นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ….. แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง รัฐสภา เปิดเผยถึงการเสนอคำแปรญัตติของรัฐสภาต่อการขอแก้ไขรายละเอียดของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เสนอคำแปรญัตติให้เขียนมาตราเพิ่มขึ้นใหม่ ในส่วนบทเฉพาะกาลจำนวน 2 มาตรา ได้แก่ 1.ขอกำหนดให้ใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ปรับปรุงใหม่ ในการเลือกตั้งทั่วไป และหากเกิดกรณีมีการเลือกตั้งซ่อม ขอให้งดเว้นมาตราที่ได้ปรับปรุงใหม่ โดยให้ใช้บทบัญญัติเดิมของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และ 2. กำหนดให้รัฐสภาพิจารณาและให้ความเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม และหากเกิดกรณีที่ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ทำไม่แล้วเสร็จก่อนมีการเลือกตั้งทั่วไป ให้อำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเลือกตั้งส.ส.ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
“ผมมองว่าการบัญญัติบทเฉพาะกาลดังกล่าวเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของเนื้อหาและไม่ขัดข้อง อีกทั้งกรรมาธิการฯ มีหน้าที่ต้องพิจารณารายละเอียดและเนื้อหาว่าเป็นเรื่องที่เข้ากับข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 124 วรรคท้ายหรือไม่ ในส่วนที่ต้องเป็นเรื่องซึ่งเกี่ยวเนื่องกัน โดยกรรมาธิการต้องทำเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์ ก่อนจะเสนอต่อประธานรัฐสภา ส่วนรัฐสภาจะเห็นชอบด้วยหรือไม่ต้องพิจารณาในที่ประชุม” นายไพบูลย์ กล่าว
ประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญฯ กล่าวถึงข้อเสนอของกมธ.พรรคก้าวไกล ที่ขอให้รับฟังความเห็นประชาชนว่า การทำงานของกมธ. มีหน้าที่พิจารณาตามคำแปรญัตติของสมาชิกรัฐสภา และความเห็นของกรรมาธิการเป็นรายมาตรา และข้อบังคับการประชุมรัฐสภาไม่ได้เขียนระบุไว้ ดังนั้นส่วนตัวมองว่าไม่จำเป็นต้องรับฟัง อีกทั้งการทำงานของกรรมาธิการฯ นั้นเป็นไปตามที่ได้รับมอบหมายจากรัฐสภา ดังนั้นกมธ.ฯ ที่เตรียมเสนอในประเด็นต่าง ๆ ขอให้คำนึงถึงมติที่ตัดสินในชั้นของรัฐสภาด้วย เพราะข้อเสนอใด ๆ ต้องสอดคล้องกับมติที่ชนะตอนโหวตในที่ประชุมรัฐสภา