No data was found

สหรัฐฯ ชื่นชมรัฐบาลไทยจัดสรรวัคซีนรวดเร็ว-เหมาะสม

กดติดตาม TOP NEWS

ทำเนียบฯ 11 ส.ค.- นายกฯ หารือเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ขอบคุณ ปธน.ไบเดน มอบไฟเซอร์ช่วยไทยสู้โควิด สะท้อนสัมพันธ์อันดีไทย-สหรัฐ ขณะที่ทูตฯ สหรัฐชื่นชมรัฐบาลไทยจัดสรรวัคซีนอย่างรวดเร็ว-เหมาะสม นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายพร้อมสนับสนุนบทบาทระหว่างกันในภูมิภาค

นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบหารือและกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ สู่ประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้พบกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และได้หารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีคาดหวังให้ไทย-สหรัฐฯ มีการแลกเปลี่ยนการติดต่อกันอย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมฝากความระลึกถึงและขอบคุณประธานาธิบดีโจ ไบเดน สำหรับความร่วมมือและความสนับสนุนที่สหรัฐฯ มีให้กับไทยมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสถานการณ์โควิด – 19

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยและสหรัฐฯ มีจุดร่วมด้านนโยบายที่สอดคล้องกันและสามารถร่วมมือกันได้ในหลายประเด็น รวมถึงความร่วมมือด้านการพัฒนาทั้งในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ตลอดจนความร่วมมือในกรอบพหุภาคีอย่างสหประชาชาติ เพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

นายอนุชา กล่าวว่า ทางด้านเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ กล่าวยินดีที่ได้เดินทางเยือนไทยและได้มีโอกาสหารือกับนายกรัฐมนตรี โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ฝากความระลึกถึง และยืนยันว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับไทยในฐานะมิตรประเทศที่ใกล้ชิดยาวนาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ตลอดจนชื่นชมบทบาทนำของไทยในภูมิภาคนี้ ซึ่งเอกอัครราชทูตกล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ ว่ามีอนาคตที่ผูกไว้ด้วยกัน (Both futures tie to each other)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศ และสหรัฐฯ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน พร้อมยืนยันว่าไทยยินดีให้ความช่วยเหลือแก่ผู้หนีภัยจากประเทศเพื่อนบ้านและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นความช่วยเหลือตามหลักการด้านมนุษยธรรมที่ไทยให้ความสำคัญและยึดมั่นเสมอมา โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยและเชื่อมั่นในการดำเนินการของไทย ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงการระดมความช่วยเหลือด้านมนุษยชน และด้านสาธารณสุขที่จำเป็นสำหรับประชาชนเมียนมา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและดำเนินการร่วมกันต่อไป

นายอนุชา กล่าวว่า นอกจากนี้ จากประเด็นสถานการณ์โควิด – 19 เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ได้กล่าวถึง สถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อทั่วโลกว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกฝ่ายเผชิญกับความยากลำบากความร่วมมือกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ กล่าวถึงโอกาสที่ได้เห็นการดำเนินการของไทยในการฉีดวัคซีนและปกป้องประชาชนด้วยวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐฯ ได้มอบให้ ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้จัดสรรวัคซีนอย่างรวดเร็ว และเหมาะสม ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับความร่วมมือและการสนับสนุนที่ให้แก่ไทยในการรับมือกับโควิด-19 โดยเฉพาะการบริจาควัคซีนกว่า 1.5 ล้านโดส สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพของทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงพื้นฐานความร่วมมือด้านสาธารณสุขที่แนบแน่นและเป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะมอบวัคซีนเพิ่มเติมให้ไทยอีก 1 ล้านโดสเร็ว ๆ นี้ และจะมอบความช่วยเหลือมูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับไทยเพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับโรคโควิด – 19 ในประเทศไทย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในตอนท้ายทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทั้งไทยและสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ กล่าวว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนให้ความสำคัญกับความตกลงปารีส (Paris Agreement) นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญของรัฐบาลไทย โดยไทยมีนโยบายลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2065 – 2070 และให้การสนับสนุนการลงทุนด้านโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio – Circular – Green Economy Model) ซึ่งยินดีหากเอกชนสหรัฐฯ สนใจลงทุนในประเทศไทย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุลต่านบรูไน" เสด็จเยือนไทย 28-29 เม.ย.นี้ ร่วมลงนามความร่วมมือไทย-บรูไน 2 ฉบับ
ชื่นมื่น “บิ๊กป้อม” เปิดบ้านป่ารอยต่อ กินข้าวร่วมวง “รมต.-สส.พรรคพปชร." ย้ำตั้งใจทำงานเพื่อปชช.
ประชุมเพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำและผลกระทบในเขตพื้นที่ 7 ตำบล
"บุ้ง" อดอาหาร 91 วันแล้ว ล่าสุดแน่นหน้าอก ชามือเท้า ปวดขามาก
คดีสะเทือนขวัญ ตร.เร่งล่าตัว 2 หนุ่มญี่ปุ่น ฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติ หนีซุกประเทศเพื่อนบ้าน
มีหนาว! สะเทือน "คณะก้าวหน้า" ทำ "ธนาธร" สะดุ้งโหยง "กกต."จ่อฟันเคมเปญชี้ชวนหาแนวร่วมสมัคร ส.ว. จี้ยุติการกระทำทันที
"วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนง. 100 กว่าชีวิต
"พิพัฒน์" ห่วงร้อนจัดทำร้ายแรงงาน ฝาก 6 ข้อเตือนระวังคุณภาพชีวิต
กกต.เตือนกลุ่มบุุคคล-องค์กร จูงใจเชิญชวนให้คนลงสมัครสว. เสี่ยงทำผิดกฎหมาย
เปิดคลิปวินาที สุดกร่าง "ผู้บริหารหญิง" บ.ระดับโลก เมาแล้วขับ ด่าตร.ชั้นต่ำ แถมถีบหน้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น