logo

อเมริกาหลบไป “มังกรจีน” ทำสำเร็จ เป็นกาวใจฟื้นสัมพันธ์ “ซาอุฯ-อิหร่าน”

อเมริกาหลบไป "มังกรจีน" ทำสำเร็จ เป็นกาวใจฟื้นสัมพันธ์ "ซาอุฯ-อิหร่าน"

หลังการเจรจาเป็นเวลาหลายวัน ตั้งแต่วันที่ 6-10 มีนาคมที่ประเทศจีน ทางจีน ซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน ก็ได้ออกแถลงการณ์ไตรภาคีร่วมกัน โดยระบุว่า ตามข้อตกลงระหว่างประธานาธิบดีจีน กับผู้นำซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน ที่ให้จีนเป็นเจ้าภาพและสนับสนุนการเจรจานั้น ทางซาอุดีอาระเบียและอิหร่านได้ทำการเจรจาทางการทูตร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาในความแตกต่าง โดยเป็นการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ และองค์การความร่วมมืออิสลาม รวมถึงปฏิบัติตามระเบียบและแนวปฏิบัติระหว่างประเทศตามข้อตกลงร่วมกัน

ทั้งซาอุดีอาระเบียและอิหร่านขอแสดงความขอบคุณอิรักและโอมาน สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาหลายรอบระหว่างปี 2021 – 2022 และขอบคุณผู้นำจีนและรัฐบาลจีนที่เป็นเจ้าภาพ สนับสนุน และมีส่วนร่วมในความสำเร็จของการเจรจาครั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียและอิหร่านตกลงที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตและภารกิจต่างๆ พร้อมเปิดสถานทูตอีกครั้งภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน โดยทั้ง 2 ประเทศจะจัดการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศ เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูต รวมถึงการกลับมาหารือในข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคง ที่ลงนามกันในปี 2001 เพื่อยกระดับสันติภาพและความมั่นคงในระดับภูมิภาค และระหว่างประเทศต่อไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้านนายหวาง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้กล่าวยกย่องอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย ในการสานสัมพันธ์ทางการทูตอีกครั้งว่า เป็นชัยชนะแห่งสันติภาพ เป็นข่าวดีที่สำคัญสำหรับโลกที่กำลังปั่นป่วนในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากวิกฤตยูเครนแล้ว ยังมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพที่ต้องการความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ และจำเป็นต้องได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ซึ่งการเจรจาครั้งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ไม่ว่าปัญหาจะซับซ้อน หรือมีความท้าทายมากมายเพียงใด ตราบใดที่การเจรจาดำเนินไปอย่างเท่าเทียมและมีความเคารพซึ่งกันและกัน พวกเขาจะพบแนวทางแก้ไขที่แต่ละฝ่ายยอมรับได้

 

ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านในปี 2016 หลังจากผู้ประท้วงในอิหร่านซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวชีอะห์ จุดไฟเผาสถานทูตของซาอุดิอาระเบีย ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวสุหนี่ หลังซาอุดิอาระเบียทำการประหารชีวิตนิมร์ อัล-นิมร์ นักบวชชาวชีอะห์ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของซาอุดิอาระเบีย และนอกเหนือจากความแตกต่างทางนิกายแล้ว มหาอำนาจของตะวันออกกลางทั้งสองประเทศ ยังขัดแย้งกันในประเด็นสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ด้วย โดยซาอุดิอาระเบียได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอย่างดี ในขณะที่อิหร่าน ถูกสหรัฐคว่ำบาตรอย่างหนัก จากข้อกล่าวหาเรื่องการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามีสุดช้ำ ร้องถูกบิ๊กขรก.แย่งภรรยา หลังพาเข้าวงการสวิงกิ้ง ลั่นไม่คิดว่าจะถลำลึก
ส้มหยุดโหน เทียบคดี "ลูกเกด" โดน 112 รอดคุก เลิกโทษ "บุ้ง" ตายเพราะวืดประกัน
"แอมมี่-ปูน" รอดนอนคุก ศาลอนุญาตประกันตัว คดีผิด 112
อคส. ประกาศ TOR ประมูลข้าววันนี้ “ภูมิธรรม” ลั่นเข้มมาตรฐาน เชื่อมั่นจบดราม่า
สปส.แจงเหตุจำเป็นเรียกคืนเงินประกัน ผู้ประกอบอาชีพได้รับผลกระทบโควิด
"สรรเพชญ" ฝากรัฐเร่งแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน ย้ำต้องจริงจังระวังกระทบศก.ใต้
“เอกภพ” เตรียมเรียกคู่กรณีดอกเบี้ยโหด ไกล่เกลี่ย กู้เงินต้น 1 หมื่น ใช้หนี้ 12 ปี ดอกท่วมต้นกว่า 2.6 ล้าน
สภาพ "ออย" 3 นิ้ว ขอเรี่ยรายเงินจ่ายศาล หลังโดนคุก-ปรับ คดีบุกบ้านปรานีช่วย “หยก”
"ตะวัน" โล่งใจ ศาลอนุญาตประกันตัว คดีป่วนขบวนเสด็จฯแล้ว
"กสทช." สั่งระงับออนแอร์ "โหนกระแส" 7 มิ.ย. "กรรชัย" ชวนดูโหนกระป๋อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น