No data was found

“ครอบครัวรัตนพันธ์” ดับเครื่องชนชินวัตร ขอหยุดโกง ร้อง”บิ๊กตู่”สอบเส้นทางเงิน SC Asset

กดติดตาม TOP NEWS

"ครอบครัวรัตนพันธ์" ร้องขอความเป็นธรรมกับ นายกรัฐมนตรี ปมข้อพิพาทกับบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถูก "ตระกูลชินวัตร" รังแก ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลง ขอให้หยุดโกงเพราะตายไปก็เอาเงินไปไม่ได้ คนที่อยู่ข้างหลังจะเดือดร้อนลงการรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย และฟ้องนิติกรรมอำพราง

16 มี.ค.66 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ พร้อมด้วยสมาชิกครอบครัว ประกอบด้วย ลัดฟ้า รัตนพันธ์ , ฐานิตา รัตนพันธ์ และคุณย่า วนิชา รัตนพันธ์ นำหลักฐานเอกสารเดินทางมายังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีนายประทีป กีรติเลขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้มารับเรื่อง ระบุเหตุผลว่าถูกรังแกจากการไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลง การรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขายของบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบุคคลใน ตระกูลชินวัตร และขอให้มีการตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบการดำเนินกิจการของบริษัทเอสซี แอสเสทฯ และผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจ ที่ส่อพฤติการณ์ขาดความโปร่งใสและไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้น และนักลงทุน รวมถึงการขอให้มีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของบริษัทเอสซี แอสเสทฯ ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน

 

 

พร้อมแสดงรายละเอียดผ่านหนังสือร้องเรียนว่า สืบเนื่องจากกรณีที่บริษัท บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นนิติบุคคล ประเภทบริษัท มหาชน จำกัด อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประชาชนทั่วไปสามารถทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทได้ รวมถึง บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการอยู่อาศัยจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป

โดยมี นายณัฐพงษ์ คุณากรวงษ์ ทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEO ซึ่ง และเป็นสามีของนางสาวพิณทองธา ชินวัตรคุณากรวงษ์ ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 และเป็นพี่เขยของน้องสาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ผู้ถือหุ้นอันดับที่ 1 ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยที่ผ่านมา ครอบครัวรัตนพันธ์ต้องสูญเสียบ้านและที่ดิน เนื่องจากบริษัท บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย ฉบับวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2559

สำหรับที่ดินที่เป็นข้อพิพาท เป็นบ้านเรือนไทย ติดถนนใหญ่ มีเนื้อที่เกือบ 5 ไร่ ครอบครัวรัตนพันธ์พักอาศัยกันมายาวนานกว่า 10 ปี พื้นที่ดังกล่าวนี้ เคยเป็นสำนักงานบริษัท ร้านอาหารฟาร์มเห็ดฟาร์มสุนัขนำเข้า และมูลนิธิ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่วงแหวนเสรีไทยรามอินทรา และมีที่ดินของเจ้าอื่นที่ติดกันก็จะมีเนื้อที่กว่า 34 ไร่ และมีที่ดินติดกับบ้านคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ โดย ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ เสนอขายให้กับคุณหญิงพจมาน ผ่านนายพิชิต ชื่นบาน ต่อมาคุณหญิงพจมาน ให้เลขาฯโทรมาแจ้งว่าซื้อที่ดินของรัตนพันธ์แล้ว เพราะ ที่ดินบริเวณบ้านมีเพียงพอแล้ว แต่จะส่งเรื่องให้บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้ามาติดต่อซื้อขายเพื่อทำโครงการบ้านจัดสรร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ของบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาขอซื้อที่ดินตามที่คุณหญิงพจมานแจ้งไว้ และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย แต่เนื่องจากที่ดินของดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ มีคดีอยู่ในศาลกับนายทุนเงินกู้ ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา ทำให้ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ ต้องไปถอนฟ้องคดีอาญาและทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลกับนายทุน เพื่อนำที่ดินมาโอนให้บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขบันทึกข้อตกลง

แต่ปรากฎว่าเมื่อใกล้ครบกำหนดเวลาตามบันทึกข้อตกลง บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ปรับเปลี่ยนแปลงข้อตกลง ด้วยการยกเลิกซื้อที่ดินแปลง 20 ไร่ ตลอดจนยังแสดงความไม่แน่นอนในการซื้อที่ดินตามบันทึกทั้งหมด โดยเชื่อได้ว่าน่าจะมีการวางแผนโยกโย้ให้หมดระยะเวลาตามบันทึกข้อตกลง

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ของบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาขอซื้อที่ดินตามที่คุณหญิงพจมานแจ้งไว้ และมีการลงนามบันทึกข้อตกลงรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย แต่เนื่องจากที่ดินของดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ มีคดีอยู่ในศาลกับนายทุนเงินกู้ ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา ทำให้ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ ต้องไปถอนฟ้องคดีอาญาและทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลกับนายทุน เพื่อนำที่ดินมาโอนให้บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขบันทึกข้อตกลง

แต่ปรากฎว่าเมื่อใกล้ครบกำหนดเวลาตามบันทึกข้อตกลง บริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ปรับเปลี่ยนแปลงข้อตกลง ด้วยการยกเลิกซื้อที่ดินแปลง 20 ไร่ ตลอดจนยังแสดงความไม่แน่นอนในการซื้อที่ดินตามบันทึกทั้งหมด โดยเชื่อได้ว่าน่าจะมีการวางแผนโยกโย้ให้หมดระยะเวลาตามบันทึกข้อตกลง

 

 

ส่วนสาเหตุ และแรงจูงใจที่บริษัท SC Asset ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลง เพราะบริษัท SC Asset ได้โยกย้ายนำงบประมาณสำหรับการซื้อที่ดินไปซื้อที่แปลงอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่า และราคาถูกกว่าในบริเวณใกล้เคียงกันเป็นเหตุให้ครอบครัวรัตนพันธ์ต้องสูญเสียบ้าน และที่ดิน ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยตรงไปเป็นของนายทุนเงินกู้ ถ้าคุณหญิงพจมาน ไม่ให้บริษัท บริษัท SC Asset เข้ามาขอซื้อที่ดิน และดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลโปร่งใส ครอบครัวรัตนพันธ์ ก็ไม่ต้องเสียบ้าน และบ้านแตกสาแหรกขาดจนถึงทุกวันนี้

 

ด้านนางสาว ฐานิตา รัตนพันธ์ กล่าวถึงการมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากครอบครัวรัตนพันธ์ได้รับความเสียหายจากการที่บริษัท SC Asset ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดิน อีกทั้งยังเป็นผู้มีอิทธิพล ทำให้ครอบครัวรัตนพันธ์ถูกกลั่นแกล้งจนเกิดความเสียหาย ซึ่งความเสียหายที่ได้รับ ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่มีชีวิต มีทั้งพยานเอกสาร และคลิปที่จะระบุถึงการกระทำผิดของบริษัท SC Asset ตรวจสอบการดำเนินกิจการของบริษัทเอสซีฯ และผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจ ที่ส่อพฤติการณ์ขาดความโปร่งใส และไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้น รวมถึงนักลงทุน

ขณะเดียวกัน ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ ยังย้ำถึงการขอความเป็นธรรม ว่า กรณีที่เกิดขึ้นจากผลการกระทำของบุคคลในครอบครัวชินวัตร ตนอยากให้รัฐบาลได้มีการตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากครอบครัวของตนเคยไปนั่งคุยกับคุณหญิงพจมาน เพื่อขอความเป็นธรรมจากประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ได้รับกลับกลายเป็นว่าคุณหญิงพจมาน ได้นำสัญญาเงินกู้ ซึ่งเข้าข่ายเป็นนิติกรรมอำพราง มาฟ้องครอบครัวรัตนพันธ์ ทั้งที่คนในบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้มาร้องขอให้เข้าไปช่วยเหลือ

 

 

นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีพฤติการณ์ในลักษณะไม่โปร่งใส เพราะเมื่อรู้ว่าผู้บริหารกระทำผิด สัญญาเงื่อนไขกับรัตนพันธ์ จึงยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น แต่เลือกใช้วิธีชดใช้คืนในวิธีที่ผิดปกติ และเชื่อว่าไม่มีบริษัทใดคิดจะทำในลักษณะแบบนี้ โดยการนำเงินจำนวน 20 ล้านบาท ออกบัญชีบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ เมื่อปีพ.ศ 2561 ซึ่งหากเราไม่ออกมาเปิดเผยในเรื่องราวเหล่านี้ เส้นทางเงินเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองได้

ประเด็นสำคัญ คือ ครอบครัวรัตนพันธ์ ได้ต่อสู้คดีนี้ด้วยตนเองมายาวนานกว่า 3 ปี โดยมีการยื่นคำให้การและฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายทั้งหมด 1.5 พันล้านบาทตั้งแต่ปี 2565 และปัจจุบันศาลได้ไต่สวนพร้อมหลักฐาน แล้วเห็นว่าคดีมีมูลโดยงดเว้นค่าธรรมเนียมศาลในส่วนแรก ส่วนค่าธรรมเนียมศาลเพิ่มเติมจำนวน 1.4 ล้านบาท ครอบครัวรัตนพันธ์ได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมในการนำเงินไปวางศาล ทำให้ขณะนี้ศาลมีคำสั่งรับฟ้องแย้งของครอบครัวรัตนพันธ์จำนวน 1,503 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดยไม่รู้ว่าประเด็นนี้ผู้ถือหุ้นในบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทราบเรื่องหรือยัง เพราะถือเป็นความมั่นคงในเรื่องการลงทุนที่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต้องตระหนัก

ด้าน ลัดฟ้า รัตนพันธ์ กล่าวปิดท้ายในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่สังคมควรรับทราบ เพราะส่งผลกระทบต่อในหลาย ๆ ด้าน ทั้งนักลงทุนประชาชนทั่วไป รวมถึงภาคประชาสังคม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โดยภายหลังจบการสัมภาษณ์ ด้านคุณย่า นิดา รัตนพันธ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า อยากขอให้ช่วยเหลือครอบครัวรัตนพันธ์ด้วย และยังฝากบอกไปถึงครอบครัวชินวัตร บางช่วงตอนด้วยว่า “สร้างความดีกันซะมั่ง เงินเอาไปไม่ได้หรอกลูก ตายไปแล้ว คนอยู่ข้างหลังสิลำบาก ชินวัตรรวยเป็นแสน ๆ ล้าน ให้ช่วยด้วยเถอะลูก คุณย่าลำบากมานานแล้ว สู้มา 6 ปี เคยไปบุกชินวัตร มันให้ตำรวจมาจับ เรียกตำรวจมาจับคุณย่า ไปกับหลานกับลูกนี่ล่ะ มันให้ตำรวจมาไล่ คุณย่าพูดความจริง เพราะอยู่ในศีลธรรม ต่อสู้กับครอบครัวนี้มาตลอด รวมถึงขอให้หยุดโกง เพราะตายไปก็เอาเงินไปไม่ได้ คนที่อยู่ข้างหลังจะเดือดร้อน”

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปูตินสั่งกองทัพ ฝึกซ้อมอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี
ชาวบ้านย่านอ่อนนุชผวา เสาสะพานชำรุดแตกหัก วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ไขด่วน
"สพท." แตะมือ "สสส." ร่วมหนุนเสริมโครงการ Gig Worker กระทรวงแรงงาน หวังบรรเทาปัญหาปากท้อง "แรงงานอิสระ" สู้วิกฤตเศรษฐกิจเปราะบาง
สุดตื่นตา โขลงช้างป่าละอู กว่า 30 ตัว เล่นน้ำคลายร้อน นทท.แห่ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
วิกฤตภัยแล้งน้ำแห้งคลองชาวสวนทุเรียนขาดน้ำ ผลผลิตร่วงเสียหายต้นทุเรียนตาย ต้องซื้อน้ำรดพอประทังผลผลิตที่เหลือ วอนภาครัฐเข้าช่วยเหลือและเยียวยา
รวบแล้ว ไอซ์ ห้วยยายพรม ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า ลักรถชาวบ้าน ขณะนั่งไลฟ์สดเย้ยตำรวจ
กลุ่มติดอาวุธ จับทหารเมียนมาหลายร้อยนาย หลังโจมตี-ยึดพื้นที่ตะวันตกของรัฐยะไข่ได้สำเร็จ
สะเทือนใจเด็กชายวัย 12 ปี ถูกแม่เมาสุราใช้มีดขว้างใส่ถูกคมมีดบาดขาเป็นแผลได้รับบาดเจ็บ เพื่อนบ้านเกรงเด็กได้รับอันตรายจึงขอความช่วยเหลือมูลนิธิเป็นหนึ่ง
เมียนมา กลุ่มติดอาวุธจับทหารเมียนมาหลายร้อยนายที่รัฐยะไข่
"ภูมิธรรม" ลั่น "ชลน่าน" ยังอยู่ในใจเสมอ ย้ำ 3 รัฐมนตรีหลุดครม. ไม่ได้ลาออกจากเพื่อไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น