ศาลแพ่ง ไม่ห้าม ตร.ใช้กระสุนยางคุมม็อบ เน้นย้ำ ต้องคำนึ่งปลอดภัยเป็นหลัก

ศาลแพ่ง ยกคำร้อง 2 สื่อมวลชนออนไลน์ ยื่นขอให้คุ้มครองชั่วคราว กรณีตำรวจใช้กระสุนยางควบคุมการชุมนุม แต่มีคำสั่งให้ระวังการปฏิบัติหน้าที่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของสื่อมวลชน

จากกรณีที่ นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ กับพวกรวม 2 คน สื่อมวลชนสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง ยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งไต่สวนคุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉิน โดยขอให้มีคำสั่งให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจอารักขา และควบคุมฝูงชน เป็นจำเลยที่ 1-4

มีคำสั่งห้ามเจ้าพนักงานตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้อาวุธปืนยิงกระสุนยางใส่โจทก์ทั้งสอง สื่อมวลชนอื่น และประชาชนที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำการ หรือมีท่าทีคุกคามต่อชีวิตบุคคลอื่น และขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามให้จำเลยที่ 1 และเจ้าพนักงานตำรวจ สลายการชุมนุมโดยขัดต่อหลักการพื้นฐาน ว่าด้วยการใช้กำลังและอาวุธ และหลักการดูแลการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 3 วงเล็บ 6 และห้ามสลายการชุมนุมโดยขัดต่อกฎหมาย

ขณะ น.ส.จันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า หลังจากศาลได้พิจารณาคำร้องแล้ว ได้ยกคำร้องดังกล่าว แต่สั่งให้จำเลยที่ 1 ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุม และสลายการชุมนุม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของโจทก์ทั้งสองคน และสื่อมวลชน ภายใต้หลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน

ขณะเดียวกัน ศาลได้พิจารณาจาก พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ มาตรา 17 เรื่องการใช้อำนาจควบคุมการชุมนุม ไม่ได้ตัดสิทธิ์ผู้ได้รับความเสียหายจากการควบคุมสถานการณ์สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ และเจ้าพนักงาน ย่อมมีอำนาจในการสลายการชุมนุมด้วยวิธีการเหมาะสมตามสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ส่วนการใช้กระสุนยาง ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของสถานการณ์ที่รุนแรงในแต่ละครั้ง และเห็นว่าตำรวจไม่ได้มุ่งกระทำต่อสื่อมวลชน หรือประชาชนโดยเฉพาะ ซึ่งหากผู้ใดพบว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย หรือถูกเจ้าพนักงานยิงกระสุนยาง ก็ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอาญา โดยที่ศาลแพ่งไม่ต้องสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อน

ส่วนที่ โจทก์ยื่นขอให้คุ้มครองประชาชนทั่วไปด้วยนั้น ศาลไม่สามารถออกคำสั่งได้ เนื่องจากโจทก์ฟ้องคดีในฐานะสื่อมวลชน ซึ่งไม่ได้เป็นผู้เข้าร่วมชุมนุมจึงไม่อาจร้องขอคุ้มครองชั่วคราวแทนผู้ชุมนุมได้ รวมถึงกรณีที่ผู้ร้องขอไม่ให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่คุกคามข่มขู่ จำกัดพื้นที่สื่อมวลชนนั้น ศาลเห็นว่าพยานโจทก์ทั้งสองคนไม่ได้เบิกความว่า ถูกจำกัดพื้นทราในการปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่อาจขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากศาลมีคำสั่งให้ตำรวจระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าหน้าควบคุมการชุมนุมและสลายการชุมนุมนั้น วันนี้ก็จะนำคำสั่งไปปิดที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮุนเซนเรียกร้องแรงงานกัมพูชาในไทยกลับบ้าน
ชาวกัมพูชาแห่กลับประเทศ ทะลักด่านช่องจอม จ. สุรินทร์ รถบรรทุกต่อคิวแน่น รอข้ามแดน
ฮุนเซนขีดเส้นตายไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนทั้งหมดวันนี้
สุดฉาว "เพจ CSI LA" แฉเบื้องลึก เขมรปลุกกระแสรบไทย แค่กลบข่าว "บริษัทหลานฮุน เซน" ฟอกเงินระดับโลก
"แรงงานกัมพูชา" โอดอยากอยู่ทำงานที่ไทยมากกว่ากลับประเทศ ตามคำเชิญชวนของรัฐบาลกัมพูชา ซัดถ้ามีงานจริงคงไม่ดิ้นรนมาไทย
"ฮุน มาเนต"เร่งเร้าไม่หยุด สั่งหน่วยราชการพร้อมรับชาวกัมพูชากลับบ้าน ปั่นข่าวโดนคนไทยขู่ขับไล่
"ในหลวง" ทรงห่วงใย พระราชทานสิ่งของเป็นขวัญ-กำลังใจ ให้ทหารกองทัพภาค 2 ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องชายแดน
"ศาลล้มละลายกลาง" สั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ "บมจ.การบินไทย" นำบริษัทกลับตลาดหุ้นส.ค.นี้
"มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ฯ" ร่วม "มูลนิธิเพชรรัตน - สุวัทนา" เชิญร่วมกิจกรรมเสวนา “ราชธรรมธีรราชาฯ"
"ดร.ปิติ" ยก 10 ข้อ เตือนสติไทย โดน "กัมพูชา" ปั่นไอโอ เร่งทำเอกสารไม่รับอำนาจศาลโลก ตัดไฟ อินเตอร์เน็ตจริงๆ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น