นายกฯพอใจ 3 ปี “บิ๊กคอร์ป” ลงทุน 5 อุตสาหกรรม มูลค่า 6 แสนล้าน

นายกฯพอใจ 3 ปีดึง ‘บิ๊กคอร์ป’ ลงทุน 5 อุตสาหกรรม มุ่งเป้า 6 แสนล้านบาท ด้านตัวเลขการลงทุนของ คนต่างด้าวเดือนม.ค. มีทั้งสิ้นกว่า 5 พันล้านบาท

6 มี.ค.2566 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ถึงความคืบหน้าการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งพบว่าใน 3 ปีที่ผ่านมา 2563-65 ได้มีบรรษัทข้ามชาติใหญ่ระดับโลกเลือกใช้ไทยเป็นฐานลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ

 

 

โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมมุ่งเป้า ประกอบด้วย ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ BCG และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมกัน 2,687 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีพอใจกับการเติบโตของการลงทุนที่เกิดขึ้น และถือเป็นผลสะท้อนที่เป็นรูปธรรมแสดงให้เห็นว่าต่างชาติเชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล พื้นฐาน ศักยภาพของประเทศไทยและคนไทย

 

โดยนายกรัฐมนตรียกให้ความสำเร็จนี้เป็นผลงานของทีมไทยแลนด์ อีกทั้งมั่นใจว่ารัฐบาลได้กำหนดนโยบายมาถูกทาง และได้วางรากฐานให้อุตสาหกรรมใหม่ของประเทศให้เข้มแข็งต่อไปในอนาคต ขณะเดียวกันในเดือนมีนาคมนี้จะประชุมบอร์ดบีโอไออีก 1 ครั้ง ซึ่งสำนักงานบีโอไอจะนำเสนอโครงการลงทุนขนาดใหญ่อีกหลายโครงการให้บอร์ดอนุมัติให้การส่งเสริม

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้รายละเอียดการขอรับส่งเสริมการลงทุนของบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ใน 5 อุตสาหกรรมมุ่งเป้า รวม 2,687 โครงการ เงินลงทุนรวม 6 แสนล้านบาท ดังนี้

1)อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนรวมถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้า 46 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 78,115 ล้านบาท

2) อุตสาหกรรมดิจิทัล 420 โครงการ มูลค่า 64,481 ล้านบาท

3)อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 92 โครงการ มูลค่า 113,990 ล้านบาท

4)อุตสาหกรรม BCG 1,911 โครงการ มูลค่า 305,170 ล้านบาท

5)อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 218 โครงการ มูลค่า 53,104 ล้านบาท

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเดือนมกราคม ปี 2566 ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 52 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 22 ราย

 

 

และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 30 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 5,129 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 298 คน ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติเดือนมกราคม 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 8 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุน 683 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 ของเงินลงทุนทั้งหมด คาดว่าตลอดปี 2566 จะมีนักลงทุนต่างชาตินำเงินเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

 

สำหรับชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1.ญี่ปุ่น 14 ราย คิดเป็นร้อยละ 27 เงินลงทุน 3,588 ล้านบาท

2.สิงคโปร์ 6 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 เงินลงทุน 410 ล้านบาท

3.สหรัฐอเมริกา 6 ราย คิดเป็นร้อยละ 12 เงินลงทุน 9 ล้านบาท

4.สหราชอาณาจักร 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 เงินลงทุน 98 ล้านบาท

5.จีน 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 เงินลงทุน 548 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สำรวจ 'สนามฟุตบอลลอยน้ำ' แห่งใหม่ในซานตง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ทิเบตอนุรักษ์ 'หมู่บ้านโบราณ' ใกล้ทะเลสาบ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แพนด้ายักษ์ในเสฉวน โชว์วิทยายุทธนอนขอนไม้
แม่ทัพกุ้ง มอบเงินช่วยชายแดนไทย ลั่นประชาชนอดทนรออีกนิด ประชุม GBC เป็นบวก ก็อาจกลับบ้านได้
ศน. จัดประกวดเทศกาลกวนขนม "อาซูรอ" จังหวัดภาคใต้
วัดแสงแก้วโพธิญาณ เชิญร่วมบุญใหญ่ กฐินสามัคคี 11-12 ต.ค. 68 รับพระพุทธรูปมงคล-เหรียญมหาปราบสุดพิเศษ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​