“ชูวิทย์”แจงรับเงินสารวัตรซัว เลี่ยงตอบชัด ๆ ทำไมวันนั้นเลือกไม่ฟ้องสังคม

"ชูวิทย์"แจงรับเงินสารวัตรซัว เลี่ยงตอบชัด ๆ ทำไมวันนั้นเลือกไม่ฟ้องสังคม

จากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แถลงกรณีโพสต์ภาพบนเฟซบุ๊กเป็นรูปปึกเงินในถุงกระดาษ พร้อมระบุข้อความลักษณะมีคนเรียกรับเงินเทาสารวัตรซัว และต่อมานายชูวิทย์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าเป็นตัวเองพร้อมชี้แจงรายละเอียด ระบุว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถือเป็นไอดอลที่ตัวเองติดตามมาตลอด ตัวเองไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะต้องออกมาแฉนายชูวิทย์ เพราะก่อนหน้านี้เคยพูดเอาไว้ว่ามี 3 คน ที่จะไม่ทะเลาะ หรือมีปัญหาด้วย คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ,นายชูวิทย์ กลมวิศิษฏ์ และ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

 

 

 

เพราะเหมือนกับหาเรื่องใส่ตัว แต่ตัวเองกลับได้ข้อมูลมาจากหลายทาง ถึงพฤติกรรมการเรียกรับเงิน แลกกับการไปแฉข้อมูลการกระทำผิด ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหลานนายชูวิทย์ ที่เป็นคนให้ข้อมูลด้วย

หลังจากที่ตัวเองเปิดเผย ข้อมูลนี้นายชูวิทย์ ก็ออกมายอมรับเอง ว่าได้รับเงิน 6 ล้านบาท มาจากสารวัตรซัวจริง ซึ่งมองว่าเป็นเพราะจำนนต่อหลักฐาน จากข้อมูลเงินดังกล่าว เป็นรูปเมื่อปีก่อนที่รับมาจากสารวัตรซัว แบ่งจ่ายมาแล้ว 2-3 ครั้ง และยังมีเงินจากเครือข่ายอีกครั้งละ 10 ล้านบาท

ส่วนตัวมองว่าเงิน 6 ล้านบาท ไม่ใช่ยอดเดียว กับเงินในถุงที่ตัวเองนำภาพไปโพสต์ เพราะได้รับมาตั้งแต่ปีแล้ว อีกทั้งเงินที่อยู่ในถุงไม่ใช่จำนวน 6 ล้านบาท โดยได้ทำกราฟฟิคและภาพจำลองการคำนวณเงินพบว่า เปรียบเทียบกับถุงขนาดมาตรฐาน ที่มีขนาดความกว้าง 32 ซม. สูง 40 ซม. ขอบข้าง 12 ซม. แบงก์พัน 1 ปึก จะมีความสูง 7.2 ซม. หากคำนวณตามจำนวนที่ปรากฏในภาพ 3 ปึก ไม่น่าจะใช่เงินจำนวน 6 ล้านบาท แต่น่าจะเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท ที่ได้รับจากสารวัตรซัว

ข่าวที่น่าสนใจ

นายษิทรา บอกว่า ในรายการโทรทัศน์หนึ่ง เอ่ยถึงตำรวจนอกราชการนายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 35 ที่สนิทสนมกับนายชูวิทย์ คอยประสานงานต่างๆ ให้ ซึ่งตนยังทราบข้อมูลจากคนวงในอีกว่า นายชูวิทย์ มีกล่องดวงใจดวงหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่ทำธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้ากับกัญชา เป็นเสมือนมือขวา ซึ่งกล่องดวงใจดวงนี้ เป็นผู้ที่พาสารวัตรซัว ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และเจ้าของเว็บพนันไปพบนายชูวิทย์ที่โรงแรมเดวิด เพื่อพูดคุยและให้เงินกัน

 

 

ล่าสุดทางด้านนายชูวิทย์ ได้ชี้แจงตอบสื่อ ถึงสาเหตุการรับเงินจากสารวัตรซัว โดยระบุว่า ผมขอเรียนแบบนี้ ผมไมจำเป็นต้องพูดทุกเรื่อง ว่าผมรับเงินมาแล้ว แล้ววันรุ่งขึ้น ทำไมไม่ออกมาพูด คุณคิดหรือไม่ว่า ถ้าเกิดคุณเป็นผม แล้วคุณรับเงินมาแล้ว คุณจะพูดยังไง เผลอ ๆ ก็อาจจะแบบว่า เอาเงินไปไปใช้ดีกว่า ซื้อรถ แต่ผมเอาไปบริจาค พิสูจน์ความสุจริตใจผม ว่าผมไม่ได้ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว ผมคิดว่าคุณน่าจะให้ความเป็นธรรมผมในเรื่องนี้นะ ถ้าคุณถามผม ว่าทำไมไม่ออกมาพูด เอ้าแล้วจะพูดยังไงดี อ่อ มีตำรวจ 2 คน เขาผ่านมา แล้วเอาเงินมาให้ผม 2 ถุง

 

 

 

 

แล้วจะทำยังไงดี คุณจะให้ผมพูดยังไง วิธีการของผม ก็คือเอาไปบริจาคให้หมด ทีนึงถุงนึง 3 ล้าน อีกทีนึงอีก 3 ล้าน อย่างน้อยเงินเหล่านี้ก็นำไปเกิดประโยชน์ต่อสังคม จะมองว่าหักหลังหรือไม่ ไม่เป็นไร เพราะผมมองว่า สารวัตรซัวทำบ่อน ยังไงเขาก็ต้องล่มสลาย เขาไม่เรียกว่าหักหลัง เขารู้ว่าเงินนี้ผมไม่ได้ใช้ เขารู้อยู่เต็มอก

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โรงพยาบาลเบตงจัดกิจกรรม “รวมพลังพยาบาลรักษ์สุขภาพประชาชน” เนื่องในวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2568 เทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
บก.Topnews “ทั่วไทย” ภาคเหนือ นำทีมเข้าร่วมแสดงความยินดี “นายสัญจัญ จันทร์ผ่อง” ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ
ไทย–เมียนมา ประกาศความสำเร็จ 1 ปี “ระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์” เดินหน้าสู่มาตรการปลอดการเผา เริ่ม 1 ม.ค. 2569 สอดรับยุทธศาสตร์ฟ้าใส สร้างห่วงโซ่อาหารปลอดฝุ่นระดับภูมิภาค
กรมอุทยานฯ -​ กอ.รมน. ประสานความร่วมมือปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ เตรียมพร้อมรับมือไฟป่าและภัยธรรมชาติ
“นฤมล” ประชุมผู้บริหาร “อาชีวศึกษา” ลั่นอาชีวะต้องไม่ใช่แค่เด็กช่าง วางเป้าพัฒนาให้ทันยุค VUCA World เปิดทางเอกชน ร่วมผลิตกำลังคนคุณภาพ
พังงา-เริ่มแล้วฤดูเจ้ยเคย ชาวประมงพื้นบ้านออกเรือเจ้ยตัวเคยขาย สร้างรายได้วันละนับหมื่นบาท

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​