ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ออกแถลงการณ์ระบุว่า เซเลนสกีได้จัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่รับผิดชอบด้านกองทัพระหว่างความขัดแย้งกับรัสเซีย โดยเซเลนสกีได้ถามความเห็นนายพลวาเลอรี ซาลุซนีย์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน รวมถึงผู้บัญชาการอาวุโสอีกคนหนึ่ง เกี่ยวกับการดำเนินการเพิ่มเติมในบาคมุท ซึ่งทางผู้บัญชาการก็ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินการป้องกันอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพของยูเครน ที่ประจำการอยู่ในบาคมุทต่อไป
แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่บิลด์ แท็บลอยด์ชื่อดังของเยอรมนีรายงานว่า เซเลนสกีและซาลุซนีย์ เกิดความขัดแย้งกัน เรื่องแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในบาคมุท โดยซาลุซนีย์เรียกร้องให้มีการถอนกำลังออกจากบาคมุท แทนที่จะปกป้องต่อไป เช่นเดียวกับที่กองกำลังยูเครน ที่ประจำการที่บาคมุทก็มองว่า ควรมีการถอนทัพนานแล้ว แต่เซเลนสกีกลับประกาศให้เมืองนี้เป็นแนวป้อมปราการ ที่จะต่อสู้ไปให้นานที่สุด และปฏิเสธที่จะถอนทหารกลับ ด้วยเหตุผลว่า จะกระทบกระเทือนขวัญกำลังใจ หากถูกกองกำลังรัสเซียควบคุมได้
ทั้งนี้ บิลด์ยังมีการรายงานข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ความนิยมของซาลุซนีย์ ในการเป็นผู้นำทางทหารต่อต้านรัสเซีย ทำให้ซาลุซนีย์ กลายเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับเซเลนสกี ซึ่งแม้ทางซาลุซนีย์จะไม่ได้มีการประกาศใดๆ ในเรื่องนี้ออกสู่สาธารณะ แต่ข่าวลือที่สะพัดมาหลายเดือนข่าวนี้ ก็นำความกังวลใจให้แก่เซเลนสกี ถึงการแข่งขันที่อาจเกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน ทางสำนักข่าว RT ของรัสเซีย ก็รายงานโดยอ้างถึงสื่อของสหรัฐว่า ทางสหรัฐเอง ก็เรียกร้องให้เซเลนสกี ถอนกำลังออกจากบาคมุท และมุ่งเน้นไปที่การเตรียมการตอบโต้ครั้งใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ด้วยอาวุธที่จัดหาให้โดยพันธมิตรตะวันตก นอกจากนี้ พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ ก็ยังกล่าวด้วยว่า บาคมุทมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์มากกว่าการปฏิบัติการ และก็ไม่คิดว่า มันจะเป็นความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์แต่อย่างใด หากกองทหารยูเครนตัดสินใจถอยออก และเปลี่ยนแนวป้องกันใหม่ไปยังทางตะวันตกของเมือง
สำหรับบาคมุทนั้น เป็นแนวป้องกันยาว 70 กิโลเมตรของยูเครน ในภูมิภาคดอนบาส ที่ยูเครนก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบในภูมิภาคนี้ เมื่อปี 2014 และขณะนี้ ก็ได้เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดกับกองกำลังรัสเซีย มาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ซึ่งกองกำลังรัสเซียมีความก้าวหน้าอย่างมากในการต่อสู้ที่บาคมุท โดยทำการปิดล้อมเมืองนี้ไว้ได้ ขณะที่มีทหารยูเครนอยู่ภายในกว่าหมื่นนาย