถ สามารถเข้าไปติดต่อพนักงานสอบสวนสน.ดินแดง พร้อมหลักฐานเอกสารยืนยัน

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. กล่าวถึงผลการดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ Fake News เกี่ยวกับการชุมนุมเมื่อวันที่10 ส.ค.64 ว่า เมื่อวานที่ผ่านมามีการโพสต์ และแชร์ Fake News ที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่และภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจใน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือการนำภาพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไปโพสต์ประกอบข้อความว่า เด็กช่างกลถูกยิงเสียชีวิต 1 คน ในเหตุการณ์ร่วมชุมนุม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ผู้ตายขับรถจักรยายนต์ชนท้ายรถกวาดขยะของกรุงเทพมหานคร เสียชีวิตที่เชิงสะพานพระปกเกล้า ซึ่งตำรวจ สน.บุปผาราม ได้ทำการตรวจสอบและส่งศพไปพิสูจน์ที่ รพ.ศิริราช ซึ่งผลพบว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจริง ไม่ได้เกิดจากการถูกยิงเสียชีวิตตามที่มีการโพสต์

เรื่องที่ 2 คือการนำคลิปภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุบรถประชาชนมาโพสต์ในโซเชียล โดยกล่าวอ้างว่าเป็นพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ในการชุมนุมเมื่อวาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์การชุมนุมเมื่อปี 2556

ทั้งนี้ พฤติกรรมดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ไม่เกิน 5 ปี ไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้อยากฝากไปถึงผู้ที่โพสต์ และแชร์ข้อความดังกล่าว ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย

พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวถึงคลิปภาพที่มีการแชร์กันในโซเชียลที่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนพยายามที่จะเข้าไปควบคุมชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งมีข้อความประกอบคลิปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายประชาชน ว่า ภาพดังกล่าวนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเข้าไปควบคุมตัวผู้กระทำความผิด และเป็นไปตามยุทธวิธี ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย แต่ผู้โพสต์คลิปดังกล่าวมีเจตนาไม่ดี เพราะต้องการให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เปิดเผยถึงปัญหาการชุมนุมด้วยวิธีคาร์ม็อบว่า การที่ผู้ชุมนุมเปลี่ยนมาชุมนุมในรูปแบบของคาร์ม็อบนั้นส่งผลกับการจราจรอย่างมาก ใน 3 ประการ 1.การเคลื่อนย้ายของผู้ชุมนุมไม่มีเป้าหมายที่แน่นอน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถที่จะกำหนดทิศทางการจราจรได้ / 2.สำหรับการปิดพื้นที่การชุมนุมเมือก่อนจะปิดพื้นที่เพียงหนึ่งแยกก่อนมีการชุมนุม แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นการชุมนุมในลักษณะคาร์ม็อบทำให้ต้องใช้พื้นที่เพิ่มขึ้น จึงต้องทำการปิด 2-3 แยกก่อนถึงเวลาชุมนุม /3.ภายหลังการชุมนุมมีการทำลายตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะควบคุมสัญญาณได้ จึงอาจจะส่งผลกับผู้ที่ใช้รถใช้ถนน

ส่วนการชุมนุมในวันนี้(11 ส.ค.) มีการนัดหมายที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับถนนโดยรอบพื้นที่ชุมนุม อาทิ ถนนพญาไท จากแยกพญาไท-อนุเสาวรีย์ฯ/ถนนพหลโยธิน จากอนุเสาวรีย์ฯ-แยกสะพานควาย /ใต้ทางด่วนดินแดง-อนุเสาวรีย์ฯ /ถนนราชวิถี จากอนุเสาวรีย์ชัยฯ-ตึกชัยฯ ทั้งนี้ถ้ามีผู้ชุมนุมมีจำนวนมากอาจจะส่งผลให้2 ช่องทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยฯ อาจจะใช้การไม่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงแนะนำทางเลี่ยงให้กับผู้ที่ต้องใช้รถใช้ถนนให้ไปใช้เส้นทางรอบอนุเสาวรีย์ทางทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ห่างจากอนุเสาวรีย์ชัย 2-3 แยก นอกจากนี้การเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุมนั้นไม่แน่นนอน ผู้ใช้ถนนอาจจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องที่เพจเฟซบุ๊ก1197 หรือโทรสายด่วน 1197 ตลอด 24 ชม.

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พัทยา คึกคัก ทหารอเมริกันยกพล ท่องเที่ยว พักผ่อนและนั่งดื่ม ตามบาร์เบียร์ชายหาดพัทยา ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างมาก
"รัฐบาล" ฝ่าแรงเสียดทานทำประชามติ "แก้รธน." แจกเงินดิจิทัล สกัด"กองทัพ"ทำรัฐประหาร
“จุลพันธ์” ย้ำไม่เห็นความเป็นห่วง "ดิจิทัลวอลเล็ต" พร้อมแจ้งบอร์ดธกส.เดินหน้าตามมติครม.
"เต้ มงคลกิตติ์" ดอดซบปชป.แล้ว เข้ากราบ "ชวน หลีกภัย" ยอมรับสาเหตุร่วมเป็นสมาชิกพรรค
ศาลอาญาเพิกถอนหมายจับ “สนธิญา” คดีหมิ่น “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์” นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 27 พ.ค.นี้
สศร.เตรียมมอบธง "Thailand Biennale ภูเก็ต ครั้งที่ 4" เปิดผลสำเร็จเบียนนาเล่เชียงราย  เงินสะพัด 2.4 หมื่นล้าน - จ้างงาน 8 พันอัตรา
"สุชาติ" เข้าทำเนียบ ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าพบนายกฯ หลังมีชื่อเสียบนั่งรมต.
"รัฐบาล" ห่วงประชาชน แนะดูแสุขภาพ ช่วงอากาศร้อนจัด "กลุ่มเสี่ยง" เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
วธ.ปลื้มประชาชนแห่ร่วมงานวันสุดท้าย "ใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจชาติ
Top News เดินหน้าชำแหละซ้ำ ปัญหาสลากฯแพง ผู้พิการร้องเข้าไม่ถึงโควต้าโดนสมาคมฯปิดกั้น "นอท" โผล่ขายเย้ยกม.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น